A A

15 สิงหาคม 2558

ถาม-ตอบ เรื่อง 2 ปริศนาที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำทิ้งให้ผมเป็นผู้เฉลย และตอบเกิน ‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏

เรียนคุณ Phonsak

ในการทำงานบางครั้งที่การทำงานโดนกดดันอย่างหนักและโดนคนอื่นปรามาสบ้าง ผมจะนึกถึงพระเยซูตอนที่ท่านโดนตอกด้วยลิ่มและตรึงบนไม้กางเขน มันคงจะเจ็บปวดทรมานจนเกินบรรยายจากน้ำหนักร่างกายที่ถ่วงลงมาและถูกทรมานอยู่เช่นนั้นจนเสียชีวิต

การที่ถูกตรึงบนไม้กางเขนก็ไม่ใช่เรื่องความผิดใดๆเป็นแต่เกิดจากความระแวงของผู้มีอำนาจในการปกครองและความอิจฉาของกลุ่มนักบวชที่เคยมีชื่อเสียงเท่านั้น

ผมอยากรู้จัง..ว่าท่านกำหนดอารมณ์เช่นใดในช่วงที่ความทุกข์ทรมานเช่นนั้นโหมทับทวีอยู่ตลอดเวลาจึงเอาชนะความรู้สึกพยาบาทพร้อมปล่อยวางและให้อภัย

ด้วยความเคารพ

ตอบ

ผมก็อยากรู้เหมือนกัน  เพราะวิชาของพระเยซูถือว่า เป็นที่สุดของวิชาวิปัสสนาเลยนะครับ  เท่าที่ผมสันนิษฐาน  พระเยซูน่าจะเคลื่อนหรือถอดจิตหรือถอดกายทิพย์ออกมานอกร่างกายเนื้อนิดหน่อย  ไม่ให้กายทิพย์มันอยู่สัมผัสกายเนื้ออย่างสนิท  ความเจ็บปวดทรมานมันก็ไม่มี  เห็นพระเยซูร้องทรมาน  นั่นเป็นแค่ปฏิกิริยาทางร่างกายเท่านั้น  ไม่เกี่ยวกับใจ อย่างไรก็ตาม พระเยซูก็ไม่ได้เคลื่อนหรือถอดจิตออกตลอดเวลา  เวลาที่ท่านดึงจิตหรือกายทิพย์กลับมาสู่กายเนื้อเมื่อใด  มันก็ต้องเจ็บปวดทรมานอยู่ดี  ข้อสันนิษฐานของผมมาจากการเห็นคนป่วยที่จิตออกจากร่างกาย บางคนออกมา 10 ปี 20 ปีก็ไม่เห็นมีปัญหา

-      ความทุกข์หรือไม่ทุกข์มันอยู่ที่จิตอยู่ที่ใจครับ ไม่ใช่อยู่ที่กายเนื้อ

ส่วนการเอาชนะความรู้สึกพยาบาทพร้อมปล่อยวางและให้อภัย  มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของพระอรหันต์โพธิสัตว์อยู่แล้ว  จิตไม่ไปนำเข้าเรื่องราวภายนอกเข้ามาในจิต และไม่ส่งออกอารมณ์และความคิดปรุงแต่งใด ออกไปรับรู้เรื่องราวภายนอกนั้น  จิตมันก็จะปล่อยวางและให้อภัย  ไม่รู้สึกพยาบาทอยู่แล้ว ซ้ำยังมีความรักความเมตตาให้กับผู้ทำร้ายด้วย

ผมก็ฝึกวิชาวิปัสสนากรรมฐานอยู่ทุกวัน  แต่ไม่ถึงขั้นพระเยซู  โดยผมเข้าไปโพสต์กระทู้ในเว็บศาสนาทุกวัน  ให้พวกมารที่เป็นทีมงานเว็บไล่ผมออกเกือบทุกวัน  กูจะโพสต์ธรรมะสูงสุดซะอย่าง พญามารมันก็จะไม่ให้โพสต์อย่างเดียว  พญามารมันงงแล้ว  โคตมพระพุทธเจ้าเป็นผู้สัญญากับพระพุทธเจ้าภาคดำว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องสูงสุด  ไม่ใช่ผม พลศักดิ์ สัญญาสักหน่อย

