A A

5 กรกฎาคม 2558

เจาะลึกเรื่องโคตมพระพุทธเจ้า และ พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเรื่องอจินไตย (ใครอ่านแล้วคิดมากจนเป็นบ้า ผมไม่เกี่ยวนะ)‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏

ผมคิดอย่างนี้นะครับ ในกรณีคนปรกติ ทุกคนมันมีจิตเดียวท่องเที่ยวไปในโลกมีติเดียว แต่โลกมันมี 16 โลก 13 มิติ ไอ้จิตเดียวท่องเที่ยวไป มันจึงสามารถมีได้ถึง 16x13 = 208 ตัว ดังนั้นจึงเทียบได้เหมือนหนังเรื่อง the one ที่ jet leeแสดงได้ มีเจ็ท ลี อยู่หลายร้อยคน แต่อยู่คนละมิติกัน แต่มี เจ็ทลี คนหนึ่งที่สามารถเดินทางผ่านมิติได้ เพื่อมาหาเจ็ทลี ในอีกมิติหนึ่ง เพื่อฆ่า พลังจะได้เข้าอยู่ในเจ็ทลีที่เหลืออยู่

พระพุทธเจ้าของเราก็มีจิตเดียวท่องเที่ยวไปเหมือนกัน แต่มิติมีเป็น 13 มิติ แต่ละมิติมี 16 โลกมนุษย์ จึงกลายเป็นมีเป็น 208 ตัวเช่นคนปรกติ ที่ช่วยกันเสริมพลังบุญบารมีให้ท่านเป็นโคตมพระพุทธเจ้า อย่างไรก็ตาม ในขั้นสุดท้ายกลับมีโคตมพระพุทธเจ้าองค์เดียวเท่านั้น ที่ดูดบารมีของทั้ง 208 ตัว เข้าสู่ท่าน จนกลายเป็นพระพุทธเจ้า แล้วท่านก็อยู่ในโลกมนุษย์ที่เราอยู่ใบนี้ด้วย แต่หลังจากที่โคตมพระพุทธเจ้าได้บรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ท่านจึงอวตารตัวเองออกเป็นร้อยๆตัว ไปประจำอยู่ในโลกมนุษย์มิติต่างๆเหล่านั้น พอโคตมะพระพุทธเจ้าตัวเดียวหนึ่งเดียว(ตัวแม่) ในโลกมนุษย์มิตินี้ตาย โคตมะพระพุทธเจ้าตัวลูก ที่เป็นตัวอวตารหรือตัวโคลนนิ่งในโลกมนุษย์มิติอื่นๆ ไม่ได้ตายไปด้วย ตัวลูกหรือตัวโคลนนิ่ง พวกท่านก็ยังมีอยู่ในโลกมนุษย์มิติอื่นๆเหล่านั้น


อย่างไรก็ตาม ในกรณีพระศรีอริยะเมตตรัยนั้นแตกต่างจากคนปรกติ และแตกต่างจากพระพุทธเจ้าของเราด้วย เพราะท่านต้องการบรรลุธรรมและสร้างบารมีที่สูงกว่าพระพุทธเจ้าของเรา ซึ่งสะสมบารมีน้อยที่สุดคือแค่ ๔ อสงไขยแสนกัป แค่เพียงพอจะเป็นพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะ ท่านจึงช่วยคนได้น้อยกว่าพระศรีอริยะเมตตรัย ซึ่งเป็นวิริยาธิกะ ยิ่งด้วยวิริยะ สะสมบารมีมากที่สุดคือ ๑๖ อสงไขยแสนกัป เพราะพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า ท่านต้องการช่วยจิตวิญญาณให้เข้าถึงนิพพานให้มากที่สุด (มหาศาล) คือมากกว่าพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะเป็น 10 เท่า หรือเป็น 100 เท่า ผมจำตัวเลขไม่ได้แล้ว

หลวงปู่ดู่จึงเรียกพระศรีอริยะเมตตรัยว่า หน่อพุทธภูมิ สามารถแบ่งจิตเป็นหลายจิตมาเกิดในโลกมนุษย์มิติเดียวกันได้ เรียกรวมว่า "ภูตพระเจ้า" ในขณะที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไป หรือแม้แต่พระพุทธเจ้าของเรา ทำไม่ได้ ต้องเป็นจิตเดียวท่องเที่ยวไปในโลกมีติเดียว (ใน 13 มิติจึงจะสามารถมีได้หลายร้อยตัว)

แต่เรื่องพวกนี้มันลึกเกินไป ผมก็ยังไม่เข้าถึงยุคที่เป็นพระพุทธเจ้า ผมจึงรู้ไม่ลึกกว่านี้ เขียนไปพูดไป คนส่วนใหญ่อ่านแล้วก็คงไม่เข้าใจ

สรุป

คนทั่วไป และพระพุทธเจ้าของเรา มีจิตเดียวท่องเที่ยวไปในโลกในมิติหนึ่งเท่านั้น แต่พระศรีอริยะเมตตรัยใช้พุทธบารมีสูงสุดของท่าน ทำให้ท่านมีหลายจิตท่องเที่ยวในโลกในมิติหนึ่งได้ แต่สิ่งที่ผมรู้ ผมก็ไม่แน่ใจว่ารู้จริงหรือเปล่าเพราะชาตินี้บารมีของผมยังไม่ถึงกับเป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสัพพัญญู (รู้ทุกเรื่อง)

คุณรักพงศ์สนใจในเรื่องลึกที่สุดเหมือนคุณส.และผมเลย ผมจึงเชื่อว่า ทั้งคุณรักพงศ์และคุณส.ต่างก็ต้องเป็นพระพุทธเจ้า อย่างไรก็ตาม พึงตระหนักว่า คุณรักพงศ์เป็นหน่อของพระอชิตะ พระเจ้าองค์นั้นจึงเรียกคุณรักพงศ์ว่า พระอชิตะ 2 ด้วยเหตุนี้อาจเป็นไปได้ว่า คุณรักพงศ์ไม่ได้เป็นพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าองค์นี้ แต่คุณรักพงศ์จะเป็นพระพุทธเจ้าหลังจากนั้นอีกนาน เพราะคิวการเป็นพระพุทธเจ้านั้นยาวมาก แต่เรื่องนี้ก็เป็นอจินไตยเหมือนกัน โอกาสที่ผมจะพูดผิดจึงมีเยอะ พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าอาจจะดูดพลังบุญบารมีจากทั้งจิตตัวแม่และตัวที่ท่านแตกหน่อออกไปทั้งหมด เข้าไปอยู่ในตัวท่านก็ได้ ท่านจึงมีบารมีดึงคนเข้านิพพานได้มากกว่าพระพุทธเจ้าของเราเป็น 10 เป็น 100 เท่า

0 comments:

แสดงความคิดเห็น