A A

5 กรกฎาคม 2558

แดนพระนิพพานจริงๆ เมืองพระนิพพาน และอายตนะนิพพาน นั้นแตกต่างกัน‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏

หลวงปู่ดู่ บอกว่า "แดนพระนิพพานจริงๆ(ปรินิพพาน)ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง
แต่ไม่ใช่สูญนะแก

..........................

วงกลมจุด :

มันว่าง เพราะ ปัญญาเรารู้ ว่าสิ่งเหล่านี้ มันไม่จริง
ที่มันไม่สูญน่ะ เพราะ ความจริงที่เข้าใจนี้ มันมีอยู่ 

มันไม่มีอะไร ที่พิสดาร ไปกว่านี้หรอก ไอ้พวกที่ คิดว่า มันพิสดาร น่ะ เพราะ มันรู้ไม่หมด รู้ไม่หมด ก็คือ ที่รู้น่ะยังไม่ใช่ของจริง
ก็ เพราะ ยังหลง ไปกับสิ่งที่รู้ที่เห็น แล้วก็พาลมาหลงตัวเองว่า ตัวเองเจ๋งมาก ที่ได้มารู้มาเห็น เรื่องเช่นนี้ แต่หารู้ความจริงไม่ว่า


นั่นมันคือ โลกแห่งความคิด จิตพาไป

ตอบ

ผมคิดว่า คุณวงกลมจุดไม่รู้จริงในสิ่งที่ 
หลวงปู่ดู่ บอกว่า "แดนพระนิพพานจริงๆ(ปรินิพพาน)ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่างแต่ไม่ใช่สูญนะแก  และผมนำเอามาลง
ผมเคยบอกไปแล้วว่า แดนนิพพานมันมี 3 ระดับ 1. ระดับจิตว่าง(ปรินิพพาน) 2. ระดับธรรมกาย(แสงภายใน) 3. ระดับเมืองนิพพานมีพวกกายทิพย์อาศัยอยู่  
แต่ศาสนาพุทธเถรวาทมีอย่างมากก็แดนนิพพานระดับ 1 และ 2 เท่านั้น  ผมจะอธิบายให้กระจ่างดังนี้

1. แดนพระนิพพานจริงๆ(ปรินิพพาน)ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก = ปรินิพพาน เป็นจิตว่างเฉยๆ เป็นอรูป  เป็นสูญที่ไม่สูญ เป็นความมีอยู่ที่อายตนะใดก็รับรู้ไม่ได้  ยกเว้นใจที่ว่าง จึงจะรู้ว่า ปรินิพพาน ซึ่งเป็นจิตว่างเฉยๆอยู่
 
2. เมืองพระนิพพาน และอายตนะนิพพาน = ธรรมกาย  สิ่งนี้เป็นแสงภายในใจ  ที่เรียกว่า "ปัญญา"  พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า  นตฺถิ ปญฺญา สมาอาภา" : แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี

พระนาคเสน มหาเถระ จึงตอบปัญหาพระเจ้ามิลินทราชาว่า:

พระพุทธเจ้ามีจริง แต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน เหมือนเปลวไฟที่ดับแล้วก็ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน อาจชี้ได้เพียงพระธรรมกาย ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น

1. พระพุทธเจ้าปรินิพพานดับขันธ์แล้ว ไม่อาจชี้ได้ว่าอยู่ที่ไหน...หมายถึงนิพพานจิตชี้ไห้ดูไม่ได้  เพราะมันเป็นตัวจิตว่างที่เป็นอรูปนั่นเอง

2. ชี้ได้แต่ธรรมกายของพระพุทธเจ้าเท่านั้น... เพราะธรรมกายเป็นตัวกายหรือเป็นตัวขันธ์  ที่ไม่ใช่ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ฯลฯ  แต่อายตนะนิพพาน(ธรรมกาย) เป็นแสงภายในใจ  จึงแสดงให้ดูได้  เมื่อปฏิบัติได้ถึงระดับอรหันต์

พระพุทธเจ้าจึงตรัสในวักกลิสูตรว่า  "ผู้ใดแลเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา....  เมื่อไม่เห็นธรรม ก็ไม่เห็นเราตถาคต [อรรถกถาสังฆาฏิสูตร]"  เพราะผู้ใดเห็นแสงภายใน และปฏิบัติถึงระดับโสดา-อรหันต์แล้ว  คือได้ปัญญาแล้ว  พระพุทธเจ้าต่างๆย่อมมาปรากฏให้เขารู้เห็น

0 comments:

แสดงความคิดเห็น