A A

7 พฤษภาคม 2558

เห็นด้วยหรือไม่ว่าเรื่อง 'พระนิพพานเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึง'

คุณ shart ครับ

ถ้าถกเถียงกันโดยการนำเอาพระไตรปิฎกมาเถียง  ผมก็ตอบอธิบายข้อความในพระไตรปิฎกที่เขายกมาทุกครั้ง  อย่างเช่นนายdhammajakยกมาผมก็ตอบไป  เพราะเขาไม่มีความสามารถในการเข้าใจพระสูตรนั้นได้  เนื่องจากไม่ได้ปัญญาทางพุทธศาสนา  วันๆเอาแต่อวดเก่ง  ทำเป็นผู้รู้ในเว็บธรรมะ  ทั้งๆที่ไม่รู้อะไรจริงๆสักเรื่อง

ในกรณีที่ผมต้องยกพระสูตรของมหายานมาด้วยนั้น  เพราะพระพุทธเจ้าเคยอธิบายเรื่องนั้นไว้แล้วให้กับสาวกฝ่ายมหายาน  แล้วข้อความที่ยกมานั้น ไม่ใช่มีพระอานนท์คนเดียวที่ได้ฟังมาจากพระพุทธเจ้านะครับ  แต่สาวกฝ่ายมหายานและฝ่ายเถรวาทจำนวนหนึ่งก็ได้ฟังด้วย เช่น เรื่องแดนสุขาวดี เรื่องพระอมิตา เรื่องกวนอิม  พวกมารพยายามลบบันทึกเหล่านั้นออกจากพระไตรปิฎก แต่ก็ลบได้แค่ 80% เท่านั้น

ส่วนพระสูตรต่างๆของมหายาน  ปรมาจารย์ของมหายาน 18 นิกายพวกเขาได้ยินมาจากพระพุทธเจ้า  พวกเขาไม่สนใจหรอกว่า เถรวาทจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ  หรือพระอานนท์จะพูดถึงในปฐมสังคายนาหรือไม่ได้พูดถึง  พวกเขาก็ยังเผยแพร่พระสูตรเหล่านั้นมาเรื่อยๆตั้งแต่ในครั้งพุทธกาลถึงปัจจุบัน

ส่วนที่คุณบอกว่า  "พระนิพพานเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึง"  นั่นเป็นความเห็นสุดโง่ของคุณเท่านั้น จุดม่งหมายของพระพุทธศาสนาคือ ไปให้ถึงพระนิพพาน  ถ้า "พระนิพพานเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึง"  แล้วเราจะพูดถึงเรื่องห่าอะไรวะ  ไอ้ควาย!  นี่ผมไม่ได้ว่าคุณนะ  ผมว่ามารที่มันสิงใจคุณอยู่

ผมขอย้ำว่านิพพานมี 3 อย่างคือ

1. นิพพานที่เป็นธรรมกาย  มีจิตมหาบริสุทธิ์อยู่ในกายหรือในรูปที่ละเอียดที่สุด คือ กายอรหันต์ หรือกายธรรม(ธรรมกาย)  กายอรหันต์ หรือกายธรรม นั้นจะดำรงอยู่ในสถานที่ที่ชาวพุทธเถรวาทเรียกว่า "พุทธภูมิ" พุทธภูมินั้นอยู่ในพุทธเกษตร  ที่ชาวพุทธเถรวาทเรียกว่า "เมืองนิพพาน"

2. นิพพานที่เป็นกายทิพย์สัมโภคกาย  ศาสนาอื่นเรียกว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ เนื่องจากนิพพานที่เป็นธรรมกาย  วันๆมีแต่เข้านิโรธ  ไม่ค่อยได้คุยสนทนากัน หรือยุ่งเกี่ยวในเรื่องของ 3 ภพ  ธรรมกายของพระอรหันต์แต่ละองค์จึงต้องเนรมิตตนเอง  ผู้ที่ทำหน้าที่สอนธรรมให้จิตสังขารที่ไม่บริสุทธิ์ต่างๆเข้าถึงนิพพาน  และยุ่งเกี่ยวในเรื่องของ 3 ภพ ออกมาด้วย คือ  กายทิพย์สัมโภคกาย ที่เรียกกันว่า "พระโพธิสัตว์อรหันต์" หรือที่หลวงปู่ดู่เรียกว่า "ภูตของพระเจ้า หรืออนาคามีชั้นพิเศษ" ออกมาด้วย  "พระโพธิสัตว์อรหันต์" ต่างจากอรหันต์ที่เป็นธรรมกายตรงที่  ท่านจะไม่ทิ้งความเมตตากรุณาต่อสัตว์โลกออกจากใจ

