A A

15 สิงหาคม 2558

ความรู้ลึกๆเรื่องแดนสุขาวดี และ พระพุทธเจ้า ที่คนทั่วไปไม่รู้ ‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏

คุณ SM ถามใน

Subject:  จิตสุดท้ายกำหนดการไปอยู่ในสวรรค์หรือนรกได้ชั่วคราว หรือได้นานกันแน่? จะอยู่ในสวรรค์ได้นานมากๆๆๆๆทำอย่างไร

ว่า...เรียนคุณ Phonsak

เรื่องนี้ๆไม่มีทางสงสัยเลยครับ เพราะอย่างที่ทราบเป็นเรื่องของน้องสาวผมเอง ขณะนี้เธออยู่แดนสุขาวดีล่างพุทธเกษตร

เธอเกิดมาและใช้ชีวิตอย่างเช่นคนธรรมดาสามัญและเสียชีวิตเมื่ออายุยี่สิบกว่าปีขณะเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีที่ 3 ด้วยสถานภาพที่เป็นอย่างนั้นคงยังไม่มีโอกาสอันใดที่จะสร้างมหากุศลได้ถึงขนาดพ้นสวรรค์กามาวจร ช่วงมีชีวิตเธอก็ไปปฏิบัติธรรมตามโอกาสบ้าง ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าความศรัทธาที่มีต่อพระรัตนตรัยของเธอมากน้อยแค่ไหนในขณะนั้น

..แต่ผมเชื่อว่าจิตสุดท้ายของเธอนี้แหละที่นำเธอไปเกิดยังแดนสุขาวดี จิตเธอคงสงบและระลึกถึงพระรัตนตรัย ไม่อย่างนั้นคงไม่พ้นกามาวจรหรือพรหมโลก

ด้วยความเคารพ

ตอบ

ผมจำได้ว่า  เมื่อหลายเดือนก่อนน้องสาวคุณส.ก็เคยมาหาผม  เธอกลายเป็นผู้ชาย  ตอนนั้นผมก็ยังงงอยู่  รู้แต่เพียงว่าเธอเกิดในภพภูมิที่ดีมาก ผมเข้าใจผิดนึกว่าเธออยู่ในชั้นยามา  ตอนนี้ผมบรรลุธรรมสูงขึ้น  เลยรู้ว่าน้องสาวคุณส.คงจะอยู่ในแดนสุขาวดีจริงๆ  เพราะที่นั่นตามตำราบอกว่าวิญญาณที่ยังฝึกอยู่ จะเป็นผู้ชายกันหมดหรือไม่ก็เป็นผู้หญิงกันหมด สลับกันไปสลับกันมา

แล้วทำไมชาวพุทธเถรวาท อย่างน้องสาวของคุณ ไปเกิดในแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้าได้ล่ะ?

ตอบ  เพราะว่า....พระพุทธเจ้าเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ของพระอมิตาอวตารลงมาเกิดยังไงล่ะ ผู้ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าจึงสามารถไปเกิดในแดนสุขาวดีที่ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิด หรือจะชอบการเวียนว่ายตายเกิด  รับความสุขทางโลกียะ ก็ไปอยู่ในสวรรค์กามาวจร 6 ชั้น ก็ได้  

อนึ่ง พึงรู้ว่า จิตมหาบริสุทธิ์ทุกดวงเป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่แยกกันเพื่อทำหน้าที่ของตนเท่านั้น  พระพุทธเจ้าจึงอวตารเป็นพระไวโรจนพุทธเจ้า สอนธรรมแก่พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย จารึกอยู่ใน "อวตังสกสูตร" ของทางมหายาน  หลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์นั่งเสวยวิมุตติสุข 49 วัน เรื่องที่เถรวาทเล่า แต่ข้อมูลที่ไม่ครบ (มีวาระซ่อนเร้น) พอไปอ่านในคัมภีร์มหายาน "อวตังสกสูตร" จึงพบความจริงว่า ในช่วง 49 วันนั้น พระพุทธองค์ท่านได้สำแดงสัมโภคกาย เป็น องค์พระมหาไวโรจนะพุทธเจ้า

ผมรู้ลึกกว่านั้นอีก เพราะชอบถามเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าถามกับพวกเทพเจ้า โดยเฉพาะเรื่องเครื่องเพศ  ครั้งหนึ่งเคยถามพระอมิตาภะพุทธเจ้าว่า  วิญญาณในแดนสุขาวดีมี sex กันได้ไหม  พระอมิตาตอบว่า  เราไม่ให้พวกเขาใช้เครื่องเพศ

