A A

16 พฤษภาคม 2558

ผลกรรมเปลี่ยนกาย(จิต)มนุษย์เป็นกาย(จิต)แบบอื่นใน 18 กาย(จิต)‏‏‏‏‏

ผลกรรมดึงดูดให้กาย(จิต)มนุษย์ละเอียด ให้เปลี่ยนเป็นกาย(จิต)เปรต กาย(จิต)สัตว์เดรัจฉาน กาย(จิต)เทวดา กาย(จิต)อสูร กาย(จิต)สัตว์นรก กาย(จิต)พรหม กาย(จิต)อรหันต์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งหมด 18 กาย

ตามคำสอนของหลวงพ่อสด
 

"สัตว์เดรัจฉานน่ะเป็นแต่กายข้างนอก กายข้างในน่ะ เป็นกายมนุษย์ละเอียดแท้ๆ"

ดังนั้น อ้ายตัวแมลงสาบ ม้า ช้าง สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก เปรต อสุรกาย ฯลฯ ซึ่งมีทั้งหมด 18 กาย(จิต) กายข้างในน่ะเป็นมนุษย์(จิต)ละเอียด ทั้งนั้นแหละ
 

ตามที่ผมรับรู้จากการปฏิบัติ
 (แม้ว่าจะคนละแนวทางกับวิชาธรรมกาย) รวมทั้งรู้จากการติดต่อกับเหล่าพุทธะมามากมาย ผมยืนยันว่าสิ่งที่หลวงพ่อสดสั่งสอนนั้นถูกต้อง 

กาย(จิต)มนุษย์หยาบ และ กาย(จิต)มนุษย์ละเอียด

ตอนที่เราเกิดมาเป็นคน หรือเป็นมนุษย์ กาย(จิต)ภายนอกของเราเป็นกาย(จิต) หยาบ ส่วนกาย(จิต) ภายในของเราเป็นกาย(จิต)ละเอียด กายหยาบของมนุษย์เกิดจากบุญบาปในอดีตชาติปั้นแต่งสร้างมา ให้เกิดมารวย เกิดมาจน เกิดมาฉลาด เกิดมาโง่ เกิดมาพิการ เกิดมาสมบูรณ์ เกิดมาหล่อ สวย น่ารัก น่าเกลียด เกิดมาแข็งแรง เกิดมาอ่อนแอ ฯลฯ

- กาย(จิต)หยาบของมนุษย์ จะดำเนินไปตามสัญชาตญาณนของตนเอง
 ตั้งแต่นี้ ผมจะใช้คำว่ากายอย่างเดียว แต่พึงรู้ว่าผมหมายถึงทั้งกาย และจิต 

อย่างไรก็ตาม มนุษย์ก็มีกายละเอียดซ่อนอยู่ภายในกายหยาบ กายละเอียดจะมีมโนธรรมรู้ว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนชั่ว และมีธรรมกายซ่อนอยู่ภายในมโนธรรมดีชั่วอีกชั้นหนึ่ง ธรรมกายตัวนี้เป็นมโนธรรมสูงสุด ที่สามารถละทิ้งทั้งกรรมดีกรรมชั่ว และละทิ้งการยึดติดในเรื่องราวภายนอก ซึ่งเป็นเรื่องโลกได้ทั้งหมด
 

เมื่อเราพ้นการเป็นทารกแล้ว เราก็เริ่มแสดงละครหรือบทบาทในโลก ผลบุญผลบาปเก่าในอดีตชาติของเรา ก็ยังมีผลอยู่ ทำให้แต่ละคนประสพชีวิตที่แตกต่างกัน แสดงหนังเป็นตัวละครคนละตัว อย่างไรก็ตาม เราทุกคนก็สามารถเลือกทำดีทำชั่วได้ ซึ่งการทำดีทำชั่วของเรา ถือเป็นกรรมใหม่หรือกรรมที่ทำในชาตินี้ กรรมใหม่หรือกรรมที่ทำในชาตินี้ สามารถไปหักล้าง หรือไปเปลี่ยนแปลงเรื่องราวในชีวิต ที่กรรมเก่าในอดีตชาติส่งผลมาให้เราได้ด้วย

ผลบาปจะสร้างหมอกบังตาคุณธรรมหรือมโนธรรมในใจเรา

จิตมนุษย์ผู้มีกิเลส ตัณหา อุปาทานมาก ทำแต่บาป จิตแบบนั้นจะค่อยๆพอกพูนปิดบังการเห็นถูกเห็นผิด ยิ่งมีกิเลสตัณหาอุปาทานมากเท่าไร การทำดีของเขาก็จะลดลง และการทำชั่วก็จะเพิ่มขึ้น
 

= กายมนุษย์หยาบของเรา กำลังสร้างหมอกมาปิดบังห่อหุ้มมโนธรรมในกายละเอียด 

มโนธรรมของเขาจึงลดลง ขนาดมโนธรรมเห็นดีเห็นชั่วธรรมดาๆ เขาก็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ยอมรับแล้ว จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไปรู้ไปเห็นธรรมกาย(มโนธรรมสูงสุด) ซึ่งซ่อนอยู่ในจิต(มโนธรรม)ชั้นในสุด เรียกแบบหลวงพ่อสดก็คือ
 ธรรมกายอยู่ที่จุดศูนย์กลางของศูนย์กลางกายละเอียด

