A A

12 เมษายน 2558

ทำไม พระเจ้าต้องสร้างโลก สร้างมาทำไม แล้วทำไมต้องทำลาย?

obeonekub:

1.. ทำไม พระเจ้าต้องสร้างโลก สร้างมาทำไม แล้วทำไมต้องทำลาย....
2.. ที่จะถามจริงๆคือข้อนี้ จิตประภัสสร เดิมทีมันมาจากไหน มันไปทำท่าไหนถึงหลงกล อวิชชาได้ จนมาหมุนอยู่ใน วงจร ปฏิจจสมุปบาทได้....

ตอบ

ความรู้เกี่ยวกับเรื่องสูงสุดยิ่งกว่าสูงสุดนี้  ความรู้จากสมองก็คิดได้ระดับหนึ่ง  ความรู้จากสมาธิก็รู้ได้อีกระดับหนึ่ง  ความรู้จากสมาธิ(สมถะ)และวิปัสสนาสูงสุดก็รู้ได้อีกระดับ  ความรู้จากผู้ถึงพร้อมที่สุดด้วยสมาธิ(สมถะ)และวิปัสสนาสูงสุด และทำบารมี 10 ครบ คือ พระพุทธเจ้าจึงจะรู้ได้ถูกต้องที่สุด 

แต่ผมเป็นนิตยโพธิสัตว์องค์แรก ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าหลังพระศรีอารย์  และบรรดาพระเจ้าได้ให้รางวัลjackpotของฟ้ากับผมมา  ดังนั้นผมจึงเชื่อว่า  ผมน่าจะรู้ดีและรู้ได้ถูกต้องกว่าคนอื่น   ผมจึงขอเปิดเผยว่า...

1. จักรวาลเดิมนั้นว่างอย่างยิ่ง  แต่ไม่ได้สูญ... มีปรินิพพาน(จิต)ดำรงอยู่

..แรกเริ่มเดิมทีจักรวาลนั้นว่างเปล่า  ไม่มีอะไรอยู่ทั้งสิ้น  แต่ในความว่างเปล่านั้น มันไม่ได้สูญอย่างสิ้นเชิง  มันมีสิ่งหนึ่งอยู่  และจะดำรงอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร  แม้ในภายหลังทุกสิ่งทุกอย่างจะสลายไปหมดแล้วก็ตาม  แต่สิ่งนี้ก็สลายไปไม่ได้  สิ่งนี้คือ ปรินิพพาน(จิต) หรือนิพพานแท้  หรือนิพพานจิต  หรือมหาสุญญตา  ศาสนาอื่นๆเรียกชื่อต่างกันออกไป

ปรินิพพาน(จิต)อยู่ในความว่างของจักรวาลเดิมอย่างนั้นแหละ  จนกระทั่งจู่ๆ  มหาสุญญตา(นิพพานแท้)ก็รู้สึกเปล่าเปลี่ยว  และคิดจะสร้างสรรพจิตและสรรพสิ่งต่างๆขึ้นมา  แล้วให้ทุกสรรพจิตค้นหาตัวเองว่า มหาสุญญตา(ปรินิพพาน(จิต))นั้นมีอยู่  แล้วทุกสรรพจิตที่ถูกสร้าง  ก็ล้วนมี หรือ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของนิพพานแท้ทั้งนั้น 
- กูก็คือมึง  มึงก็คือกู  แต่มึงจะหากูเจอได้  มึงต้องมีความบริสุทธิ์เท่ากับกู

ครั้นแล้ว ปรินิพพาน(จิต)ก็เนรมิตตัวเองออกมาจากความว่างเปล่านั้น ออกมาเป็นธรรมกาย เรียกว่า 
"อาทิพุทธ"  แล้วธรรมกายของอาทิพุทธก็ได้สร้างสัมโภคกาย(พระวิญญาณมหาบริสุทธิ์)ออกมาอีกทอดหนึ่ง  หลังจากนั้นอาทิพุทธก็ได้สร้างเมืองพระนิพพาน(สวรรค์นิรันดร) หรือพุทธเกษตรขึ้นมา  เพื่อเป็นที่อยู่ของ ธรรมกายและสัมโภคกายต่างๆ  ผู้ที่ยังไม่เข้าสู่ปรินิพพาน(เป็นจิตว่างเฉยๆ)  ก็ให้ดำรงอยู่ในพุทธเกษตร(สวรรค์นิรันดร)แห่งนี้  โดยกายทิพย์อมตะ(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จะอยู่ในพุทธเกษตร  ส่วนธรรมกายจะอยู่ในพุทธภูมิ(เขตหนึ่งของพุทธเกษตร)

