A A

15 สิงหาคม 2558

ขยายความเรื่อง พระโพธิสัตว์จากแดนสุขาวดีและสวรรค์ดุสิต

คุณส.ถาม

เรียนคุณ Phonsak

จากที่คุณ Phonsak ตอบเรื่อง "ความรู้ลึกๆเรื่องแดนสุขาวดี และ พระพุทธเจ้า ที่คนทั่วไปไม่รู้"
มีเรื่อง พระโพธิสัตว์จากแดนสุขาวดีและสวรรค์ดุสิต ที่ผมอยากทราบเรื่องนี้มานานเหมือนกัน
พออ่านเรื่องนี้เลยสะกิดต่อมความสนใจใคร่รู้ของผมเพิ่มขึ้นมาอีก

ในเมื่อพระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรมแล้วมาจุติเป็นมนุษย์มีที่มา 2 ทางนั้นแสดงว่าพระโพธิสัตว์ที่เป็นมนุษย์ที่บรรลุธรรมแล้วก็ต้องมีที่ไป 2 ทางเช่นเดียวกันคือ

1. จุติที่สวรรค์ดุสิต ตามความเข้าใจของผมพระโพธิสัตว์ที่เป็นมนุษย์เมื่อบรรลุธรรมแล้วและละสังขารจุติที่สวรรค์ดุสิต เพราะมีปณิธานที่จะสร้างบารมีเพื่อบรรลุเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าบนโลกมนุษย์
2. จุติที่แดนสุขาวดี ตามความเข้าใจของผมพระโพธิสัตว์ที่เป็นมนุษย์เมื่อบรรลุธรรมแล้วและละสังขารจุติที่แดนสุขาวดี เพราะสร้างบารมีมาดีแล้วและปรารถนาที่จะฉุดช่วยสัตว์โลกตลอดไป และเมื่อถึงคราวที่โลกมนุษย์เดือดร้อน ก็จุติหรืออวตารมาช่วยตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น พระกวนอิมปางต่างๆ ที่บรรลุตามแนวทางของพระอวโลกิเตศวร และล่าสุดในบทความคือพระเยซูองค์แรก

คุณ Phonsak กรุณาให้ความกระจ่างเพิ่มเติมด้วยครับ

ด้วยความนับถือ

Phonsak ตอบ

ถูกต้อง และชัดเจนครับ  พระโพธิสัตว์ที่เป็นมนุษย์ที่บรรลุธรรมแล้วก็ต้องมีที่ไป 2 ทางเช่นเดียวกัน คือ 

1. จุติที่สวรรค์ดุสิต คำอธิบายของคุณถูกต้อง 80%  ผมและคุณส.ก็ต้องไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต  เพราะเป็นนิตยโพธิสัตว์ที่ถูกfixไว้แล้วว่า ต้องเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน  ผมเป็นองค์แรก นาม รามะพุทธเจ้า หรือรามพุทธเจ้า รามคือขุนราม หรือพ่อขุนรามคำแหง ในอดีตชาติประมาณ 700 ปี  ผมเคยเกิดเป็นพ่อขุนราม ส่วนคุณส.เป็นพระพุทธเจ้าองค์ 2 ต่อจากผม (พระธรรมราชาพุทธเจ้า)

เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ย ที่เป็นพระราหูขาว ท่านก็อยู่ในชั้นดุสิต  แต่ทำหน้าที่อื่นคือ สร้างความเป็นมงคล ให้ความมั่งคั่งร่ำรวย ให้โชคลาภ ในขณะที่พระยาอสุรินทราหูที่จะเกิดเป็นพระนารทะพุทธเจ้า ผมเคยเจอท่าน ท่านคือหลวงปู่พระมหาผิน สุมโน ตอนนี้กินตำแหน่งพระราชเลขาของเทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ย  องค์นี้ต้องลงไปเกิดเรื่อยๆ เพื่อสร้างบุญบารมีให้เพียงพอเป็นพระพุทธเจ้า  ในขณะที่เทพเจ้าไฉ่ชิงเอี้ยคงจะไม่ลงไปเกิดแล้ว  เพราะมีงานประจำที่ทิ้งไม่ได้เด็ดขาด

พึงสังเกตว่า  พลังงานที่เป็นพระราหู เป็นหน่อพุทธภูมิ  สามารถอวตารไปเกิดได้หลายองค์ เกิดในยุคเดียวกันก็ได้  ดังเช่น ร.4 กับหลวงปู่ศุข วัดคลองมะขามเฒ่า ก็เกิดในยุคเดียวกัน  ตอนนี้ ร.4 ไปเกิดเป็นใครผมก็ไม่รู้  แต่สายพระธรรม  หลวงปู่ศุขมาเกิดเป็นคุณส.  แต่คุณส.มีลูกมีเมียและมีพันธะต้องดูแลครอบครัว  พระอมิตาเลยปล่อยคุณส.ไปก่อน 1 ชาติ  ชาติหน้าค่อยให้เป็นพระอรหันต์  สายนี้เป็นสายตรงที่ทำให้เกิด พระธรรมราชาพุทธเจ้า

