A A

6 พฤษภาคม 2558

จิตเหี้...และจิตไม่เหี้... หรือ จิตสังขาร และจิตนิพพาน

ถามมาอีก ผม(Phonsak)ก็ตอบได้อีก ยิงคำถามมาเลยนะ ถ้าผมเห็นว่าสนใจผมตอบแน่ ไม่ว่าคุณจะเป็นมารหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าผมตอบ 5 ครั้งแล้ว คุณก็แกล้งกวนตีนถามมาใหม่อีก อันนี้ผมคงไม่ตอบ คุณต้องพิจารณาตัวเองว่า ทำไมฟ้าจึงปิดกั้นกูไม่ให้เข้าใจสักทีวะ

555
ไม่ใช่ฟ้าปิดกั้นหรอกเราจ่ะ
แต่ ฟ้าเข้านิพพานไม่ได้จ่ะ
นั่นเป็นอุปสรรคสำคัญของฟ้า

อ่อ แล้วจิตน่ะก้อเข้านิพพานไม่ได้ด้วย น่ะจ่ะ
เพราะจิตเหมือนลิงที่อยู่ในดงตาล
ที่พระโยคาวจร คอยไล่ตะเพิดตลอดเวลาจ่ะ


dhammajak โพสต์ 

ตอบ

นายdhammajak สมเป็น นายdhammajak จริงๆ คือยังแกล้งโง่ และกวนตีนเหมือนเดิม สอนไป 3 ครั้งแล้วว่า พระไตรปิฎกของเถรวาท พระพุทธเจ้าแยกจิตกับนิพพานออกจากกัน

จิตในพระไตรปิฎกของเถรวาท คือ จิตสังขาร หรือ จิตคิดปรุงแต่งด้วยกิเลสและความยึดมั่นถือมั่น หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า จิตในปฏิจจสมุปบาท หรือ จิตในพระอภิธรรม แต่ จิตในพระไตรปิฎกของเถรวาท เรียกตามแบบของผมคือ จิตเหี้...

นิพพานเป็นจิตว่าง มหาบริสุทธิ์ เป็นจิตวิสังขาร หรือจิตไม่เหี้... จะเอานิพพานไปปนกับจิตเหี้...ได้อย่างไร เหมือนน้ำกับน้ำมันมันผสมกันไม่ได้

นี่ผมตอบคำถามเรื่องจิตเป็นครั้งที่ 4 แล้วนะ มาร
dhammajak ยังมีสิทธิ์ถามเรื่องนี้ได้อีก 1 ครั้ง ใช้สิทธิ์นี้ให้คุ้มนะจ๊ะ แต่ห้ามใช้ในสัปดาห์นี้ เพราะพูดเรื่องจิตมี 1. จิตสังขาร(จิตเหี้...) และ 2. จิตนิพพานหรือจิตพุทธะ(จิตไม่เหี้...) ซ้ำๆซากๆ เดี๋ยวความเหี้..จะติดไปติดบรรดาผู้อ่าน แต่ไม่ติดผมหรอกเพราะผมได้เข้าไปสู่ความเป็นจิตพุทธะ(จิตไม่เหี้...)แล้ว

ส่วนคุณนั้นมีความเหี้...ถึงขั้นยอดเหี้...ติดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ล้างความยอดเหี้...อีกหลายชาติก็ยังไม่หมด เข้าใจไหมนี่
???   ผมเป็นจิตพุทธะคุณเป็นจิตมาร พวกเราเล่นกันอยู่คนละฝ่าย

0 comments:

แสดงความคิดเห็น