- ธรรมกาย จะอยู่แต่ในสมาธิขั้นนิโรธ  ไม่ค่อยมาคุยสังสรรค์อะไรกัน
- กายทิพย์อมตะ(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จะคุยสังสรรค์ และทำกิจต่างๆแทนธรรมกาย

เสร็จแล้วอาทิพุทธก็แยกตัวเองออกเป็น 2 คือ  อาทิพุทธภาคขาว
(ต้นธาตุภาคขาว)  และ  อาทิพุทธภาคดำ(ต้นธาตุภาคดำ)   แล้วต้นธาตุทั้ง 2 ส่วน  ก็เริ่มต้นขบวนการสร้างสรรพสิ่ง  โดยต้นธาตุทั้ง 2 ได้แยกหรืออวตารตัวเองออกเป็นพระพุทธเจ้ามากมายก่ายกอง  แล้วพระพุทธเจ้าเหล่านั้นก็แบ่งภาคหรืออวตารตัวเองออกไปเป็นอรหันต์จำนวนอนันต์  โดยต้นธาตุ และพระพุทธเจ้า รวมทั้งเหล่าอรหันต์จะอยู่ในเมืองพระนิพพาน

ขั้นตอนต่อมา  อรหันต์จำนวนอนันต์นั้น ก็ต้องแยกตัวเองหรือแบ่งภาค(ภาษาสมัยใหม่คือโคลนนิ่ง)ตัวเองออกมา  โดยตัวโคลนนิ่งเหล่านี้ ซึ่งคือ 
"จิตปภัสสร"  มีอิสรเสรีภาพและมีสิทธิ์จะเลือกทำความดีความชั่วหรือละความดี(บุญ)และความชั่ว(บาป) เพื่อไปสวรรค์ นรก และนิพพานก็ได้ทั้งนั้น

2.. ก่อนเล่นเกมส์ค้นหาตัวเองของจิตปภัสสร  ต้องมีกรรมการก่อน

หลวงพ่อสดเรียก อาทิพุทธว่า พระพุทธเจ้าภาคอัพยากฤต  เรียก อาทิพุทธภาคขาว
(ต้นธาตุภาคขาว)ว่า พระพุทธเจ้าภาคขาว  และเรียก อาทิพุทธภาคดำ(ต้นธาตุภาคดำ)ว่า พระพุทธเจ้าภาคดำ

หลังจากสนามการเล่นเกมส์ของทุกสรรพจิตที่ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของอาทิพุทธ ถูกสร้างเสร็จแล้ว อาทิพุทธก็เข้าสู่ปรินิพพาน  ปล่อยให้
(ต้นธาตุภาคขาว)หรือพระพุทธเจ้าภาคขาว และ(ต้นธาตุภาคดำ)หรือพระพุทธเจ้าภาคดำคุมการเล่นเกมส์ค้นหาตัวเองของจิตปภัสสรต่อไป

ต้นธาตุภาคดำจะรักษาความยุติธรรม(กฎแห่งกรรม)ไว้เหนือความเมตตากรุณา  ส่วนอาทิพุทธภาคขาวจะรักษาความเมตตากรุณาเหนือกว่าความยุติธรรม

- ในพุทธศาสนานิกายไอศวาริก  อาทิพุทธภาคดำ เรียกว่า
อิศวร  ในศาสนาพุทธ คัมภีร์ปฐมมูล  ระบุ:  พระพุทธเจ้าตรัสกับปัจจวัคคีย์ว่า พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม  ส่วนอัลกุรอานระบุว่า อัลเลาะห์ คือ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพระองค์เดียว มีนามว่า "อัลเลาะห์"  

จะเรียกว่าพระพุทธเจ้าองค์ปฐม  หรือจะเรียกว่าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพระองค์เดียว ก็ตามที  มันก็ถูกต้องทั้งนั้น  เพราะพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ก็คือ พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพระองค์เดียว  แต่ท่านจะแบ่งภาคเป็น 2 เป็น 3 หรือเป็นล้าน หรือเป็นอนันต์  ท่านก็ทำได้ทั้งนั้น