พระอมิตาเล่นตอบแบบนี้  ผมเลยงงเต็ก  แล้วไปค้นคว้าดูเรื่องอวัยวะเพศของผู้อยู่ในแดนสุขาวดี  ผมจึงพบความจริงว่า พระโพธิสัตว์กวนอิมเคยตอบคำถามหลวงจีนคนหนึ่งที่สงสัยเรื่องนี้เหมือนกันว่า   

"ที่นี่ มีพระโพธิสัตว์รูปหนึ่ง คอยบงการความเป็นไป จะแปลงเป็นชาย ก็เป็นชายทั้งหมด จะให้แปลงเป็นหญิง ก็เป็นหญิงทั้งหมด ความจริงไม่ว่าจะแปลงเป็นหญิงหรือชาย ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพราะว่า การเปลี่ยนแปลงร่าง เกิดในดอกบัวนั้น หามีเรือนกาย ที่เป็นเลือดเนื้อไม่ เรือนกายจะเป็นแก้วผลึกสีขาว โปร่งใสเหมือนแท่งแก้ว แต่มีรูปเป็นคนเท่านั้น ดังนั้นจริงๆแล้ว หามีแบ่งหญิง แบ่งชายไม่"

อีกเรื่องหนึ่ง
 พระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรมแล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มีที่มา 2 แหล่งคือสุขาวดี และ สวรรค์ชั้นดุสิต  พุทธเถรวาทรู้แต่เพียงว่า  พระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรม เช่น พระเวสสันดรลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต เท่านั้น  แต่จริงๆไม่ใช่  พระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรมมาจาก แหล่ง สุขาวดี ก็ได้  เช่น พระเยซู  องค์แรกที่ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ลงมาจากพุทธเกษตร ตอนนี้ก็กลับไปประจำในพุทธเกษตร  ส่วนพระเยซูที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเคยพบ ที่อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต  องค์นั้นไม่อยู่แล้ว  ลงไปเกิดในโลกมนุษย์อีกมิติหนึ่ง เพราะพระเยซูท่านต้องไปเกิดในโลกมนุษย์ในทุกมิติ  ที่มี 13 มิติ  เพื่อชักนำมนุษย์ในทุกมิติให้เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตรของท่าน คือ สรวงสวรรค์ของพระคริสต์ ที่ซึ่งไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด  เหมือนพุทธเกษตรแดนสุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้า  และพุทธเกษตร(สวรรค์นิรันดร)ของอัลเลาะห์

สรุป

1. พระพุทธเจ้าเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า และจิตมหาบริสุทธิ์ของพระไวโรจนพุทธเจ้า(อาทิพุทธเจ้าภาคขาว) และพระพุทธเจ้าอื่นๆ  เพราะจิตมหาบริสุทธิ์ทุกดวงเป็นหนึ่งเดียวกัน 
2. ผู้ที่ไปเกิดในแดนสุขาวดี พระโพธิสัตว์รูปหนึ่ง คอยบงการความเป็นไป ให้ผู้อยู่ในแดนนี้จะแปลงเป็นชาย ก็เป็นชายทั้งหมด จะให้แปลงเป็นหญิง ก็เป็นหญิงทั้งหมด
3. พระโพธิสัตว์ที่บรรลุธรรม แล้วลงมาเกิดเป็นมนุษย์ มีที่มา 2 แหล่งคือสุขาวดี และ สวรรค์ชั้นดุสิต 
4. แดนสุขาวดีของพระอมิตาภะพุทธเจ้า  สรวงสวรรค์ของพระคริสต์  สวรรค์นิรันดรของอัลเลาะห์ ล้วนเป็นพุทธเกษตร ที่ไม่ต้องมีการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ
5. พระเยซูที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำเคยพบ ที่อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต  องค์นั้นไม่อยู่แล้ว  ลงไปเกิดในโลกมนุษย์อีกมิติหนึ่ง  เพราะพระเยซูท่านต้องไปเกิดในโลกมนุษย์ในทุกมิติ ที่มี 13 มิติ  เพื่อชักนำมนุษย์ในทุกมิติให้เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตรของท่าน คือ สรวงสวรรค์ของพระคริสต์

