A A

29 มีนาคม 2558

ขออโหสิกรรมแบบยอดรวม กรรมเฉพาะเรื่องแทบไม่ได้หายไปเลย

พวกเพื่อนๆ รุ่นเดียวกัน - ได้ไปทำบุญที่ รพ.จุฬา ฯ วันพุธที่ 6 มีนาคม 2556  เพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ นิพนธ์ เขียนถึงเพื่อนๆว่า

ถึง เพื่อน ๆ ทุกท่าน
ด้วยเดชแห่งบุญที่ได้ร่วมกันทำให้กับเพื่อนร่วมรุ่นของเราในครั้งนี้
ที่เคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี โปรดอโหสิกรรม ด้วย
ขอให้พวกเราทั้งหลายจงร่วมกันอนุโมทนาในบุญกุศลนี้
ด้วยจิตคารวะ
 สาธุ......

ผมก็เขียนตอบเพื่อนคนนั้นแบบกวนๆ  มันก็กวนมา ผมก็กวนกลับไป  จนมีเพื่อนอีกคนสงสัยชื่อศรัญยูสงสัยว่า


มันคืออะไรครับ ไม่เข้าใจเลย
ทำไม มีเรื่องอะไรกัน เหอๆ แล้วอาฆาตอะไรกัน

ผมจึงเขียนอธิบายให้เพื่อนๆ(โรงเรียนเซนต์ดอมินิก) ฟังว่า:


ด้วยเดชแห่งบุญที่ได้ร่วมกันทำให้กับเพื่อนร่วมรุ่นของเราในครั้งนี้  ที่เคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ  ทั้งที่เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี โปรดอโหสิกรรม ด้วย”  ...อันนี้มันไม่ถูกต้อง  แล้วกรรมก็แทบไม่ได้หายไปด้วย  อ่านคำตอบของผมดูนะครับ

ตอบ

ไม่มีอะไรหรอกครับ  ไอ้นิพนธ์มันเป็นเพื่อนผมสมัยเรียนหนังสือชั้นมัธยม  แต่มันคงจำผมไม่ได้  แล้วมันก็ยังไม่เข้าใจเรื่องบาปบุญดีพอ  ผมจะอธิบายเรื่องบาปบุญให้มันฟังแบบยาวๆ มันก็คงไม่ฟัง  ผมก็เลยต้องใช้วิธีสอนแบบกวนตีนให้เหมาะสมกับมันเท่านั้น  ผมจะสรุปให้คุณฟังเลย

1. บาปกับบุญมันหักกันไม่ได้
2. การขออโหสิกรรม(รวมยอด)  แม้เขาให้อภัยและอโหสิกรรมให้แล้ว  เราก็ต้องได้รับผลกรรมอยู่ดี  และ 
a.เราต้องอโหสิกรรมเป็นเรื่องๆไป แล้วเจ้ากรรมนายเวรต้องอโหสิกรรมให้ในเรื่องนั้นด้วย  b. คนที่ทำกรรมนั้นต้องตั้งใจมั่นว่าจะไม่ทำกรรมแบบนั้นอีกต่อไป  บาปกรรมเฉพาะข้อนั้นในปรโลก จึงจะหมดไป  c. แต่บาปกรรมในโลก ก็ยังมีอยู่ ตามกฎแห่งกรรม  แต่ว่าเบาบางลงมากเท่านั้น

อย่างพระพุทธเจ้าอโหสิกรรมให้พระเทวทัตยอดรวมแล้ว  แต่ข้อ a.+ b.+c
. (สำนึกบาปในเรื่องนั้นเฉพาะเรื่อง+ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปเรื่องนั้นอีก+ยอมรับผลกรรมทางโลก) ยังไม่ได้เกิดขึ้น  เทวทัตไม่สามารถแม้แต่จะระบุบาปแต่ละเรื่องได้ทันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง  ท่านก็โดนธรณีสูบไปก่อน  