อิศวร หรือ พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  หรือ อัลเลาะห์  ก็คือ อาทิพุทธภาคดำ...นั่นเอง

 พระนามของอัลเลาะฮ์ในคัมภีร์กุรอานมี 99 พระนาม  พระนามที่สำคัญคือ:
28. อัลฮะกัม - ผู้ทรงยุติธรรมยิ่ง
29. อัลอัดลุ - ผู้ทรงเที่ยงธรรม
98. อัรฺเราะชีด - ผู้ทรงเที่ยงธรรม

ดังนั้น "อัลเลาะห์" ซึ่งเป็นอาทิพุทธภาคดำ  จึงต้องทรงความเที่ยงธรรมและทรงยุติธรรมยิ่ง  ซึ่งบางครั้งความเที่ยงธรรมและทรงยุติธรรมยิ่ง  ก็อาจจะมองดูขัดกับหลักความเมตตากรุณา เช่น พระอิศวร (พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า  หรือ อัลเลาะห์) ทำให้เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือทำลายโลกให้สิ้นไปเพื่อรักษาความยุติธรรมหรือกฎแห่งกรรม  เพราะมนุษย์มีกิเลส โลภโกรธหลง กันเต็มที่แล้ว  ยากที่จะเข้านิพพานได้  ต้องให้ไปชำระบุญบาปในสวรรค์นรกก่อน  แล้วให้ไปเกิดในโลกมนุษย์ใบใหม่ในมิติอื่น... อันนี้เป็นความยุติธรรมที่หวังดีและเมตตากรุณาแท้ๆ  แต่จะใครสักกี่คนที่จะสามารถเข้าใจได้ว่า  
"กูทำลายบ้านเมืองและโลกของพวกมึง  ก็เพื่อเห็นแก่พวกมึง"

ด้วยเหตุนี้ อาทิพุทธ จึงต้องมีอาทิพุทธภาคขาว ผู้ทรงมีความเมตตากรุณาเหนือสิ่งอื่นใด คือ พระเยโฮวาห์ ไว้ด้วย  เพื่อยืนยันว่าการทำลายนั้นเป็นการเมตตากรุณาจริงๆ  ในกรณีศาสนาฮินดู พระศิวะ(พระพุทธเจ้าภาคดำ)ก็ต้องมีพระนารายณ์และพระพรหม (เหล่าพระพุทธเจ้าภาคขาว)เอาไว้เพื่อคอยตรวจสอบว่า  การที่ต้องทำลายสุดยอดอสูรต่างๆ  เป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ  เพื่อรักษากฎแห่งกรรม  ไม่เช่นนั้นความชั่วก็สามารถชั่วได้ไม่สิ้นสุด  ความดีก็จะเสื่อมถอยถึงที่สุด

1. อัรเราะฮฺมาน  ผู้ทรงกรุณาปราณี
2. อัรเราะฮีม  ผู้ทรงเมตตาเสมอ

- ในพุทธศาสนามหายานหลายนิกาย  อาทิพุทธภาคขาว เรียกว่า 
พระไวโรจนะพุทธเจ้า หรือ พระพุทธเจ้าองค์ปฐม

อนึ่ง  หลักอิสลามกล่าวว่า  มีพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดพระองค์เดียว มีนามว่า  อัลเลาะห์ ซึ่งก็คือพระเยโฮวาห์ของยิวและพระบิดาของศาสนาคริสต์นั่นเอง  แบ่งภาคกันออกไป   พระไวโรจนะพุทธเจ้า หรือ พระเยโฮวาห์ ก็เป็น อาทิพุทธภาคขาว
(พระพุทธเจ้าภาคขาว) 

3.. เริ่มเล่มเกมส์ค้นหาตัวเองของจิตปภัสสรได้แล้ว

แล้วจะเล่นเกมส์ได้อย่างไรกันล่ะ  ในเมื่อทุกจิตมันไม่มีกิเลสตัณหาเลย  จึงเป็นไปไม่ได้ ที่เหล่าจิตปภัสสรจะสามารถออกไปใช้ชีวิต  และอยู่ที่อื่นได้เลย  นอกจากอยู่ในนิพพานอย่างเดียว  ดังนั้นอาทิพุทธทั้ง 2 ภาค จึงต้องปล่อยนักล่อลวงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดออกมา คือ พญามารฝ่ายดีและพญามารฝ่ายชั่ว(ซาตาน)

