A A

21 มีนาคม 2558

ดวงดาวต่างๆมีวิญญาณเทพเจ้าอยู่ แสงสว่างแห่งชีวิต คือดวงอาทิตย์.....

ในทุกยุคทุกสมัย  ปรมาจารย์ของมนุษย์ที่ไม่ใช่สาขาวิทยาศาสตร์  ต่างรับรู้ด้วยจิตภายในของตนว่า  ดวงดาวที่ปรากฏอยู่กลางท้องฟ้า  ล้วนมีวิญญาณแห่งเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งหรือหลายองค์สิงสถิตอยู่  และวิญญาณเทพเจ้าที่อยู่ในดวงดาวเหล่านั้นจะส่งผลดีและผลร้ายกับมนุษย์ได้

อย่างไรก็ตาม  เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญขึ้น  วิทยาศาสตร์ก็ใช้การสังเกตการณ์จากสิ่งที่ตนรับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย  และ จิตที่เป็นสมอง  ทำให้พวกเขาตีความไปอีกอย่าง  ซึ่งแตกต่างจากการตีความด้วย
จิตภายในของตน ที่ไม่ใช่สมอง  นักวิทยาศาสตร์จะเชื่อในสิ่งที่ตนเองรับรู้โดยเครื่องมือต่างๆของมนุษย์  โดยเฉพาะสมองเท่านั้น

ตัวผมPhonsakก็หลงเชื่อวิทยาศาสตร์มา 30 กว่าปี  ตอนหลังผมทำสมถะและวิปัสสนาได้ดีและลึกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ผมจึงรู้ความจริงว่า  วิทยาศาสตร์ของมนุษย์เป็นวิทยาศาสตร์ที่ยังอยู่ในวัยปฐมเท่านั้น   วิทยาศาสตร์ในระดับสูงสุด  ผู้จะเข้าถึงได้ความรู้ระดับสูงสุดนี้ได้  ต้องเป็นพระโพธิสัตว์อนาคามี-พระโพธิสัตว์อรหันต์ขึ้นไป  ที่ใช้การทำสมาธิ(สมถะ)  ควบคู่กับวิปัสสนาเท่านั้น  ฟ้าจึงจะเปิดทางให้รู้ความจริงทุกอย่างได้  ตามแต่ระดับความเป็นโพธิสัตว์ของท่านผู้นั้น 

ผมซึ่งบรรลุธรรมระดับพระโพธิสัตว์อนาคามีชั้นสูงมาก ใกล้เคียงพระเวสสันดรตอนที่บรรลุธรรมแล้ว  ต่างกันตรงที่ผมก็เป็นผู้ที่ชอบเปิดเผยความลับของฟ้า  แบบไม่มีการกริ่งเกรงกฎของเหล่าพุทธะ(พระเจ้า)ซะด้วย  ผมจะโดนลงโทษจากการผิดกฎสวรรค์อย่างไร  เหล่าพุทธะ(พระเจ้า)ก็เชิญลงโทษไป  แต่เมื่อจิตของผมไม่เอาเรื่องราวทางโลกภายนอก เข้ามาสู่จิตแท้ภายในของผมแล้ว  ความทุกข์ก็หามีกับผมไม่  เรื่องราวที่ผมเปิดเผย  แม้ในวันนี้อาจจะไม่มีใครเชื่อและไม่มีคนเข้าใจก็ไม่เป็นไร  แต่ในวันข้างหน้าข้อมูลของผม  จะเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกอย่างมาก

วันนี้ผมขอเปิดเผยความลับของฟ้าเกี่ยวกับดวงดาวที่เป็นแหล่งกำเนิดชีวิตของเราก่อน  คือ ความลับของดวงอาทิตย์

 ความลับของดวงอาทิตย์ 

ในระบบสุริยจักรวาลของเรา  มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวเคราะห์ต่างๆคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน ดาวพลูโต  คุณรู้ไหมว่า  ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานและเป็นผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิตทั้งหลายบนโลก  มีวิญญาณเทพเจ้าสูงสุดประทับอยู่

หนึ่งในเทพเจ้าสูงสุดที่ประจำในดวงอาทิตย์ คือ กายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์)ของพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา  ฤๅษีและผู้มีฌานต่างๆของอินเดียก่อนพุทธกาล ได้ซ่อนความจริงสูงสุดเรื่องนี้ไว้ในชื่อตระกูลหรือชื่อโคตรของพระพุทธองค์....โคตม โคตะมะ โคดม  ซึ่งมีความหมายถึง แสงสว่างอันรุ่งโรจน์ดุจดวงอาทิตย์ 