กรรมของเทวทัตที่เป็นอนันตริยกรรมมี 2 เรื่อง คือ 
1. ทำให้สงฆ์แตกแยก  2. กลิ้งหินโดยประสงค์ให้ตกมาทับพระพุทธองค์  แต่ไปกระทบนิ้วแม่เท้าพระพุทธองค์ จนห้อเลือด  

ถ้าเทวทัตพูด 2 เรื่องนี้ทันก่อนตาย  ทำตามข้อ a.+ b.+c. อนันตริยกรรมก็ไม่มีผลต่อท่านเลยในนรกภูมิ  แม้ถึงจะเป็นเช่นนั้น  เทวทัตก็ยังมีบาปหนักอื่นๆที่นำไปสู่นรกอเวจีอีกหลายเรื่อง  เพียงแต่ระยะเวลาการลงโทษมันลดน้อยลงมากจากอนันตริยกรรม เท่านั้น

การที่คุณนิพนธ์จะให้พวกเพื่อนๆแค่พูดว่า  
ด้วยเดชแห่งบุญที่ได้ร่วมกันทำให้กับเพื่อนร่วมรุ่นของเราในครั้งนี้  ที่เคยล่วงเกินทั้งกาย วาจา ใจ ทั้งที่เจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี โปรดอโหสิกรรม ด้วย ....อันนี้มันไม่ถูกต้อง  แล้วกรรมก็ไม่ได้หายไปด้วย  มันต้องทำตามวิธีที่ผมบอกไว้เท่านั้น

ขนาด
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี สำนึกในบาปเรื่องการฆ่าหักคอไก่แล้ว  ขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรคือ วิญญาณพวกไก่แล้ว  ท่านยังต้องได้รับผลกรรมที่หักคอพวกไก่ตายเลย  

อีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อจรัญต้องใช้หนี้กรรมที่ไปตอนไก่ผิดๆ  ทำให้พวกไก่ไส้ไหลเป็นน้ำเหลือง ไส้เน่าตายไปวันละหลาย ๆ ตัว จนตายหมดเล้า  ผลกรรมได้ตามสนองหลวงพ่อจรัญในปี 2511  ถ่ายออกมาเป็นเลือดและน้ำเหลืองนานอยู่ 3 ปี  

พออีก 11 ปีต่อมา  ผลกรรมที่ทำ ก็ยังไม่สิ้นสุด  ทำให้ปี พ.ศ. ๒๕๒๑  ไส้ติ่งของหลวงพ่อจรัญเกิดแตกขึ้นมา  หลวงพ่อจรัญสลบไป แต่ท่านได้กำหนดจิต หายใจทางสะดือ อยู่ในท่าสมาธิ ทุกคนคิดว่าหลวงพ่อจรัญมรณภาพแล้ว  พอหลวงพ่อจรัญได้สติ ก็แข็งใจตั้งจิตอธิษฐานว่า

พ่อไก่ แม่ไก่ทั้งหลายเอ๋ย 
เจ้าจงมารับเมตตาจากข้าพเจ้า ที่ตอนเจ้าไม่ได้เจตนาให้เจ้าตาย เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ถ้าข้าพเจ้ารอดตายจะทำกรรมฐานไปให้ จงอย่าจองเวรจองกรรมกับเราเลย ให้อภัยเราเถิด

 
เจ้าจงมารับเมตตาจากข้าพเจ้า  =  หลวงพ่อจรัญแผ่เมตตาอุทิศกุศลจากกรรมฐานของท่านให้พวกวิญญาณไก่  

ถ้าข้าพเจ้ารอดตายจะทำกรรมฐานไปให้ แล้วหลวงพ่อก็ทำกรรมฐานอุทิศบุญไปให้จริง

เมื่อสิ้นคำอธิษฐาน ก็อุจจาระ ปัสสาวะ ไหลออกมา ทั้งเลือด ทั้งหนองเหม็นคลุ้งไปหมด หมอให้น้ำเกลือและฉีดยาให้  แต่เพราะหลวงพ่อจรัญ เป็นนักกรรมฐาน  ผลบุญที่ท่านแผ่เมตตาออกไปให้พวกวิญญาณไก่ ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่าน  จึงมีมหาศาลมาก  พวกวิญญาณไก่ ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่าน  จึงพอใจและให้อภัยท่าน  ไม่ผูกพยาบาทอีกต่อไป

