A A

4 เมษายน 2558

ถาม-ตอบ ปัญหาเรื่องบุญ และนิพพาน

 ถึงคุณพลศักดิ์ จากศักดินันท์

  จากหัวข้อเรื่อง ทำบุญให้สัตว์หรือขอทาน อาจจะประเสริฐกว่าทำบุญสร้างวัด โบสถ์ วิหาร ก็ได้นะด้านล่างผมมีข้อสงสัยรบกวนสอบถาม 3 เรื่องครับ
  จากหัวข้อเรื่อง ทำบุญให้สัตว์หรือขอทาน อาจจะประเสริฐกว่าทำบุญสร้างวัด โบสถ์ วิหาร ก็ได้นะด้านล่างผมมีข้อสงสัยรบกวนสอบถาม 3 เรื่องครับ

ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจคำว่าบุญของพระพุทธเจ้าก่อนว่าหมายถึงอะไร

   บุญตามความหมายของพระพุทธเจ้า 

   "...ถ้าดับกิเลสได้มากก็เป็นบุญมาก ถ้าดับกิเลสได้น้อยก็เป็นบุญน้อย  ถ้าดับกิเลสไม่ได้ก็ไม่ได้บุญเลย  บาปอกุศลนั้นก็ไม่ใช่อื่น  คือตัวกิเลสนั้นเอง  กิเลสก็คือตัวตัณหานั้นเอง  ดับกิเลสตัณหาได้เท่าใดก็เป็นบุญเท่านั้น  ถ้าดับกิเลสตัณหาไม่ได้ก็เป็นอันไม่ได้บุญ  ไม่ได้กุศลเลย....

   อันว่าบุญสุขบาปทุกข์ ย่อมไม่มี  ณ  ภายนอกตัว บุญกุศลและความสุขนั้นก็คือดวงจิตส่วนบาปกรรมทุกข์โทษนั้นก็คือหมู่แห่งตัณหา  ตัณหานั้นจักมี  ณ ที่อื่นนอกจากตัวตนของเราแล้วไม่มี  ตัวบุญและตัวบาปก็อยู่ที่ใจของเรา  "  
ด้วยเหตุนี้  การที่ทำบุญกับพระโดยเฉพาะพระอรหันต์  แม้ว่าแรงสะท้อนกลับของบุญจากท่านจะแรงกว่าสัตว์ เช่น หมา แมว นก ปลา และขอทาน  แต่แรงบุญที่เราส่งไปนั้นน้อยเพราะเรามีกิเลส มีความอยากหรือความโลภ รู้ว่าท่านเป็นอรหันต์  เลยทำบุญมากเลย  เช่น  เราส่งบุญไป 100 แต่มีความอยาก  เราไม่ได้มีจิตทำบุญเพื่อพุทธศาสนาเต็มที่  แรงส่งจึงเหลือ 30  แต่แรงสะท้อนกลับจากพระ  สมมุติเป็น 10 เท่า = 300  ดังนั้นผลบุญทั้งหมดจึงเป็น 30+300 = 330

   ในขณะที่  คนที่มีจิตทำบุญเอาอาหารให้ปลากิน  ทั้งๆที่เขาเลือกจะทำบุญกับพระก็ได้   แสดงว่า  กิเลสเขามีน้อยกว่ามาก  แรงส่ง 100 จึงกลายเป็น 300 แรงสะท้อนบุญกลับจากปลา เช่น สะท้อนกลับครึ่งเดียว = 150  ดังนั้นผลบุญทั้งหมดจึงเป็น 300+150 = 450

    เข้าใจหรือยังครับ ทำบุญให้สัตว์หรือขอทาน อาจจะประเสริฐกว่าทำบุญสร้างวัด โบสถ์ วิหาร ก็ได้นะ

   ตอบคำถามเรื่องบุญของคุณ

1. วัดแถวบ้านผมมีการให้ซื้ออาหารปลา โดยเงินส่วนนี้จะมีส่วนร่วมสร้างพระอุโบสถด้วย อย่างนี้ได้บุญ 2 ต่อเลยใช่หรือไม่ถ้าทำด้วยจิตเมตตาต่อสัตว์ และจิตที่จะบำรุงศาสนา……  คนที่บอกคุณ  เขาเป็นคนทำบุญร่วมสร้างพระอุโบสถนะ  คุณซื้ออาหารปลา 1,000 บาท  เขาอาจทำสัก 10 บาทก็ได้  เขาไม่ได้บอกคุณว่าจะทำเท่าไร  ถ้าเขาบอกทำ 300 บาท  อันนี้แรงสะท้อนบุญกลับจากการร่วมสร้างอุโบสถจะแรง  ผมคิดว่าเป็นเทคนิคคนขายอาหารปลามากกว่า  เขาก็กลัวว่าคนจะไปทำบุญกับวัดหมด  ไม่ซื้ออาหารปลาจากเขามากกว่า  เลยจูงใจโดยวิธีนี้  