กายมนุษย์และกายสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง  ล้วนแต่ดำรงชีวิต  ทำการทำงานทุกอย่างโดยอาศัยพลังงานแสงสว่างทางตรงและทางอ้อมจากดวงอาทิตย์ทั้งนั้น  ส่วนในใจของสรรพชีวิต การจะลดทุกข์หรือจะหมดทุกข์ได้มากเท่าไร  ก็ต้องอาศัยแสงสว่างภายใน  ผู้ที่เห็นแสงสว่างภายในใจของตน จะมีความทุกข์น้อยกว่าคนทั่วไป  แหล่งที่ให้กำเนิดแสงในใจสำหรับชาวพุทธก็คือ พระพุทธเจ้า

- ในเทพนิยายกรีก  ก็ชี้ว่า  ในดวงอาทิตย์  มีเทพเจ้าอยู่ ชื่อ  เทพอพอลโล (Apollo) เทพแห่งแสงสว่าง หรือเทพแห่งดวงอาทิตย์
- มหาเทพแห่งไอยคุปต์  หรือ มหาเทพยิ่งใหญ่ของชาวอียิปต์โบราณ คือ เทพรา (Ra) เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์(สุริยเทพ)
- ในญี่ปุ่น ศาสนาชินโต ก็เชื่อว่า อมาเตระสุ เป็นเทพี หรือเป็น เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์(สุริยเทพ)
- ในอารยะธรรมเมโสโปเตเมีย ลุ่มแม่น้ำไทกริส ยูเฟติส (ปัจจุบัน คือ อิรัก อิหร่าน ตุรกี)  8,000 - 7.000 ปี ก่อนคริตส์ศักราช ชาวสุเมเรียน  นับถือเทพเจ้าองค์หนึ่ง ชื่อ อูตูซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ หรือ สุริยะเทพ

เหล่าเทพแห่งดวงอาทิตย์ทั้งหมด ล้วนเคยเป็นแสงสว่างภายในแห่งชีวิตให้มนุษย์ในกาลสมัยที่แตกต่างกันทั้งนั้น  พระพุทธเจ้าของเราก็เป็นแสงสว่างภายในให้ชาวพุทธ  พระพุทธองค์ท่านก็เป็นเทพเจ้าประจำดวงอาทิตย์ ด้วยเช่นกัน  แต่ท่านจะประจำอยู่แค่ 5,000 ปี  เพราะว่าหลังสิ้นสุดยุคพุทธกาลแล้ว  เป็นยุคของพระศรีอริยเมตตรัยพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าของเราก็จะหมดหน้าที่ในการเป็นแสงสว่างแห่งชีวิตนำชาวพุทธและคนทั่วโลก รู้ทางเข้านิพพาน(สวรรค์นิรันดร)

สรุป

ดวงอาทิตย์ มีเหล่าเทพเจ้าที่เป็นแสงสว่างแห่งชีวิตสิงสถิตอยู่ต่างกันไปในแต่ละยุคแต่ละสมัยของแต่ละชนชาติ  เช่น  เทพอพอลโล (Apollo)เป็นเทพกรีก  เทพรา (Ra) เป็นมหาเทพแห่งไอยคุปต์(อียิปต์)   อมาเตระสุ เทพี ซึ่งเป็น เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์(สุริยเทพ)ในศาสนาชินโตของญี่ปุ่น  ลงมาจนถึง กายทิพย์สัมโภคกาย(พระวิญญาณบริสุทธิ์)ของพระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา  ซึ่งเป็นองค์เดียวที่ชี้ทางปฏิบัติให้เข้าถึงนิพพาน(สวรรค์นิรันดร)ได้  ในขณะที่ศาสนาอื่นๆทั้งหมด  เพียงแต่ชี้ทางไปอยู่ในสวรรค์ที่ยังไม่ถึงนิพพาน

ตอนต่อไปผมจะเจาะลึกถึงเทพเจ้าแห่งดาวพฤหัส ซึ่งสุกสว่างเป็นอันดับ 2 รองจากดวงอาทิตย์ และค่อยเจาะลึกดาวอื่นๆบ้าง  วันนี้พอแค่นี้ก่อน

1 ความคิดเห็น:

  1. แปลกน่ะ ความคิดนี้ตรงกับคำสอนของท่านพ่อวัดปากน้ำที่ท่านเจ้าคุณวีระ คุตธัมโม อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาวัดปากน้ำ ปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว ท่านบันทึกความจำไว้ว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเคยบอกว่า ดาวหางทำฤทธิเดชผ่านมาแล้วมีเรื่องร้ายเพราะมารเขาทำวิชาให้ส่งผลร้ายกับมนุษย์ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ท่านผู้สำเร็จเคยพูดถึงการทำวิชากับดวงดาวไว้

    ตอบลบ