A A

22 กุมภาพันธ์ 2558

พวกเราทุกจิตเคยเป็นพระพุทธเจ้าสูงสุดที่เป็นสัพพัญญูมาแล้ว

แต่เดิมพระศิวะอยู่ในพระนิพพานซึ่งเป็นจิตไม่มีกายอยู่แล้ว เหมือนคุณกับผมและทุกๆจิต พวกเราเคยเป็นจิตมหาบริสุทธิ์มาก่อนทั้งนั้น  ตอนหลังเมื่อพวกเราจำนวนเป็นอนันต์อยากออกมาดูภพภูมิอื่นที่ไม่ใช่พระนิพพานบ้าง  เพื่อจะเปรียบเทียบกับนิพพานจิตอันว่างเปล่าของเรา อันมีแต่สุขบริสุทธิ์อยู่    

พวกเราจึงไปเสนอพระศิวะ ผู้เป็นพระพุทธเจ้าภาคดำ  และพระอมิตาผู้เป็นพระพุทธเจ้าภาคขาว  ซึ่งเป็นจิตเดียวกันกับพวกเรา  และเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย  ให้สร้างโลกและจักรวาล และภพภูมิต่างๆขึ้นมา  แล้วให้พวกเราลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างว่า  เราทั้งหมดคือพระพุทธเจ้า  

เสร็จแล้ว  เราก็ให้พลังทั้งหมดคืนแก่องค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน  ให้ตั้งกฎเกณฑ์การเข้าไปอยู่ในแต่ละภพภูมิ  รวมถึงการเข้าไปเป็นพระพุทธเจ้าในแต่ละระดับด้วย  เพราะจิตมหาบริสุทธิ์รู้เท่ากันหมด มันไม่ค่อยถูกต้อง  จะไปคุยกันทำไม

จิตบางส่วนไม่ขอออกไปทดลองอยู่ในภพภูมิอื่น  องค์พระผู้เป็นเจ้าภาคดำและขาวซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน  จึงให้อยู่ในนิพพานที่เป็นกายธรรม และพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้  โดยเป็นแค่พระอรหันต์เท่านั้น  ถ้าต้องการบรรลุสูงกว่านี้ก็ต้องปฏิบัติเอาเช่นกัน  เช่น 
เง็กเซียนฮ่องเต้  หลังจากท่านเป็นแค่พระอรหันต์ ที่เรียกว่า "บุคคลสุญญตา" ท่านก็ฝึกฝนต่อขั้น "ธรรมสุญญตา" จนบรรลุความเป็นพระพุทธเจ้า  พระธรรมหรือพระนิพพานหรือองค์พระผู้เป็นเจ้าภาคดำและขาวซึ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน  จึงให้ท่านทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีใน 3 ภพ ปกครองดูแล 31 ภพภูมิ  ที่เรียกว่า 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน

หลังจากนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ออกจากนิพพานจิต  ลงมาเป็นธรรมกายและพระวิญญาณบริสุทธิ์(สัมโภคกาย)  เสร็จแล้วก็สร้างจักรวาลและสร้างสวรรค์นรกในมิติต่างๆในจักรวาลคู่ขนานขึ้นมา  ไม่ใช่สร้างแค่มิติเดียวนะครับ

พระศิวะพระพุทธเจ้าภาคดำ พระพรหม(ภาคขาว) พระนารายณ์(ภาคขาว)  ตัวพวกท่านเอง  ก็เสด็จออกมาประจำเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์ ที่เรียกว่า อนาคามีชั้นพิเศษ  เพื่อรักษากฎเกณฑ์ต่างๆของจักรวาลที่ท่านสร้างขึ้น  การที่ต้องมีพระนารายณ์ พระพรหม และมหาเทพต่างๆ ก็เพื่อเป็นการแบ่งงานกันทำ