3. นิพพานแท้ หรือ ปรินิพพาน  สิ่งนี้เป็นจิตมหาบริสุทธิ์ ที่ไม่สร้างกายหรือร่างใดๆออกมาอีก นิพพานแท้ หรือ ปรินิพพาน  ก็คือ ตัว "ธรรม"นั่นเอง

หลวงปู่ดู่อธิบายว่า  "แดนพระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก  นั่นก็คือสิ่งที่ผมบอกว่า  นิพพานแท้ หรือ ปรินิพพาน  สิ่งนี้เป็นจิตมหาบริสุทธิ์ ที่ไม่สร้างกายหรือร่างใดๆออกมาอีก

มีมารตนใดจะเถียงหรือถามข้อพระธรรมอะไรอีกไหม ถามมาได้


ถาม-ตอบ

นิพพาน 1 กับ 2 จะไม่ทิ้งเมตตาธรรม ใช่ไหมครับ แล้วถือว่าพ้นจากสังสารวัฏแล้วหรือไม่ครับ ...

ต๋อยเอ็มวาร์ โพสต์

แม่นแล้ว! นิพพานธรรมกาย นิพพานสัมโภคกาย นิพพานแท้ที่มีแต่จิต(ปรินิพพาน)ล้วนแล้วแต่พ้นจากสังสารวัฏทั้งนั้น  แต่นิพพานที่เป็นธรรมกายอยู่แต่ในสมาธิขั้นนิโรธเท่านั้น ถึงไม่ทิ้งเมตตาธรรมออกจากใจ  ก็ทำอะไรได้ไม่มาก  ธรรมกายจึงต้องสร้างนิพพานที่เป็นกายทิพย์สัมโภคกายออกมาทำงานช่วย 3 ภพ ให้ทุกจิตเข้าถึงนิพพาน(สวรรค์นิรนดร)
 
               
คุณ พลศักดิ์  เข้าใจ ความหมาย  ที่ผมกล่าวไว้ไม่ถูกต้อง  ผมบอกว่าพระนิพพาน  เป็นปัจจัตตัง  รู้ได้เฉพาะตน  ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปบอกใครเขา (พระนิพพานเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดถึง)  เพราะบอกไปเขาก็ไม่รู้เรื่อง  ผมอาจจะใช้คำพูดที่กำกวม ทำให้คุณเข้าใจผิด  ก็ต้องขอโทษด้วย  ผมไม่โทษคุณ ผิดที่ผมเองสื่อภาษาไม่ดีเอง

shart.com โพสต์

ผมเข้าใจไม่ผิดหรอกครับ  ชัดแจ้งแดงแจ๋  คุณโดนพยามารสิงใจให้เขียน  เพราะมารหมดมุขที่จะสกัดกั้นผม  ผู้เข้าใจพระพุทธเจ้าอย่างหมดเปลือก  เขาจึงสิงคุณให้พูดว่า นิพพาน  เป็นปัจจัตตัง  รู้ได้เฉพาะตน  ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปบอกใครเขา

แม้ว่าสิ่งนี้เป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนก็จริง  แต่คนที่รู้ได้ลึกจริงๆ  และไม่เกรงกลัวพยามารเช่นผม  เปิดเผยได้  เพราะในอนาคตผมจะเป็น พระพุทธเจ้าองค์ที่ 6 นามว่า พระรามะพุทธเจ้า  ส่วนพระอรหันต์ทั่วไปถึงเปิดเผยไป  ผู้คนก็ไม่เข้าใจ  เพราะพวกท่านไม่มีบุญบารมีเพียงพอ

0 comments:

แสดงความคิดเห็น