ศูนย์กลางกายละเอียด เป็นที่ตั้งแห่งธรรมชาติ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบุญกุศล (กุสลาธัมมา) ฝ่ายบาปอกุศล (อกุสลาธัมมา) และฝ่ายกลางๆ (อัพยากตาธัมมา) คือ ตัวธรรมกาย ผมจึงบอกว่า จุดศูนย์กลางของศูนย์กลางกายละเอียด... เป็นตัวธรรมกาย นั่นเอง

พระพุทธเจ้าทรงแยกคนออกเป็นบัว 4 เหล่า

1. บัวพ้นน้ำพร้อมบรรลุธรรม
2. บัวปริ่มน้ำได้รับการชี้แนะบ้างจึงบรรลุธรรม
3. บัวใต้น้ำต้องได้รับการทรมานเคี่ยวเข็ญจึงบรรลุธรรม
4. บัวใต้โคลนตมไม่สามารถสั่งสอนธรรมได้

บัวเหล่าที่ 1 บัวพ้นน้ำพร้อมบรรลุธรรม น่าจะเป็นจิตอนาคามีอยู่แล้ว เช่น พระมหากัสสปะ แค่พระพุทธเจ้าชูดอกบัวขึ้นมา พระมหากัสสปะก็บรรลุธรรมเป็นอรหันต์เลย

บัวเหล่าที่ 2 บัวปริ่มน้ำได้รับการชี้แนะบ้างจึงบรรลุธรรม น่าจะเป็นจิตของนักบวช ฤๅษี และพระโสดาบัน
บัวเหล่าที่ 3 บัวใต้น้ำต้องได้รับการทรมานเคี่ยวเข็ญจึงบรรลุธรรม น่าจะเป็นจิตของปุถุชนคนธรรมดาทั่วไป ที่ทำทั้งบาป และบุญ แต่การทำบาปนั้นไมได้ทำจนถึงขั้นทำให้หมอกมาปิดบังห่อหุ้มมโนธรรมเห็นดีเห็นชั่วแบบมิดชิด

บัวเหล่าที่ 4 บัวใต้โคลนตมไม่สามารถสั่งสอนธรรมได้ นี่เป็นพวกที่ทำบาปจนจิตมองไม่เห็น และไม่รับรู้ว่า สิ่งใดดี สิ่งใดชั่วแล้ว เรียกว่า มโนธรรมเห็นดีเห็นชั่วปิดสนิทมิดชิด

ผลบุญผลกรรมที่ทำให้กายมนุษย์เปลี่ยนเป็นกาย(จิต)แบบอื่นใน 18 กาย(จิต)
 

แม้ผมไม่ได้ฝึกจิตแบบพวกธรรมกาย และก็ไม่มีใครมาสอนสมาธิและวิปัสสนา(สติปัฏฐาน 4)ให้ผม ผมฝึกปฏิบัติเอาเอง เพราะการบรรลุธรรมจนเข้าใจเรื่องธรรมกาย และเข้าใจเรื่องกาย(จิต) 18 กาย(จิต) ไม่ได้ถูกผูกขาดว่าต้องฝึกวิชาธรรมกาย จึงจะเข้าใจธรรมะลึกซึ้งสุดหยั่งคาดแบบนี้ได้
 

เราทุกคนเกิดมามีกายหยาบที่เป็นมนุษย์ แต่ถ้าเราหลงทำบาปไปเรื่อยๆ ไม่ยอมสำนึกบาป ไม่ยอมละทิ้งการทำบาปแบบนั้น กายหยาบที่เป็นมนุษย์ของเรา ก็จะเปลี่ยนสภาพไปเป็นกายเปรต กายสัตว์เดรัจฉาน กายอสูร กายสัตว์นรกไป ตอนที่ยังครองร่างเป็นมนุษย์อยู่ ก็พอรู้พอเห็นได้บ้าง แต่ยังเห็นไม่ชัดเจน แต่พอเราม่องเท่งไปแล้ว กายเปรต กายสัตว์เดรัจฉาน กายอสูร กายสัตว์นรกของเรา จะปรากฏออกมาชัดเจน มนุษย์กลายพันธ์เหล่านี้ จะอยู่ด้านล่างภพภูมิของมนุษย์

ส่วนกายเทวดานางฟ้า กายพรหม กายโสดาบัน กายอรหันต์ ฯลฯ มนุษย์กลายพันธ์เหล่านี้ จะอยู่เบื้องบนของกายมนุษย์ละเอียด ผู้ที่จะเข้าถึงกายเบื้องบนของกายมนุษย์ละเอียดได้ เป็นพวกที่ชอบทำทาน รักษาศีล ทำสมาธิและวิปัสสนา

เรื่องราวของผลกรรมดึงดูดให้กาย(จิต)มนุษย์ละเอียด เป็นกาย(จิต)เปรต กาย(จิต)สัตว์เดรัจฉาน กาย(จิต)เทวดา กาย(จิต)อสูร กาย(จิต)สัตว์นรก กาย(จิต)พรหม กาย(จิต)อรหันต์ ฯลฯ ซึ่งมีทั้งหมด 18 กาย(จิต) ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ

0 comments:

แสดงความคิดเห็น