ส่วนเจ้าแม่กวนอิมภาคดำภาคขาว  ก็มาจากมีพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งชื่อ 
"พระสัทธรรมวิทยาตถาคต" ที่บรรลุธรรมมานานจนไม่รู้ว่ากัปไหนแล้ว  ท่านเข้าถึงธรรมสูงสุดที่สามารถดำรงเป็นพระพุทธเจ้าภาคดำ ที่ทรงความเป็นธรรมสูงสุดได้ พระสัทธรรมวิทยาต้องการเข้านิพพานจิตอันว่างเปล่า และมีสุขบริสุทธิ์อยู่  ท่านจึงนิรมิตตัวเองออกมา 1 องค์ เพื่อเป็นตัวแทนของท่าน คือ กวนอิมภาคดำ  ส่วนกวนอิมภาคขาวก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกวนอิมภาคดำ  แต่ต้องการธำรงไว้ซึ่งความเมตตากรุณาเหนือความยุติธรรมเท่านั้น  ไม่เหมือนกวนอิมภาคดำ ที่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมเหนือกว่าความเมตตากรุณา

- กวนอิมภาคดำและภาคขาวเข้ามาประจำหน้าที่ส่งผลกรรมชั่วและกรรมดีในพระพุทธศาสนา  
- ส่วนพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ ประจำหน้าที่ส่งผลกรรมชั่วและกรรมดีในศาสนาฮินดู  
- อัลเลาะห์ ยะโฮวา ประจำหน้าที่ส่งผลกรรมชั่วและกรรมดีในศาสนาอิสลาม คริสต์ ยิว เป็นต้น

กวนอิมภาคดำและภาคขาว  พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์  อัลเลาะห์และยะโฮวา  พวกท่านดำรงอยู่ช่วยงานใน 3 ภพ  แล้วพวกท่านก็ล้วนเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์ ที่เรียกว่า อนาคามีชั้นพิเศษ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์สัมโภคกาย  พวกท่านอาศัยอยู่ที่พุทธเกษตรที่พวกท่านนิรมิตขึ้นมา

พระพุทธเจ้าของเราท่านก็ออกจากนิพพาน(จิต)มานานแล้ว  เพื่อดำรงเป็นพระธรรมกายในพุทธภูมิ และดำรงเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์สัมโภคกายในพุทธเกษตรศรีศากยมุนี

อ้างถึง

นั่นซิครับ อ.Phonsak อันนี้ฟังยากนะครับ
พอมี "หลักฐาน" ประกอบบ้างไหม ...

Joey โพสต์

หลักฐานนั้นมีอยู่  เพียงแต่คุณต้องใช้ password จึงจะเข้าไปดูได้  password นี้คือคุณต้องปฏิบัติจนถึงระดับอรหันต์  ได้ธรรมกายแล้วเท่านั้น จึงจะรู้ว่า "พระธรรมกับพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งเดียวกัน" จะเห็นได้ในพุทธพจน์ที่ว่า 
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา (ตถาคต) (โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ ปสฺสติ)

ได้กายธรรมเมื่อไร  คุณจึงจะพบเห็นพระพุทธเจ้าต่างๆ  และจะรู้ว่า
 ธรรมกายของคุณเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมกายของโคตมะพระพุทธเจ้าของเรา  และทุกธรรมกายของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์  ก็เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมกาย หรือพระธรรมต้นกำเนิด  เมื่อคุณยังไม่มี password ที่พระอรหันต์เขามีกัน  คุณก็ต้องเชื่อที่พระอรหันต์ท่านพูด

หลวงตามหาบัว เทศน์บ่อยๆว่า

" มหาวิมุตติ มหานิพพาน หรือธรรมธาตุนะ ...เป็นธรรมแท้ ธรรมธาตุ เป็นหนึ่งเดียวกัน.... 
พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ยังไง ก็มันเป็นแล้วนั่นน่ะ มันมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน..."

สรุป

เมื่อคุณเข้าถึงความเป็นอรหันต์  คุณจึงจะรู้ว่าพระรัตนตรัยของแท้ ที่เป็นสิ่งสูงสุดเป็นอย่างนี้ครับ..... มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรียกว่า ธรรมธาตุ  ตอนนี้คุณทำได้แค่เชื่อ หรือไม่เชื่อเท่านั้น

0 comments:

แสดงความคิดเห็น