นิพพานนั้นมีบ้านมีเมือง มีธรรมกาย(อายตนะนิพพาน)
และพระวิญญาณบริสุทธิ์(กายทิพย์สัมโภคกาย)ที่เรียกว่า
พระอรหันต์โพธิสัตว์อาศัยอยู่ สิ่งนี้เป็นจิตและเจตสิกบริสุทธิ์ ที่ว่างปราศจากกิเลส อยู่ร่วมกัน เจตสิกบริสุทธิ์
เป็นส่วนที่เป็นกายหรือรูปของท่าน
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง นิพพานและเมืองนิพพาน เป็นที่อยู่ของสังขารหรือสังขตะบริสุทธิ์ หรือธรรมกาย(อายตนะนิพพาน) และพระวิญญาณบริสุทธิ์(กายทิพย์สัมโภคกาย) โดยจิตของพวกท่านว่างบริสุทธิ์อาศัยอยู่ในร่างสังขตะบริสุทธิ์
ธรรมกายนั้น ธรรม = จิตว่างบริสุทธิ์ กาย = เจตสิกบริสุทธิ์หรือสังขารบริสุทธิ์
ส่วนปรินิพพาน เป็นเรื่องของจิตว่างบริสุทธิ์อย่างเดียว ไม่เอาแล้วเจตสิก คือ ไม่สร้างส่วนที่เป็นกายออกมาอีก และไม่สร้างเมืองนิพพานห่าอะไรออกมาทั้งสิ้น อยู่เป็นจิตว่างๆในความว่างอย่างเดียว
ดังที่หลวงปู่ดู่เล่าให้ฟังว่า นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย อีกท่อนหนึ่ง หลวงปู่ดู่ ก็ยืนยันว่า "แดน พระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก” ...แดนนิพพานที่ไม่มีอะไรเลย เป็นที่อยู่ของจิตว่างเฉยๆ เรียกว่า "ปรินิพพาน"
ส่วนนิพพานที่มีบ้านมีเมือง อันนั้นก็เป็นนิพพานเหมือนกัน แต่เป็นที่อยู่ของจิตว่างที่สร้างกาย คือ ธรรมกาย และกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จึงต้องเนรมิตสร้างที่อยู่และเครื่องมือเครื่องใช้ให้กายใช้งาน
หรือพูดอีกนัยหนึ่ง นิพพานและเมืองนิพพาน เป็นที่อยู่ของสังขารหรือสังขตะบริสุทธิ์ หรือธรรมกาย(อายตนะนิพพาน) และพระวิญญาณบริสุทธิ์(กายทิพย์สัมโภคกาย) โดยจิตของพวกท่านว่างบริสุทธิ์อาศัยอยู่ในร่างสังขตะบริสุทธิ์
ธรรมกายนั้น ธรรม = จิตว่างบริสุทธิ์ กาย = เจตสิกบริสุทธิ์หรือสังขารบริสุทธิ์
ส่วนปรินิพพาน เป็นเรื่องของจิตว่างบริสุทธิ์อย่างเดียว ไม่เอาแล้วเจตสิก คือ ไม่สร้างส่วนที่เป็นกายออกมาอีก และไม่สร้างเมืองนิพพานห่าอะไรออกมาทั้งสิ้น อยู่เป็นจิตว่างๆในความว่างอย่างเดียว
ดังที่หลวงปู่ดู่เล่าให้ฟังว่า นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย อีกท่อนหนึ่ง หลวงปู่ดู่ ก็ยืนยันว่า "แดน พระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก” ...แดนนิพพานที่ไม่มีอะไรเลย เป็นที่อยู่ของจิตว่างเฉยๆ เรียกว่า "ปรินิพพาน"
ส่วนนิพพานที่มีบ้านมีเมือง อันนั้นก็เป็นนิพพานเหมือนกัน แต่เป็นที่อยู่ของจิตว่างที่สร้างกาย คือ ธรรมกาย และกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จึงต้องเนรมิตสร้างที่อยู่และเครื่องมือเครื่องใช้ให้กายใช้งาน
2. ผม Phonsak ขอเปิดเผยความรู้สูงสุดของพุทธศาสนา ที่ยังไม่เคยมีพระพุทธเจ้าองค์ไหน เปิดเผยจะจะแบบนี้มาก่อนเลย
นี่คือ...ความรู้สูงสุดของพุทธศาสนาที่ยังไม่เคยมีพระพุทธเจ้าองค์ไหน เปิดเผยความรู้สูงสุดจะจะแบบนี้มาก่อน
นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย อีกท่อนหนึ่ง หลวงปู่ดู่ ก็ยืนยันว่า "แดน พระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก” ...แดนนิพพานที่ไม่มีอะไรเลย เป็นที่อยู่ของจิตว่างเฉยๆ เรียกว่า "ปรินิพพาน"
ส่วนนิพพานที่มีบ้านมีเมือง อันนั้นก็เป็นนิพพานเหมือนกัน แต่เป็นที่อยู่ของจิตว่างที่สร้างกาย คือ ธรรมกาย และกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จึงต้องเนรมิตสร้างที่อยู่และเครื่องมือเครื่องใช้ให้กายใช้งาน
นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย = ปรินิพพาน = จิตว่างบริสุทธิ์เฉยๆ
นิพพานที่มีบ้านมีเมือง มีธรรมกาย และมีกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) = นิพพาน = มีทั้งจิตว่างบริสุทธิ์+เจตสิกที่คิดนึก เนรมิตสิ่งต่างๆ
นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย อีกท่อนหนึ่ง หลวงปู่ดู่ ก็ยืนยันว่า "แดน พระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก” ...แดนนิพพานที่ไม่มีอะไรเลย เป็นที่อยู่ของจิตว่างเฉยๆ เรียกว่า "ปรินิพพาน"
ส่วนนิพพานที่มีบ้านมีเมือง อันนั้นก็เป็นนิพพานเหมือนกัน แต่เป็นที่อยู่ของจิตว่างที่สร้างกาย คือ ธรรมกาย และกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จึงต้องเนรมิตสร้างที่อยู่และเครื่องมือเครื่องใช้ให้กายใช้งาน
นิพพานแท้ๆจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย = ปรินิพพาน = จิตว่างบริสุทธิ์เฉยๆ
นิพพานที่มีบ้านมีเมือง มีธรรมกาย และมีกายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์) = นิพพาน = มีทั้งจิตว่างบริสุทธิ์+เจตสิกที่คิดนึก เนรมิตสิ่งต่างๆ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น