  2. ผมเคยทำบุญกับวัดพระธรรมกายอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยความศรัทธา ไม่ทราบว่าในส่วนที่เราร่วมบุญกับทางวัดจะเป็นกุศลหรือไม่ เพราะมีคนเคยกล่าวว่าทำบุญกับวัดนี้นอกจากไม่ได้บุญแล้วยังได้บาปด้วย  แล้วสำหรับคนวิจารณ์การทำบุญกับวัดนี้อย่างเสียๆหายๆ จะเป็นบาปหรือไม่

   ......  ทำบุญกับวัดธรรมกาย  ผลบุญแรงน้อยกว่าทำบุญกับวัดอื่นมาก  เพราะคนไปทำบุญวัดนี้  ส่วนใหญ่มีจิตใจหวังรวย  หวังผลตอบแทน  ตามการโฆษณาของพวกพระ  ผมจะบอกคุณนะ พระธัมมชโยองค์นี้ต่อไปจะเป็นเทวบุตรมารที่ปกครองชั้นปรนิมมิตวสวัตดีฝ่ายมาร  ตอนนี้ท่านเข้าถึงโสดาบัน  ไม่ได้ไปลึกกว่านี้  เพราะท่านไม่รู้นิยามของบุญแท้จริงว่า  ต้องลดกิเลส  จนถึงขั้นวางกิเลสลง  จึงจะเข้าถึงอรหันต์  ส่วนเรื่องผลบุญผมได้อธิบายไปแล้ว  สรุปว่า

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า:

             ถ้าดับกิเลสได้มากก็เป็นบุญมาก ถ้าดับกิเลสได้น้อยก็เป็นบุญน้อย  ถ้าดับกิเลสไม่ได้ก็ไม่ได้บุญเลย               
ทำบุญกับวัดธรรมกาย  มันมีส่วนหนึ่งช่วยลดกิเลส  ส่วนหนึ่งเพิ่มกิเลส  เพราะไอ้ระบบsalesmanขายบุญของทางวัดนั่นแหละ  มันจึงไปเพิ่มกิเลสให้คนทำบุญ

คนที่วิจารณ์วัดนี้อย่างเสียๆหายๆ  ถ้าทำด้วยจิตอกุศลนั้นบาปแน่  แต่ผมวิจารณ์ไม่บาปเลย  เพราะไม่มีจิตอกุศลแม้แต่น้อย    
 

3. การทำบุญกับพระอรหันต์ที่ยังคงธาตุขันธ์อยู่ กับการกราบไหว้พระพุทธรูป หรือพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าอย่างไหน ให้อานิสงค์มากกว่ากัน หรือการกระทำไหนประเสริฐกว่ากัน

พระพุทธเจ้าตรัสว่า

   1. "ผู้ถือเอาพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้นั้น ชื่อว่าพ้นจากอบาย ทั้งยังจะได้เกิดในเทวโลก"
  
   2. "ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งได้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะแล้ว จักไม่เข้าสู่อบายภูมิ ครั้นละจากอัตภาพของมนุษย์แล้ว ย่อมยังกายของเทพให้บริบูรณ์"

   3. "ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยคุณอันอุดมอย่างนี้ ชื่อว่าจะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งพ้นจากการบังเกิดในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ"

    4. “คนที่ไม่เคยใส่บาตร ไม่เคยฟังเทศน์ ไม่เคยยกมือไหว้ นึกถึงชื่อตถาคตอย่างเดียว ตายแล้วไปสวรรค์ไม่ใช่นับร้อย นับพัน นับเป็นโกฏิ

สรุป
 ทำบุญกับพระอรหันต์ยังตกนรกได้  แต่ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า  ไม่มีการตกนรก  ผมว่าหัดระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้เสมอดีกว่า  ตกนรกไม่ได้  อานิสงค์น่าจะมากกว่ากัน  เช่น นายแคล้ว ธนิกุล  โดยรุมยิงตาย  กะทันหัน เลยอมพระสมเด็จไว้ในปาก  ขึ้นสวรรค์ทันทีแล้วอยู่นานมากๆๆๆๆด้วย

