Phonsak:
หลวงตามหาบัวที่เป็นนาย"บัว
โลหิตดี" ม่องเท่ง(ตาย)ไปแล้ว หลวงตามหาบัวที่เป็นธรรมกายพระอรหันต์จึงจะออกมาแสดงบทบาทได้เต็มที่
หลวงตามหาบัวธรรมกายองค์นี้มารหลอกไม่ได้แล้ว
ส่วนหลวงตามหาบัวที่เป็นนาย "บัว
โลหิตดี" ดันไปใช้สมองคิดเล่นการเมือง
เลยกลายเป็นเหยื่อมารกระจอกๆอย่างนายสนธิลิ้ม
jackyrobinson48: 1. ฟังดูเหมือนท่านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่เป็นพระอรหันต์ กับ ส่วนที่เป็นคนธรรมดา
เราก็จะถามว่า...ที่ท่านบอกว่า หลวงตามหาบัวที่เป็นนาย "บัว โลหิตดี" ดันไปใช้สมองคิดเล่นการเมือง เลยกลายเป็นเหยื่อมารกระจอก นั้นท่านหมายถึง สมองหนึ่งเป็นพระอรหันต์ อีกสมองหนึ่งเป็นคนธรรมดาใช่หรือไม่? แล้วส่วนที่เป็นคนธรรมดาเนี่ยหลงกล ถูกมารหลอก เป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่?
เราก็จะถามต่อว่า... 2. ก็ในเมื่อท่านเป็นพระอรหันต์ รู้เท่าทันกิเลสที่เกิดดับหมดโดยสิ้นเชิง แล้ว ท่านจะยังหลงไปใช้สมองของนาย บัว โลหิตดี อยู่อีกทำไม ในเมื่อพระอรหันต์นั้นรู้เท่าทันความคิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจได้ทะลุปรุโปร่งกว่า?
เราก็จะถามว่า...ที่ท่านบอกว่า หลวงตามหาบัวที่เป็นนาย "บัว โลหิตดี" ดันไปใช้สมองคิดเล่นการเมือง เลยกลายเป็นเหยื่อมารกระจอก นั้นท่านหมายถึง สมองหนึ่งเป็นพระอรหันต์ อีกสมองหนึ่งเป็นคนธรรมดาใช่หรือไม่? แล้วส่วนที่เป็นคนธรรมดาเนี่ยหลงกล ถูกมารหลอก เป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่?
เราก็จะถามต่อว่า... 2. ก็ในเมื่อท่านเป็นพระอรหันต์ รู้เท่าทันกิเลสที่เกิดดับหมดโดยสิ้นเชิง แล้ว ท่านจะยังหลงไปใช้สมองของนาย บัว โลหิตดี อยู่อีกทำไม ในเมื่อพระอรหันต์นั้นรู้เท่าทันความคิดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจได้ทะลุปรุโปร่งกว่า?
ตอบ
มนุษย์เราที่เกิดมาจะมี 2 ร่าง(จิต)
- ร่างหนึ่งเป็นร่าง หรือเป็นจิตในอดีต ร่างนี้เรามองไม่เห็น = การฝันของเรา = จิตใต้สำนึก(ภวังค์จิต)
- อีกร่างหนึ่งเป็นร่าง(จิต)ที่เป็นร่างกายเนื้อ ที่ทุกคนมองเห็นได้ = ร่างมนุษย์ของเรา
ตอนเด็กๆอายุ 1-6 ปี เด็กจำนวนมากสามารถติดต่อกับผี วิญญาณ หรือเทพในปรโลกได้ พวกที่ระลึกชาติได้ เกือบทั้งหมดก็คือเด็กๆ พอโตแล้วกายหรือจิตในปัจจุบัน ก็มีอิทธิพลกับเรามากกว่ากาย(จิต)ที่มองไม่เห็น(จิตใต้สำนึกในอดีตชาติ)
.... วิญญาณ เป็นปัจจัย ให้เกิดนามรูป แล้วนามรูปเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ
พูดให้ชัด.... วิญญาณในอดีต เป็นปัจจัย ให้เกิดนามรูปในปัจจุบัน แล้วนามรูปในปัจจุบันเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณในอนาคต ต่อเนื่องไปอย่างนี้ ไม่มีวันสิ้นสุด จนกว่าจะเป็นอรหันต์
พระพุทธเจ้าทรงค้นลูกโซ่แห่งทุกข์ ก่อนตรัสรู้ สรุปว่า
...เพราะ วิญญาณ นั่นแล มีอยู่ นามรูป จึงได้มี : เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! ความฉงนนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เมื่ออะไรมีอยู่หนอ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีอะไรเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! ความรู้สึกอย่างยิ่งด้วยปัญญา เพราะการทำในใจโดยแยบคายได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "เพราะ นามรูป นั่นแล มีอยู่ วิญญาณ จึงได้มี : เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! ความรู้แจ้งนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า "วิญญาณนี้ ย่อมเวียนกลับจากนามรูป : ย่อมไม่เลยไปอื่น; ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สัตว์โลกนี้ พึงเกิดบ้าง พึงแก่บ้าง พึงตายบ้าง พึงจุติบ้าง พึงอุบัติบ้าง : ข้อนี้ได้แก่การที่ เพราะมีนามรูป เป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป
สรุป
สมองของ นายบัว โลหิตดี ไม่ใช่สมองของพระอรหันต์ แต่เป็นสมองของพญามารที่เป็นอภิสังขารมาร เพราะยังนึกคิดอะไรด้วยอารมณ์ ไม่มีสติอะไรเลยตอนทะลึ่งไปด่าทักษิณ
สมองของ หลวงตามหาบัวที่เป็นธรรมกาย เป็นสมองของพระอรหันต์ สมองของพระอรหันต์ดันไปอยู่ร่วมกับสมองของ นายบัว โลหิตดี ที่เป็นอภิสังขารมาร
ตอนหลังเมื่อนายบัว โลหิตดีมีสติไม่ใช้อารมณ์ จึงเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ธรรมกายอรหันต์ของหลวงตามหาบัวจึงเอาชนะพญามาร(อภิสังขารมาร)ได้อย่างเด็ดขาด กายและจิตปัจจุบันของหลวงตามหาบัว จึงบรรลุธรรมใหม่ได้ ไม่งั้นล่ะก็ ต้องมาทนทุกข์ต่อไปในสังสารวัฏ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น