A A

7 พฤษภาคม 2558

เข้าใจเรื่องจิตกันใหม่

ปรมัตถธรรม ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ทั้งหมดนั่นแหละคือ จิต แต่การที่ต้องแยกเป็น 4 อย่าง เป็นการแยกตามหน้าที่ของมันเท่านั้น ผมจึงบอกหลายครั้งแล้วว่า จิต มันมี 2 อย่าง

1. จิตไม่บริสุทธิ์หรือจิตสังขาร = จิต เจตสิก รูป และมีนิพพานซ่อนตัวอยู่ชั้นในสุด เป็นจิตและกายที่ละเอียดที่สุด ในจิตและกาย 18 จิตของเรา

2. จิตบริสุทธิ์หรือ จิต "ผู้รู้ " หรือ พุทธะ หรือ พระเจ้า หรือ พระอรหันต์ จิต"ผู้รู้ " = จิตและกายที่ละเอียดที่สุด ในจิตและกาย 18 จิตของเรา

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของจิตอย่างเดียว กายและทุกสิ่งล้วนเป็นจิต

คุณพลศักดิ์ คงไม่ได้ศึกษาพระ อภิธรรม ซึ่งเป็น พุทธพจน์ มีอยู่ในพระไตรปิฎก มีจำนวน 42,000 พระธรรมขันธ์ การกล่าวว่า" จิต เจตสิก รูป นิพพาน ทั้งหมดนั่นและ คือจิต " เป็นการล้มล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นการบิดเบือนพระธรรม ...

shart.com โพสต์ 

ตอบ


คุณและพวกที่ไม่ปฏิบัตินั่นแหละพยายามล้มล้างพุทธพจน์คำสอนในพระไตรปิฎก ศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้า เป็นศาสนาของจิตอย่างเดียว ทุกอย่างล้วนแล้วเป็นจิต simple basic ของพุทธศาสนา คุณก็ยังไม่รู้

พระพุทธเจ้าตรัสชัดเจนว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา" และ พระพุทธเจ้ายังตรัสด้วยว่า "ตถาคตเรียก ร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง" เพราะฉะนั้น กายก็คือจิต จิตก็คือกาย

มหาวรรคที่ ๗
๑. อัสสุตวตาสูตรที่ ๑.....แต่ตถาคตเรียก ร่างกายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้ง ๔ นี้ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง

สรุป

จิต กับ กายก็คือสิ่งเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนสลับกันไปมาระหว่างการเป็น พลังงาน กับ เป็นวัตถุสสาร ปรมัตถธรรม ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน ทั้งหมดนั่นแหละล้วนเป็นจิตทั้งสิ้น เพียงแต่แสดงหน้าที่ต่างกันไปเท่านั้น

ผมเป็นผู้เข้าใจพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆในโลกได้ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน กลับถูกคนที่ไม่เข้าใจศาสนา เช่น คุณ กล่าวหาว่า ล้มล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า และบิดเบือนพระธรรม ถ้าเป็นในอดีตยุคโบราณ ผมคงโดยแขวนคอไปแล้วมั๊ง

ถาม-ตอบ

คุณshartครับ

ตัวเราจริงๆบนโลก คือ นามรูป(ขันธ์ 5) พอเราตายตัวเราก็เปลี่ยนเป็นนามกาย (หรืออทิสมานกาย)
 วิญญาณเป็นส่วนหนึ่งของจิต ที่ทำหน้าที่เป็นวิญญาณเท่านั้น แต่ไม่ใช่จิต(สังขาร) 100ครับ  ต้องบอกว่า วิญญาณ(ธาตุ)มี จิต เจตสิก รูป นาม (แม้กระทั่งนิพพาน)อยู่ในตัวมัน

วิญญาณ(ธาตุ) และ นามรูป(ขันธ์ 5) หรือ ผีกับคน มันเปลี่ยนสลับไปสลับมากันเมื่อเราตาย เราก็เป็นผี เมื่อเราเกิดเราก็เป็นคน เพราะเรามีตัวจิต(สังขาร) ที่ไม่มีวันตาย แต่มันต้องการที่อยู่นั่นเอง จิตมันจึงย้ายข้างไปๆมาๆระหว่างเป็นคนหรือเป็นผี

ยกเว้นเราเข้านิพพานไป
 ทั้งผีกับคนก็หายไป จิตและกายก็เปลี่ยนเป็นกายธรรม และวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีจิตบริสุทธิ์อยู่ภายใน

คุณถามว่า

1. ทำไม จิต เจตสิต รูป นิพพาน ทั้งหมดนั่นแหละล้วนเป็นจิต?
2. ทำไม ขันธ์ ๕ หรือ รูป-นาม ก็คือจิต ยิ่งเอานิพพาน มารวมเป็นจิต ด้วย
?

