A A

22 มีนาคม 2558

ทำบุญกับผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอันใกล้ มีผลบุญมหาศาล

มีผู้มีใจกุศลท่านหนึ่ง  ต้องการเก็บข้อมูลที่ผมเขียนไว้ในเว็บต่างๆ  และต้องการทำบุญเพื่อช่วยเหลือด้านการเงินของผมด้วย  ผมจึงตอบเขาไปว่า:

1.  
เก็บข้อมูลของผมไว้ดีๆนะครับ  อีกไม่เกิน30 ปี มันจะมีค่ามหาศาล  ข้อมูลของผมมันมีเยอะ  แต่ถ้าช่วง 3 ปีหลังคือ 2010-ต้นปี 2013  ผมลงในเว็บ www.dhammakid.com/board มากหน่อย  และมีในเว็บอื่นๆด้วย  แต่ในเว็บอื่นๆผมอาจใช้ชื่ออื่นๆ  เพราะทีมงานเว็บมาสเตอร์ต่างๆ ล้วนโดนมารสิงใจ ไล่ผมออกจากเว็บ และระงับ ip ของผมเป็นว่าเล่น  ก่อนหน้าปี 2010  ก็มีอยู่ข้อมูลของผมในเว็บอื่นๆด้วย เว็บพันทิพย์ก็มี เว็บmanager เว็บพลังจิต และอีกเกือบ 20 เว็บก็มีทั้งนั้น  ในชื่ออื่นๆ  คุณต้องอ่านเนื้อความ  จึงจะรู้ว่าเรื่องประเภทนี้ผมเป็นคนเขียน

อย่างไรก็ตาม  ช่วง 8 เดือนนี้หรือหลังจากเดือน มิ.ย. 2012  ผมถึงบรรลุธรรมสูงสุด  ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา  ข้อมูลของผมจึงมั่นใจได้ว่า  ไม่ใช่มิจฉาทิฎฐิ 100%  ก่อนหน้านั้นผมยังมีมิจฉาทิฎฐิอยู่บ้างบางส่วน

2.  
คุณรู้ไหม...ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ คนอื่นอ่านข้อเขียนของผม  บางคนก็คิดว่าผมบ้า  บางคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางคนอ่านแล้วมันส์  เอาสนุกอย่างเดียว  บางคนเชื่อหมดใจ  แต่คิดไม่ออกว่า ต้องทำอะไร  ทั้งๆที่ผมก็บอกไปร่วม 10 ครั้งแล้วว่า  ผม Phonsak เป็นนิตยโพธิสัตว์  ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกต่อจากพระศรีอริยะเมตตรัย  แม้แต่น้องชายของผม ผมก็บอกให้ฟังอย่างนี้  แต่ในตอนผมขาดเงินยังชีพแค่ไม่กี่พันบาท  มันก็ยังไม่ให้การช่วยเหลือ  ซึ่งจะทำให้ตัวเองเกิดเป็นมหาเศรษฐีในชาติต่อๆไปอีกไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ

พวกเพื่อนสมัยผมเรียนประถมและมัธยม  มีความคิดดี  ตั้งใจจะทำบุญเพื่ออุทิศกุศลให้กับเพื่อนร่วมรุ่นที่ตายไปเกือบ 10 คน  แทนที่พวกนี้จะเอาเงินมาทำบุญให้ผม  ซึ่งเป็นพระแท้  เป็นอรหันต์ในร่างปุถุชนคนธรรมดา  แต่เพื่อนผมก็คิดไม่ออก  ไม่รู้จักหาบุญใหญ่ให้ตนเองและให้คนอื่น  ดันคิดไปทำบุญเลี้ยงพระที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่ออุทิศกุศลให้กับเพื่อนร่วมรุ่น


บอกตรงๆ พระพวกนั้นไม่ใช่พระแท้  เป็นพระเลี้ยง  พระแท้ไม่ได้ดูกันที่ผ้าเหลือง  แต่ดูกันที่จิต  แล้วผู้ที่เขียนบทความทางศาสนาได้ทุกศาสนา  ประเภทที่ไม่มีใครสามารถโต้แย้งด้วยเหตุผลได้แม้แต่เรื่องเดียว และแม้แต่คนเดียว  ความจริง ก็สมควรรู้แล้วว่า  คนๆนี้ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน  ไม่จำเป็นต้องให้ผมบอกเลยว่า ผมเป็นใคร?  แต่พวกเขาก็โดนพญามารปิดบังไม่ให้เห็นความจริงว่า...ผมเป็นใคร