พระพุทธเจ้าตรัสว่า ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ” ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร อาคนฺตุเกหิ อุปกิเลเสหิ อุปกิลิฏฺฐํ  แต่ว่าจิตนี้เศร้าหมองแล้ว เพราะ
กิเลสที่เป็นอาคันตุกะเข้ามา

จิตปภัสสรเริ่มต้น  เป็นเหมือนเด็กทารกที่ยังไร้เดียงสา  พอถูกล่อลวงโดยอาคันตุกะ ยอดนักหลอกลวง  ก็เสียความบริสุทธิ์  จึงตกภูมิลงมาเรื่อยๆ จากนิพพานลงมาถึง 31 ภพภูมิ ถึงนรกภูมิชั้นต่ำสุด    พระพุทธเจ้าจึงเรียกว่า 31 ภพภูมิ  

สรุป และ ตอบ

1. ทำไม พระเจ้าต้องสร้างโลก สร้างมาทำไม แล้วทำไมต้องทำลาย.... 

.....  คุณลองอยู่คนเดียวในจักรวาลสัก 1 ล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆปีดูซิ  แม้ว่าจิตของคุณว่างไม่คิดนึกปรุงแต่งแล้ว  แต่คุณจะรู้สึกเปล่าเปลี่ยว  และคุณก็อาจจะสงสัยว่า  กูมีอยู่จริงๆหรือเปล่านี่  แล้วใครจะยืนยันได้ว่ากูมีอยู่จริงๆ  ใครจะอยู่คุยกับกูล่ะวะ  ก็กูยังไงล่ะ กูต้องยืนยันตัวเองโดยผ่านพวกมึง  กูก็คือพวกมึง  พวกมึงก็คือกู  มึงจะหากูเจอได้  มึงต้องมีจิตว่างบริสุทธิ์เหมือนกับกู  ถึงตอนนั้นมึงก็มายืนยันกับกูว่า  กูมีอยู่จริงๆ  ถ้ากูไม่มีอยู่จริง  มึงก็ไม่มีอยู่จริง

เข้าใจหรือยังครับว่า ทำไมพระเจ้าต้องสร้างโลก  สร้างมาทำไม?...  คุณต้องลองอยู่โดดเดี่ยวสัก 1 ล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆปี  คุณจึงจะตอบได้  

ถามผิดแล้วที่ว่า..พระเจ้าต้องทำลาย  พวกมึงเหล่ามนุษย์ทำลายตัวเองด้วยความโลภโกรธหลงต่างหากล่ะ  พระ(พุทธ)เจ้าภาคดำไม่มีทางเลือก  เพราะต้องรักษากฎแห่งกรรม  พระพุทธเจ้าตรัสว่า ......เหตุที่ทำให้โลกพินาศ  ในสมัยใดที่สัตว์ทั้งหลายมีสันดานหนาแน่นด้วยราคะ โลกพินาศด้วยไฟ (ราคะร้อนเหมือนไฟ)  ถ้าหนาแน่นด้วย โทสะ โลกพินาศด้วยน้ำ (โทสะร้ายเหมือนน้ำกรด)  ถ้าหนาแน่นด้วย โมหะ โลกจะพินาศด้วยลม (โมหะเหมือนลมกรด)

2. ที่จะถามจริงๆคือข้อนี้ จิตประภัสสร เดิมทีมันมาจากไหน มันไปทำท่าไหนถึงหลงกล อวิชชาได้ จนมาหมุนอยู่ใน วงจร ปฏิจจสมุปบาทได้....ตอบง่ายๆว่า  พระเจ้าสูงสุดส่งอวิชชามา  พวกเราต้องลงมาเล่นเกมส์ค้นหาตัวเองว่า  พระเจ้าคือกู  กูคือพระเจ้า  ถ้ายังไม่ถึงความบริสุทธิ์  ยังกำจัดไวรัสกิเลสอวิชชาไม่ได้  คุณก็ยังต้องเป็นสรรพสัตว์ต่อไปเรื่อยๆ