คืนนั้นหลวงพ่อจรัญ ได้ทำกรรมฐานส่งผลบุญให้พวกไก่ต่อ  ตามที่ท่านรับปากไว้  พวกไก่ได้มาเต็มไปหมดและบอกหลวงพ่อจรัญว่า  
นี่เป็นท่านนะ ถ้าไม่ใช่ท่าน จะเอาให้ตาย”  หลังจากนั้น หลวงพ่อจรัญก็หายวันหายคืนจนเป็นปกติ

อนึ่ง  ผมจะชี้แนะคนให้เข้าใจเรื่องนี้  มันไม่ง่ายเลย  ชาวฮินดูหลายล้านคนในแต่ละปี  ยังเข้าใจผิด เข้าร่วมพิธีล้างบาปในแม่น้ำคงคาเลย  พระพุทธเจ้าก็ยืนยันแล้วว่า ล้างบาปแบบนั้น  บาปไม่ได้หายไปจากการล้างบาปที่แม่น้ำคงคาเลย  ด้วยเหตุนี้  ผมจะไปอธิบายให้ไอ้นิพนธ์มันเข้าใจคงไม่ง่ายนัก  ผมเลยต้องสอนมันแบบกวนตีนแทน  รับได้ก็รับไป  รับไม่ได้ก็เรื่องของมัน

++++++++++++++++

ถาม  ถ้า
"ขออโหสิกรรมแบบยอดรวม  กรรมเฉพาะเรื่องแทบไม่ได้หายไป" แล้วผลบุญที่ส่งไป  มันหายไปไหน

ตอบ  กรรมเลวที่เราก่อมาในชาติต่างๆ  มันมีมหาศาล เหมือนน้ำทะเลในมหาสมุทรทั้งโลก  ส่วนกรรมเลวที่เพื่อนก่อกับเพื่อนคนอื่น  เปรียบเสมือนน้ำทะเลที่พังงาเท่านั้น  แล้วเงินทำบุญกระจิ๊บกระจ๊อยของพวกเพื่อนๆ รวมกันยังไม่กี่พัน  มันจะลดความเค็ม(บาป)ของน้ำทะเลในพังงาได้อย่างไร  น้ำทะเลในพังงาที่เค็ม 100% อาจจะเค็มลงลงเหลือ 99.9999999% เท่านั้น

ผมจำได้ว่า.....ผมPhonsak พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ อุตส่าห์ละเมิดกฎสวรรค์บอกความลับของฟ้าไปหลายครั้งหลายหนแล้วว่า ผมPhonsak คือ นิตยโพธิสัตว์องค์ที่ 1  ซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกหลังจากพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า  พวกเพื่อนๆแทนที่จะนำเงินทำบุญเหล่านั้น  มาทำบุญกับผม  ซึ่งจะได้ผลบุญสูงขึ้นไม่รู้กี่ล้านๆเท่าจากการทำบุญให้พระธรรมดา  

โอกาสมาถึงพวกเพื่อนๆแล้ว  แต่พวกเพื่อนๆกลับคิดเรื่องนี้ไม่ออก  นั่นแสดงว่า  ฟ้ากำหนดไว้แล้วว่า  พวกเอ็งทุกคนยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในโลกนี้ไปอีกนาน  สมดังคำกล่าวที่ว่า  

"ศาสดาพยากรณ์ ย่อมไม่ได้รับความเคารพนับถือในบ้านของตนเอง"

"ผมPhonsak พลศักดิ์ วังวิวัฒน์ ก็ย่อมไม่ได้รับความเคารพนับถือในโรงเรียนของตนเอง"

*ศาสดาพยากรณ์ (Prophet=ผู้เผยพระวจนะ) หรือ รอซูล  คือ บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้า(หรือ พระพุทธเจ้า หรืออัลเลาะห์ และชื่ออื่นๆ) กับมนุษย์

0 comments:

แสดงความคิดเห็น