15 วันที่มา ผมโดนแบนกระทู้ และโดนไล่ออกจากเว็บyantip แล้ว 2 ครั้ง  เว็บpalungjit 1 ครั้ง  ในวันสองวันนี้อาจจะโดนไล่ออกจากเว็บpalungjit อีกครั้ง  เพราะมีคนจำได้ว่าแนวทางการโพสต์แบบนี้ มันเป็นไอ้พลศักดิ์แหงๆ  แล้วเว็บpalungjitมันมีคำสั่งถาวรมา 8 ปีแล้ว ให้แบนพลศักดิ์ในทุกชื่อเมื่อเห็น  แล้วผมก็โดนแบนจากเว็บ palungjit มากว่า 130 ครั้งแล้ว

ดีว่าเมื่อ 3 ปีก่อน  ผมเหลืออด…. เมื่อธรรมะสูงสุดของพระพุทธเจ้าเผยแพร่ในเว็บธรรมะไม่ได้  ผมก็ต้องสาบเว็บpalungjit และอีกเว็บไปเลยว่า ให้เว็บเหล่านี้ต้องถูกปิดไป แต่จะเกิดขึ้นมาได้อีกครั้ง  แต่ถ้ายังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม  คือ  ไม่ให้คนที่รู้ธรรมะสูงสุดของพระพุทธเจ้า เผยแพร่ธรรมะในเว็บธรรมะได้อีก  คราวนี้ไอ้พวกมารที่แฝงตัวมาเป็นทีมงานเว็บ ขอให้ตกงานกัน  แล้วทีมงานใดที่ชอบลบพุทธพจน์ของพระพุทธเจ้า ที่ผมนำมาแสดงเป็นหลักฐาน  ขอให้มือหรือแขนที่ทำความชั่วอย่างนั้นเดี้ยง แล้วพวกนั้นก็เจ็บป่วยแขนเดี้ยง  แล้วทำความชั่วในเว็บธรรมะไม่ได้จริงๆ  คุณส.ลองไปดูเว็บ yantip และเว็บpalungjit ซิ   ทีมงานหายไปไหม  สุขภาพเป็นอย่างไร  โดยเฉพาะที่มือและแขน

แล้วเว็บpalungjit.com และอีกเว็บหนึ่งก็โดนปิดไปจริงๆ  แล้วก็เกิดขึ้นมาใหม่  ผมก็ใช้บริการของพวกมันใหม่  เพราะโลกมนุษย์มารมันคุม

2 ปริศนาที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำทิ้งให้ผมเป็นผู้เฉลย และตอบเกิน

1. เรื่องพระเยซู เป็นพระโพธิสัตว์ อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต ลองฟังที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดเองนะครับ

.... ต่อมากลับมาที่พัก ธรรมดาของพระก่อนจะนอนต้องทำจิตใจให้สะอาดสบาย ไม่อย่างนั้นนอนไม่สบาย พอเริ่มทำสมาธิจับอารมณ์ จิตมันหลุดโผล่ปั๊บถึงดาวดึงส์ ไปโผล่ช่วงระหว่างพระจุฬามณีกับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ไปเดินป๋อที่นั่น

.... พอเดินไปก็มีบาทหลวงคนหนึ่งเดินสวนทางเดินตรงมาข้างหน้า ก็เลยถามว่า "พระเยซูใช่ไหม" ตามธรรมดาอารมณ์เป็นทิพย์มันจะบอกเลยว่าใครเป็นใคร ถ้ายังสงสัยก็ยังใช้ไม่ได้ ความเป็นทิพย์จะบอกชัดจะไปสงสัยไม่ได้เลย ท่านก็ตอบว่า "ใช่ครับ"

อาตมาถามว่า "ทำไมถึงแต่งตัวรุ่มร่ามอย่างนี้ บนสวรรค์เขาแต่งตัวแบบนี้เหรอ" ท่านบอกว่า "ถ้าผมไม่แต่งตัวแบบนี้ เกรงว่าท่านจะจำไม่ได้ จะสงสัย" บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นสภาพความเป็นจริงของท่านเป็นอย่างไร" ท่านก็ทำให้ดู ภาพนั้นหายไปกลายเป็นภาพเทวดาสวยงามมาก เครื่องประดับขาวเป็นประกายแวววับ ชฎาก็แหลมเปี๊ยบ เรียกว่างามจับตาเลย....ถามว่า "อยู่ที่ไหน" ตอบว่า "อยู่ชั้นดุสิต"