ตอบ

คนถามนั้นถามง่ายเหลือเกิน คนตอบอย่างผม แม้ว่าจะตอบได้ แต่คนถามอย่างคุณ ที่มีการปฏิบัติจิตในระดับที่ต่ำมาก ก็ไม่มีทางเข้าใจ ไม่เชื่อคุณลองไปอ่านเรื่องจิตคือพุทธะ ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ดูซิ คุณไม่มีทางเข้าใจได้เลย ในประเทศนี้ ในปัจจุบันนี้ ผมเชื่อว่า มีแต่ผมที่สามารถเข้าใจเรื่องจิตคือพุทธะ อย่างถูกต้อง

ผมคิดว่า ผมจะค่อยๆไล่สอนความรู้เรื่องจิตให้คุณใหม่หมดเลย ผมจะเริ่มตั้งกระทู้ในสัปดาห์หน้า คุณอ่าน 3 กระทู้ของผม ปู
basicก่อน ผมค่อยตอบ 2 คำถามของคุณข้างต้น

คำสอนของฮวงโป "พระพุทธเจ้าทั้งปวง และสัตว์โลกทั้งสิ้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นเพียง "จิตหนึ่ง" นอกจาก "จิตหนึ่ง" นี้แล้ว มิได้มีอะไรตั้งอยู่เลย" นั้นตรงกับคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ เรื่องจิตคือพุทธะ

จิตหนึ่งที่ฮวงโป และ หลวงปู่ดูลย์ พูดถึง ความจริง คำว่า จิตหนึ่ง มันมี 2 จิตซ้อนกันอยู่

1. จิตหนึ่ง ที่เป็นรูปนามเดิมของจักรวาล จิตตัวนี้คงอยู่ชั่วนิรันดร คือ จิตพุทธะ หรือ จิตนิพพาน พระพุทธเจ้าเรียกว่า ความว่างมหาสุญญตา

2. จิตหนึ่ง ที่เป็นรูปนาม ที่เกิดจากอวิชชา เอากิเลส ตัณหา และความยึดมั่นถือมั่นเข้ามาเจือปนในจิตหนึ่งที่เป็นจิตพุทธะ หรือ จิตนิพพาน แต่มันเข้าไปเจือปนไม่ได้ เหมือนน้ำกับน้ำมันซึ่งต้องแยกกันอยู่ จิตหนึ่งที่เกิดจากอวิชชา พระพุทธเจ้าจึงแยกเรียกมันว่า จิต (= จิต+เจตสิก+รูป) ในกลไกปฏิจจสมุปบาท

คราวนี้มาดูคำกล่าวของหลวงปู่ดูลย์นะครับ

"สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในจักรวาลมีนับไม่ถ้วน รวมแล้วมีรูปกับนามสองอย่างเท่านั้น = นามรูป....

แล้วไอ้จิตหนึ่งที่ฮวงโป และ หลวงปู่ดูลย์ พูดถึง และที่ผมพูดว่าความจริง คำว่า จิตหนึ่ง มันมี 2 จิตซ้อนกันอยู่ คือ จิต(นิพพาน) กับ (จิต+เจตสิก+รูป)หรือ จิตหนึ่งในกลไกปฏิจจสมุปบาท รวมทั้งที่ผมบอกว่า จิต เจตสิก รูป นิพพาน ทั้งหมดนั่นแหละล้วนเป็นจิต และและ ขันธ์ ๕ หรือ รูป-นาม ก็คือจิต เหมือนกัน เพราะสิ่งเดียวที่มีอยู่ในจักรวาล คือ รูปนาม หรือ จิตหนึ่งนั่นเอง ไม่มีสิ่งอื่นอยู่เลย

พวกเรา รูปนาม หรือ จิตหนึ่ง ที่มีเป็นจำนวนอนันต์ ล้วนอยู่ตามลำพังในจักรวาล มนุษย์ต่างดาวก็เป็นจิตหนึ่ง เทพอพอลโลก็เป็นจิตหนึ่ง พระพุทธเจ้าก็เป็นจิตหนึ่ง พระอรหันต์แต่ละองค์ก็เป็นจิตหนึ่ง คุณผม และทุกคนในโลก และใน 31 ภพภูมิ ในทุกมิติก็เป็นจิตหนึ่ง

คำอธิบายอย่างละเอียด คุณจำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานให้ถูกต้องเสียก่อน เรื่องนี้ต้องใจเย็นๆครับ เพราะที่คุณเรียนรู้และจำมามันผิดทั้งนั้น ทั้งอาจารย์ผู้สอนคุณ และตัวคุณเอง มือไม่ถึงขั้นที่จะเข้าใจพระสูตรต่างๆในพระไตรปิฏก การจะเข้าใจศาสนาได้ ต้องทำทาน ศีล และปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนาเท่านั้น ตีความด้วยสมองยากมากที่จะเข้าใจ

ขนาดพุทธทาสภิกขุ... เจ้าแม่กวนอิมยังบอกว่า เข้าใจพุทธศาสนาน้อยกว่าผมเยอะเลย

0 comments:

แสดงความคิดเห็น