สมาธิหรือสมถะกรรมฐานจำเป็นต้องค่อยๆฝึก อย่างไรก็ตาม
การบรรลุธรรมไม่จำเป็นต้องใช้สมาธิอย่างเดียว
มีได้หลายวิธี ไม่เช่นนั้นพระพุทธเจ้าจะสอนเรื่องทาน
ศีล สมาธิ และปัญญา (เจริญสติระลึกรู้ไปเรื่อยๆ)ไปทำไม ในสมัยพุทธกาล ก็มีพระอรหันต์ที่บรรลุธรรมจากการทำบุญทำทานอย่างเดียว พระสิวลีเป็นตัวอย่างที่ดี
ในขณะที่กำลังปลงผมเพื่อออกบวชในสำนักพระสารีบุตร
พระสารีบุตรได้เตือนให้ท่านระลึกถึงทุกข์ในขณะที่ยังอยู่ในครรภ์พระมารดา พอพระสิวลีปลงผมเสร็จท่านก็ได้บรรลุพระอรหันตผลพอดี
การทำบุญทำทานอย่างเดียวใช้สมาธิไม่มาก ใช้แต่จิตที่มุ่งมั่นช่วยเหลือคนอื่นเพื่อขจัดกิเลสในใจตัวเองเท่านั้น เหมือนคุณรักพงษ์ยังไง เจริญสติระลึกรู้ไปเรื่อยๆ ก็ใช้แค่สมาธิขั้นต้นนิดหน่อย ไม่จำเป็นต้องได้ฌาน
ก็เป็นพระอรหันต์ได้แล้ว เรียกว่า พระอรหันต์สุกขวิปัสสโก
ผมฝึกสมาธิ
(สมถะกรรมฐาน) มา 30 ปี 15 ปีแรกก็ทำได้ปานกลาง เต็มที่ก็ 15-20 นาที มารุ่งเรืองตอนที่ทำบุญทำทานนี่แหละ หลังจากนั้นก็แผ่เมตตาอุทิศผลบุญทั้งหมดให้เจ้ากรรมนายเวรในแต่ละด้าน
เช่น ด้านการงาน การเงิน สุขภาพ และครอบครัว บรรดาเจ้ากรรมนายเวรของผม
จึงทยอยกันมาหาผมเต็มไปหมด พอผมทำสมาธิไม่ถึง 1 นาที
ก็เข้าถึงฌาน 4 ได้เลย ภาษาพระเรียกว่า
ได้ ”วสี” จิตจะระลึกและจำได้ว่า
เข้าถึงฌาน 4 และอยู่ในโลกของภวังค์ คือ โลกของสวรรค์-นรก หรือโลกของจิตใต้สำนึก ทำได้อย่างไรในเวลาแป๊ปเดียว
ผมรุ่งเรืองทางฌานในช่วง 15
ปีหลัง และบรรลุธรรมสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านชั้นเทพพรหม
เข้าถึงชั้นโสดาบัน จนถึงอนาคามี ตอนที่พวกพระเจ้าให้ผมทำมหาบุญและมหาทานจนผมหมดตัว
และเป็นหนี้หลายแสนบาท แล้วมาบรรลุถึงขั้นอรหันต์ตอนที่
ติดเบ็ดพระอมิตาภะพุทธเจ้า พระอมิตาใช้เหยื่อล่อโดยให้ถูกหวย
3 ตัวบนโต๊ดในครั้งแรก หลังจากนั้นท่านก็ให้เจ๊งหวยอีก
6-7 งวด เพื่อทำลายความหวังและความปรารถนาจะรวยทางหวย
พระอมิตาภะพุทธเจ้าท่านทำสำเร็จได้จริงๆ เพราะพระอมิตามาหาผมเพื่อทำให้ผมบรรลุธรรมถึงขั้นอรหันต์ และได้ความรู้ทางศาสนาระดับสัพพัญญูบางส่วน พระอมิตาไม่ได้มาเพื่อให้ผมรวยทางหวยแต่อย่างใด
ตอนนี้บรรดามหาเทพ รวมทั้งพระอมิตา พวกท่านก็หนีหายไปหมดแล้ว
ก่อนไป..พระอมิตาบอกผมว่า
ตอนนี้ทุกอย่างที่เธอควรรู้ เธอจะรู้เองในจิตโดยอัตโนมัติ บรรดาพระเจ้าจะให้ความรู้เหล่านั้นกับเธอทางจิต
0 comments:
แสดงความคิดเห็น