   ผมขอตอบคำถามคุณภูวดลไปด้วยเลย

   ถาม  ถ้าได้อรหันตผลแล้วไม่เข้านิพพาน และไม่ปรารถนาพุทธภูมิ แต่ต้องการช่วยเหลือสรรพสัตว์ โดยที่ไม่ต้องมาเกิดอีกทำได้หรือไม่คับ (อยากช่วยเหลือแต่ก็ไม่อยากเกิดอีก)

   ตอบ  นิพพานมีนิพพานแท้ (ปรินิพพาน)  อยู่เป็นจิตว่างเฉยๆในจักรวาลอันว่างเปล่า  และนิพพาน.... เฉยๆซึ่งมีบ้านมีเมืองมี 2 แบบ 1. แบบธรรมกายอยู่ในพุทธภูมิ 2. แบบสัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์)อยู่ในพุทธเกษตร

   พระอรหันต์เข้านิพพาน =  เข้าไปอยู่ในเมืองนิพพาน คือ  พุทธเกษตรด้านบนสุด 

     ถ้าได้อรหันตผลแล้วไม่เข้านิพพาน (ต้องบอกว่าไม่เข้าปรินิพพานหรือไม่เข้านิพพานแท้)  และไม่ปรารถนาพุทธภูมิ แต่ต้องการช่วยเหลือสรรพสัตว์  (พระอรหันต์ส่วนใหญ่ ก็ปล่อยธรรมกายนั่งเข้านิโรธในพุทธภูมิทั้งนั้น  ตัวท่านก็นิรมิตพระวิญญาณบริสุทธิ์ออกมาคุยกัน  ประชุมกันในเมืองนิพพาน)

    ผมน่ะเป็นเหยื่อระบายอารมณ์ในสิ่งที่พวกพระเจ้ารู้  พวกท่านพูดระบายอารมณ์สิ่งที่พวกท่านรู้กับพระเจ้าท่านอื่นๆ  ไม่มันส์เท่ากับระบายให้ผมรู้  เพราะพระเจ้าท่านอื่น ท่านก็รู้เหมือนกัน  จึงไม่สะใจเหมือนกับระบายให้ผมซึ่งยังไม่รู้ฟัง  พอผมฟังแล้ว  และไปเขียนบอกมนุษย์ทั่วไปต่อ  ผมก็โดนลงโทษข้อหาผิดกฎสวรรค์นิรันดร(นิพพาน).... กฎสวรรค์บ้าบออะไรกันวะนี่  ปิดทุกอย่างเป็นความลับ  ไม่ให้มนุษย์รู้

   วันหลังพระเจ้าองค์ใด จะเอาความลับสวรรค์มาบอกผมอีก  ผมจะเรียกเก็บค่าบริการที่อุตส่าห์ทนรับฟังการระบายความรู้ของพวกพระเจ้าแล้ว

   มิน่าล่ะ  พวกพระเจ้าชอบมาหาผมเรื่อย  ไม่ว่าจะเป็น
   1. อัลเลาะห์(พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า)
   2. พระยะโฮวา(พระไวโรจนะพุทธเจ้า)
   3. เจ้าแม่กวนอิมภาคขาวและภาคดำ พระอวโลกิเตศวร(จิตกวนอิม)  กวนอิมประทานพร  กวนอิมไทยพรรณวดีศรีโสภาค  กวนอิมพระอาจารย์ชิงไห่  กวนอิมภาคดำ
   4. เง็กเซียนฮ่องเต้,
   5. พระอมิตาภะพุทธเจ้า
   6. พระกกุสันธะพุทธเจ้า
   7. พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์(พระอชิตะ)
   8. พระเยซู
   9. พระนางศิริมหามายา แม่ของพระพุทธเจ้า ที่ตอนนี้มาอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว  แต่เดิมอยู่ที่ดาวดึงส์,
   10. ท่านฮกหลิน
   11. ท่านอรหังทัง
   12. ท่านอรหังพลศักดิ์(มโนธรรมของผม)  ที่ผมปล่อยท่านกลับเมืองนิพพานแล้ว  เลยเที่ยวสนุกเพลินเลย
   13. พระศิวะ 
   14. นักบุญชั้นสูงในศาสนาคริสต์  ที่อวตารมาเป็นชาวตางชาติ  ฯลฯ (นึกชื่อไม่ได้ในตอนนี้)

0 comments:

แสดงความคิดเห็น