 คุณนี่โชคดีจริงๆ  
คุณรู้หรือเปล่าว่า....ทำบุญกับนิตยโพธิสัตว์องค์แรก  ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตอันใกล้  มีผลบุญมหาศาลเลย  ยิ่งทำบุญตอนที่ตัวเองก็ยังไม่ชัวร์ว่าเขาจะเป็นตามนั้นหรือเปล่า  ยิ่งมาทำบุญตอนที่ท่านกำลังขาดปัจจัย  ผลบุญมันก็ไปกันใหญ่ คุณบอกว่า  จะแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากเงินเดือนที่เป็นลูกจ้างบริษัทของคุณ  บริจาคเข้าบัญชีผมทุกเดือน

คุณรู้ไหม.... ปี 2013 เป็นปีชง 100%(ปีวิกฤตทางการเงิน)ของผม  ผมต้องมีปัญหาทางการเงินอย่างแน่นอน  เมื่อจู่ๆ คุณก็บอกว่า จะแบ่งเงินเดือนของคุณส่วนหนึ่งให้ผม  ถ้าคุณทำจริง  ในอนาคตอีกไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติ  คุณจะมีฐานะเป็นเศรษฐีและมหาเศรษฐี  เรียกว่า "รวยให้มันเข็ดรวย"   

- ทำอาหารบิณฑบาตให้พระตอนท่านอิ่ม ผลบุญที่ได้ยังไม่ถึง10% ของตอนที่ท่านกำลังหิว  ท้องกำลังร้องอยู่

แต่กรุณาอย่าโอนเงินมาเด็ดขาดในเดือนไหนก็ตามที่คุณเดือดร้อน  หรือทางบ้านและตัวคุณต้องใช้เงิน   เพราะผมไม่ถึงกับเดือดร้อนขนาดต้องอดอยากอดตายแต่อย่างใด  พระเจ้า(พระพุทธเจ้า)เพียงแค่ทดสอบใจของผมเท่านั้นเอง  เหมือนพระเวสสันดรนั่นแหละ  พอบรรลุธรรมแล้ว  เลิกเล่นเกมส์แล้ว  เบื้องบนก็เลิกทดสอบอะไรท่านต่อไปแล้ว  ท่านก็ได้สมบัติทางโลกคืนทั้งหมด

3. 
พระพุทธเจ้าตรัสว่า  พระอชิตะเป็นพระโพธิสัตว์ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป หลังจากพระองค์)

เมื่อครั้งที่พระนางประชาบดีอุตส่าห์ลงมือทอผ้าไตรจีวรด้วยมือตัวเอง  แล้วนำมาถวายพระพุทธเจ้า  แต่พระพุทธเจ้ากลับไม่รับ  แล้วให้พระนางถวายผ้าไตรจีวรนั้นให้แก่พระสาวกองค์อื่น  พระนางประชาบดีก็พยายามถวาย แต่พระอัครสาวกก็ไม่รับ ถวายแก่พระอรหันต์องค์ไหนๆ ก็ไม่มีใครรับทั้งสิ้น

พระพุทธเจ้าประสงค์จะทำให้พระน้านางปลื้มใจจึงให้พระอานนท์นำบาตรมาให้ แล้วพระองค์ก็อธิษฐานให้บาตรลอยหายไปในอากาศ แล้วก็ทรงประกาศให้ภิกษุช่วยกันค้นหาบาตรนั้น

ภิกษุที่มีฤทธิ์ต่างช่วยกันหาบาตร แต่ก็หาไม่เจอ  มาถึงพระโมคคัลลานะผู้มีมีฤทธิ์มาก ท่านเหาะหาบาตรจนหลงไปนอกแสนโกฏิจักรวาล

เรื่องราวโดยพิสดาร คือ

พระโมคคัลลานะหลงไปถึงจักรวาลหนึ่ง ไปยืนอยู่บนฝาบาตรของภิกษุรูปหนึ่งซึ่งเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่งในจักรวาลนั้น พระพุทธเจ้า(พระอมิตาภะพุทธเจ้า)องค์นั้น  ร่างกายใหญ่โตมาก ขนาดพระโมคคัลลานะเมื่อยืนอยู่บนฝาบาตรก็มีขนาดเหมือนแมลงวันเกาะบนฝาบาตรเท่านั้น