2. จุติที่แดนสุขาวดี คำอธิบายของคุณส.ผมคิดว่า ยังไม่ถูกต้อง ธรรมกาย และกายทิพย์อมตะ หรือพุทธนิมิต(สัมโภคกาย)  สิ่งนี้อยู่ในเมืองนิพพาน(แดนสุขาวดี)อยู่แล้ว  ธรรมกายและสัมโภคกาย เป็นกาย+จิตที่มีอยู่แล้ว เป็นพระเจ้าอยู่แล้ว  เพียงแต่กายจิตพระเจ้านี้ไม่แสดงบทบาทอะไร  คล้ายกับหลับไป  แล้วลงไปทำหน้าที่เป็นมโนธรรมสูงสุดในจิตใจให้กับมนุษย์วิญญาณธาตุ หรือกายฝันของตัวเองที่อยู่ในปรโลก 

ถ้ามนุษย์และวิญญาณธาตุนั้นยังไม่บรรลุธรรม กายจิตพระเจ้า หรือ ธรรมกาย และกายทิพย์อมตะ หรือพุทธนิมิต(สัมโภคกาย) ที่อยู่ในเมืองนิพพาน(แดนสุขาวดี)ก็ยังตื่นไม่ได้  ต้องทำหน้าที่มโนธรรมสูงสุดในจิตใจให้กับมนุษย์และวิญญาณธาตุ(อาทิสมานกาย)ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด

พระพุทธเจ้าให้บริกรรมพุทโธ ซึ่งแปลว่า ตื่นแล้ว รู้ตัวแล้ว พระพุทธเจ้าท่านกำลังบอกเราว่า  พวกเราทุกคนกำลังฝันอยู่  การยึดติดและคิดปรุงแต่งในกรรมกิเลสตัณหาและอวิชชา เป็นตัวทำให้กายแท้ หรือธรรมกายและสัมโภคกายของเราฝันไปเรื่อยๆว่า ทุกอย่างมีจริง  ทั้งๆที่จักรวาลแท้จริงมันไม่มีอะไรเลย จักรวาลแท้จริงมันว่างเปล่า  การยึดติดคิดปรุงแต่งกรรมกิเลสตัณหาและอวิชชา  เป็นตัวสร้างภาพมายาเสมือนจริง ให้ดูเป็นของจริง

ทุกอย่างรอบตัวเราเป็นแค่สิ่งลวงตาลวงจิต  ถ้าเรายึดติดแล้วคิดปรุงแต่งเมื่อไร  ทุกอย่างมันก็มีอยู่จริง  แต่ถ้าเราไม่ยึดติด+ไม่คิดปรุงแต่ง  ทุกอย่างมันก็ไม่มีอยู่จริง

7 เดือนก่อน  ผมบรรลุธรรมอย่างน้อยก็อนาคามี  ผมได้ธรรมกายอนาคามี และกายทิพย์อมตะ(สัมโภคกาย)  ผมเลยปล่อยธรรมกายอนาคามี และกายทิพย์อมตะ(สัมโภคกาย) ออกไปเยี่ยมเพื่อนฝูงในเมืองนิพพาน(แดนสุขาวดี)สักหลายเดือน  กายทิพย์อมตะ(สัมโภคกาย)ของ Phonsak มาบอกว่า  ตอนนี้เรา(ทั้งธรรมกายอนาคามีและสัมโภคกาย)กำลังต่อสู้กับกิเลสตัวหนึ่ง  ถ้าเอาชนะไม่ได้  เราก็ต้องมาอยู่ในจิตเธออีก  ยังกลับเมืองนิพพาน(แดนสุขาวดี)ไม่ได้ถาวร

ผมเลยถามท่านว่า  กิเลสตัวหนึ่งที่ท่านเอาชนะไม่ได้  คือ ราคะใช่ไหม?”

กายทิพย์อมตะ(สัมโภคกาย)ของ Phonsak ตอบว่า  ใช่  เธอช่วยเราได้ไหม?”

ผมตอบว่า  "กำจัดราคะผมช่วยได้ แต่ผมไม่ช่วย ผมสัญญากับลูกสาวพญามารเอาไว้  เขามาขออยู่ในจิตของผมต่อไป  ผมก็รับปากไปแล้ว  อีกอย่างท่านให้ผมขจัดราคะ  ผมก็กามตายด้านทางกายทางใจไปเลยซิ  ผมไม่เอาครับ  ผมไม่อยากกลับเมืองนิพพานในตอนนี้ ต้องให้ราคะมันทำให้ผมเกิดเป็นโพธิสัตว์ที่เป็นมนุษย์ต่อไป"

หลังจากวันนั้น อนาคามีพลศักดิ์ ก็ไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็นอีกเลย  ผมแค่ให้ท่านไปเยี่ยมทักทายเพื่อนฝูงสักเดือน 2 เดือน  พอกลับมา  ท่านดันมาขอร้องให้ผมเป็นขันทีเหนือขันที คือ เป็นกามตายด้านทางกาย และทางใจ ซะแล้ว  เหมือนพระเยซูที่เป็นมนุษย์ ที่มีลูกกับแมรี่ แม็กดาลีน เป็นทารกที่ไม่ได้เกิดจากการผสมพันธุ์แบบมนุษย์  ขืนผมยอม  ผมเห็นผู้หญิงสวย แล้วไม่มีราคะ ผมก็ไม่อยากมีเพศสัมพันธุ์ด้วย แล้ววันหนึ่งถ้าผมอยากมีลูก  ลูกของผม  ก็กลายเป็นเด็กที่ไม่ได้เกิดจากการผสมพันธุ์แบบมนุษย์ไป  

0 comments:

แสดงความคิดเห็น