ถาม

obeonekub 

1. เป็นเกมที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะกลับเข้าบ้านเก่า
จากที่คุณพลศักดิ์ตอบมาข้างบน ผมเข้าใจไปหลายส่วนเลยครับ
........
2. ถ้าอย่างงั้น สมการที่สมดุล (จากหลักที่ว่า ธรรมชาติจะดุลทุกอย่างให้เท่ากับศูนย์ เมื่อมีขาวต้องมีดำ)ก็เป็นสิ่งที่น่าจะถูกต้อง

3. หากเป็นอย่างนี้แล้ว พอเรากลับเข้าไปสู่ ปรินิพานแท้แล้ว เราก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดออกจากปรินิพพานแท้ได้ เหมือนกันซิครับ
เพราะหาก จิตประภัสสร ทุกดวงกลับเข้าไปใน ปรินิพพานแท้ เกมนี้ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง ตามหลักแล้วเป็นไปได้ใช่มั้ยครับ

ตอบ

 
1). "เป็นเกมที่ไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่จะกลับเข้าบ้านเก่า" กลับนิพพานง่ายหน่อยก็มีครับ 

1. คุณต้องพึ่งบารมีพระพุทธเจ้าภาคขาว  เช่น พระอมิตา ขอเข้าไปจุติในพุทธเกษตรสุขาวดี ซึ่งมี 100 ชั้น  แล้วค่อยๆบำเพ็ญเพียรทางธรรมไปเรื่อยๆ  จนถึงชั้นอรหันต์ ซึ่งอยู่ชั้นด้านบนๆ 

2. คุณต้องพึ่งบารมีพระพุทธเจ้าภาคดำ คือ อัลเลาะห์  เป็นมุสลิมที่ดี  เพราะพุทธเกษตร(สวรรค์นิรันดร)ของเขาก็มี 100 ชั้น  ค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปเหมือนกัน

3. คุณต้องพึ่งบารมีพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ปางทานบารมี คือ พระเยซู  เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตร(สวรรค์นิรันดร)ของพระเยซู ซึ่งมี16 ชั้น ชั้น 15 ของพระเยซู  ชั้น 16 ของพระยะโฮวา  แต่ 1 ชั้นของคริสต์ ก็แยกเป็นเขต  ในขณะที่อิสลามและพุทธสุขาวดีแยกเป็นชั้นไปเลย

พุทธเกษตรสุขาวดี สวรรค์นิรันดรของพระเยซู และอัลเลาะห์  ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีการตกนรก  ถ้าคุณสารภาพบาปใหญ่ๆด้วยความจริงใจ และตั้งใจจะไม่ทำบาปเช่นนั้นอีกทันเวลาก่อนตาย

2). "ธรรมชาติจะดุลทุกอย่างให้เท่ากับศูนย์ เมื่อมีขาวต้องมีดำ)ก็เป็นสิ่งที่น่าจะถูกต้อง"  

ใช่แล้วครับ  พระพุทธเจ้าของเราก็เลยตกนรก  แล้วก็เคยเป็นพญามาร  เรียกว่าอยู่ด้านมืดมาแล้ว  และก็เคยอยู่ด้านสวรรค์มาแล้วจากการทำดีมาตลอด  สุดท้ายพระพุทธเจ้าก็ไม่เอาทั้ง 2 ด้าน เข้าไปอยู่ตรงกลาง คือ ว่างและสงบดีกว่า  ยอมเข้านิพพานและปรินิพพานไป

3).  "พอเรากลับเข้าไปสู่ ปรินิพานแท้แล้ว เราก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดออกจากปรินิพพานแท้ได้ เหมือนกันซิครับ"

พระพุทธเจ้าเรียกผู้ที่เข้านิพพานว่าจบรอบ หรือหมดรอบ  เพราะฉะนั้นเมื่อทุกจิตเข้านิพพานหมดแล้ว  อาจจะต้องประชุมกันว่า  ใครจะลงไปเล่นเกมส์เวียนวายตายเกิดใหม่กันใหม่ก็ได้นะคับ แต่รอบนี้ก็เล่นกันชั่วกัลปาวสานแล้ว  อย่าเพิ่งไปคิดถึงรอบหน้าเลยครับ


0 comments:

แสดงความคิดเห็น