แล้วพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ทรงชี้ทางกลับให้แก่พระโมคคัลลานะ ตรัสว่าให้พระโมคคัลลานะเหาะไปตามแสงที่ส่องมาจากวรกายของพระองค์ เมื่อเหาะไปจนสุดปลายแสงแล้วก็ให้มองหาแสงใหม่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเจอแล้วก็ให้เหาะไปหาแสงนั้น เพราะแสงนั้นมาจากโคตมะพระพุทธเจ้า ในที่สุดพระโมคคัลลานะก็กลับมาโลกมนุษย์ได้  แล้วรายงานให้ทราบว่า  ไม่ได้พบบาตรในที่แห่งไหนเลยทั่วทั้งจักรวาล

เรื่องของพระอชิตะมีในช่วงสุดท้าย ที่ด้วยความเมตตาในใจของพระบวชใหม่ชื่ออชิตะ ที่นั่งอยู่ท้ายแถวเลย   พระอชิตะสงสารพระนางประชาบดี  จึงรับผ้าไตรจีวรของพระนาง  พระนางประชาบดีแทนที่จะดีใจ  กลับเสียพระทัยมาก  คิดว่า ตนเองไม่มีบุญพอ ทำบาปอะไรมานะนี่  จึงถวายผ้าไตรจีวรแก่พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้  ถวายแก่พระอรหันต์องค์ใด ก็ไม่ได้ทั้งนั้น  แต่กลับต้องไปถวายให้พระบวชใหม่ ที่ไม่มีคุณพิเศษใดๆเลยแทน  

พระพุทธเจ้าจึงทรงเทศนาเรื่องอานิสงส์ของการถวายสังฆทานให้แก่พระภิกษุบวชใหม่ นามว่าพระอชิตะ” ให้ฟังว่า  พระอชิตะแม้เป็นพระที่ไม่มีอิทธิฤทธิ์อะไรเลย พอพระพุทธเจ้ารับสั่งให้ช่วยกันหาบาตร  ท่านก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง  เลยออกมายืนตั้งจิตอธิษฐานว่า

ที่ท่านมาบวชนั้นไม่ใช่เพราะหมดหนทางทำกิน หรือต้องการลาภสักการะ แต่เพราะต้องการพระโพธิญาณ  ด้วยคำสัตย์นี้ขอให้บาตรของพระพุทธองค์จงปรากฏ” 

ทันใดนั้นบาตรของพระพุทธเจ้าก็ลอยมาสู่มือของพระอชิตะ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสเปิดเผยความจริงว่า  
พระอชิตะเป็นพระโพธิสัตว์ ผู้ที่จะตรัสรู้เป็นพระศรีอริยะเมตไตรยพุทธเจ้า  ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

เหตุผลแท้จริงที่พระพุทธเจ้าต้อง(เข้าเมือง)นิพพานไป ไม่ยอมอยู่ต่อ แม้จะอยู่ได้ถึงวันสิ้นโลกเลยก็ตาม  คือ:

ถ้าพระโคตมะพุทธเจ้าของเราไม่ยอมเข้านิพพาน......

1. อนาคตจะเปลี่ยนไปทันที  คำทำนายของพระองค์ที่ตรัสว่า  ศาสนาพุทธเของพระองค์จะอยู่ได้ 5000 ปี  ก็จะผิดไป   พระศรีอริยะเมตไตรยพุทธเจ้า ก็จะไม่สามารถมาตรัสรู้ได้  เพราะพระพุทธองค์ตรัสว่า

สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คือจะมีพระพุทธเจ้า 2 องค์ไม่ได้ในโลกธาตุเดียวกัน  อย่าว่าแต่พร้อมกันเลย
พระพุทธเจ้าตรัสว่า แม้แต่เกิดก่อนหรือหลังกันก็เป็นไปไม่ได้(ต้องมีองค์หนึ่งเข้านิพพานไปก่อนแล้วเท่านั้น)


2. คำสอนของพระองค์  ที่เทศน์เรื่อง ขันธ์ 5(กายและจิตมนุษย์) เป็นอนัตตา  อยู่ได้ชั่วคราว  ต้องเกิดแก่เจ็บตาย  ก็ไม่ถูกต้อง  เพราะกายมนุษย์ของพระพุทธเจ้าไม่ได้ตาย

2 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าคุณบรรลุธรรมอันสูงสุดแล้ว คุณจะไม่มีเรี่ยไรขอเงินแบบนี้ครับ

    ตอบลบ
  2. ตลกเหมือนคนบ้าอ่ะ 5555+

    ตอบลบ