ลองอ่านเรื่องท่องแดนสุขาวดีตอนนี้ดู  จะได้ความรู้เรื่องร่างกายในแดนสุขาวดีเยอะเลย

พระโพธิสัตว์กวนอิม ตอบว่า "ที่นี่ มีพระโพธิสัตว์รูปหนึ่ง คอยบงการความเป็นไป จะแปลงเป็นชาย ก็เป็นชายทั้งหมด จะให้แปลงเป็นหญิง ก็เป็นหญิงทั้งหมด ความจริง ไม่ว่าจะแปลง เป็นหญิงหรือชาย ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน เพราะว่า การเปลี่ยนแปลงร่าง เกิดในดอกบัวนั้น หามีเรือนกาย ที่เป็นเลือดเนื้อไม่  เรือนกายจะเป็นแก้วผลึกสีขาว โปร่งใสเหมือนแท่งแก้ว แต่มีรูปเป็นคนเท่านั้น ดังนั้นจริงๆแล้ว หามีแบ่งหญิง แบ่งชายไม่"

อาตมา ลองสำรวจดูร่างกายตัวเอง ก็พบว่าเป็นดังที่ พระโพธิสัตว์กวนอิมกล่าวจริงๆ ไม่เห็นผิวหนัง เนื้อ เล็บ กระดูก เลือด เป็นเพียงเรือนร่างที่มีสีขาวโปร่งใส ดังแก้วผลึกเท่านั้น

คนที่ไปเกิดในบัวชั้นล่าง ล้วนแล้วแต่ พกกรรมเก่า ติดตัวไปเกิดทั้งสิ้นมาถึงที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย หลังจากเปลี่ยนร่าง  เกิดในดอกบัวแล้ว ก็จะกลายเป็นเด็ก อายุ 13-14 ปี
ทั้งหมด  กลับเฒ่าเป็นทารก กลายเป็นคน หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา  น่ารักน่าเอ็นดู ดูภายนอก เหมือนมีหญิงและชาย  แต่โดยความเป็นจริง หามีแบ่งหญิงและชายไม่

อาตมายังไม่หายสงสัย เรียนถามพระโพธิสัตว์กวนอิมต่อไปว่า "เหตุใดเวไนยสัตว์ ที่มาเกิดที่นี่ จึงเปลี่ยนเป็นพิมพ์เดียวกันหมดและอายุเท่ากันหมดล่ะครับ"

ท่านตอบว่า "ทั้งนี้เพราะว่า พุทธภาพนั้นเสมอภาคกัน  พุทธานุภาพ ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า ชักนำพวกเขามาเปลี่ยนร่างเกิด ในดอกบัว ทุกคนจะได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหมด

ไม่ว่าพวกเขา ขณะอยู่สัพพะโลก จะเป็นพ่อเฒ่า แม่เฒ่า วัยกลางคน วัยฉกรรจ์ก็ตาม แต่หลังจากเปลี่ยนร่าง เกิดในดอกบัวแล้ว จะออกมาเป็นคนอายุ 10 กว่าปีทั้งหมด ก็ทำนองเดียวกับ ทารกแรกเกิด ในแดนมนุษย์นั่นเอง  ขนาดใหญ่น้อยของร่างกาย จะแตกต่างกันไม่มาก"

ที่บัวชั้นล่าง ภายหลังเปลี่ยนร่าง เกิดในดอกบัวแล้ว ก็ใช้ชีวิตอยู่ในเหลียนหัว (ปุณฑริก) วันหนึ่งแบ่งออกเป็น 6 ชั่วโมง ชั่วโมงหนึ่ง จะเป็นชั่วโมงประชุมศึกษาคัมภีร์

......ครั้นถึงเวลาศึกษาคัมภีร์ ระฆังพอดัง  คนที่อยู่ในสระบัว หรือพำนักอยู่ในห้องหอก็จะกลาย เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด หรือเด็กผู้ชายทั้งหมด  พวกเขา จะมีรูปร่างหน้าตา และการแต่งกาย เหมือนกันหมด โดยการควบคุม ของพุทธานุภาพ หรือพระโพธิสัตว์

พุทธานุภาพ ต้องการให้แปลงเป็นชาย ก็เป็นชาย ต้องการให้แปลงเป็นหญิง ก็เป็นหญิง การแต่งกายก็เช่นกัน จะให้แดงก็แดง จะให้เขียวก็เขียว จะให้เหลืองก็เหลือง

0 comments:

แสดงความคิดเห็น