พอบอกอยู่ชั้นดุสิตอาตมาก็ตกใจ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์แน่ๆ

ผู้ที่มีสิทธิไปเกิดอยู่ชั้นดุสิต
พอกลับลงมาก็มานั่งคิดว่า พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ชั้นดุสิต ต้องมีบารมีเข้มแข็งมาก ถ้าไม่เข้มแข็งเข้าชั้นนี้ไม่ได้ เพราะชั้นดุสิตนี้เข้าได้ ๓ พวกคือ

๑) พุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า
๒) พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว
๓) พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปจึงจะอยู่ชั้นนี้ได้
สวรรค์ทุกชั้นไม่ใช่ใครจะอยู่ได้ทุกชั้นนะ ต้องเป็นไปตามขั้น ก็เลยมานั่งนึกว่า ทำไมพระเยซูมาอยู่ชั้นดุสิตได้ มาดูอารมณ์ตอนหนึ่งของท่านคือ ถูกตอกตะปูกับไม้กางเขน ถ้าจิตไม่ดีพอ ท่านจะเป็นเทวดาไม่ได้ ตามพระบาลีบอกว่า

"ถ้าจิตเศร้าหมองก่อนจะตาย ตายไปก็ต้องลงอบายภูมิ" นั่นเขาเจ็บขนาดนั้นเขายังไม่โกรธ ลองคิดดูให้ดีไม่ใช่เรื่องเล็กนะเรื่องใหญ่มาก ทำความดีไว้มากตลอดชีวิต แต่เวลาตายจิตเศร้าหมองหน่อยเดียวก็ต้องลงนรกหน่อย อย่าง พระนางมัลลิกาเทวี เป็นคนดีตลอดชาติ เวลาตายจิตคิดถึงที่เคยไปสะดุดเท้าของสามีนิดเดียว ความจริงโทษท่านไม่มี ถ้าจิตท่านไม่เศร้าหมองก็ไม่ลงนรก แต่ท่านแต่งตัวเป็นนางฟ้า เท้าแหย่ในนรก ๗ วัน.."

+++ผมเฉลยปริศนาที่ 1 ของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำทิ้งไว้เรื่องพระเยซู+++

- พระโพธิสัตว์มีแต่ในพุทธศาสนา พระเยซูจึงเป็นชาวพุทธ และเป็นพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ปางทานบารมี

2. เรื่องพระพุทธเจ้าองค์ปฐมที่เป็นมนุษย์ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำบอกว่าชื่อพระพุทธสิกขี แต่ตามคัมภีร์เถรวาทบอกว่า พระพุทธเจ้ามี 28 พระองค์ ไม่มีใครสามารถตีความออกว่า 28 องค์นี้คือ พระพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์ ส่วนในคัมภีร์มหายาน พระพุทธเจ้ามีมากมายเหลือเกิน โดยพระพุทธเจ้าเหล่านั้น นอกเหนือจาก 28 พระองค์ที่เป็นมนุษย์ พวกท่านบรรลุธรรมที่อื่น ส่วนใหญ่ บรรลุธรรมในแดนพุทธเกษตร

++++ ผมเฉลยปริศนาที่ 2 เลยดีกว่า++++

- พระพุทธสิกขี ที่เป็นมนุษย์องค์นี้ เป็นพระปฐมพุทธเจ้า พระพุทธสิกขีที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำพูดถึง คือ พระตัณหังกรพุทธเจ้า

นอกจากนี้ พระเยซูเป็นพระเจ้าที่เป็นพระบุตร พระเยซูองค์นี้ ก็คือพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ปางทานบารมี ด้วยเหตุนี้พระเจ้าที่เป็นพระบิดา หรือพระยะโฮวา ก็เป็นพระพุทธเจ้าด้วยเช่นกัน แล้วพระยะโฮวา ก็คือ พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า ที่เป็นธรรมกายและกายทิพย์สัมโภคกาย ส่วนพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าที่เป็นมนุษย์ยังไม่ได้ลงมา

พระบุตร = อรหันต์โพธิสัตว์
, พระบิดา = อรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้า

0 comments:

แสดงความคิดเห็น