A A

21 มีนาคม 2558

ทำไมพญามารเข้าสิงพระพรหมได้?

มีผู้ถามผมว่า  ทำไมพญามารเข้าสิงและหลอกพระพรหมได้?  ตำแหน่งก็เล็ก  แค่อยู่ในสวรรค์ชั้นปรนิมฯเท่านั้น

ตอบ

ก็พญามารมีหลายระดับน่ะซิ

- มีพญามาร  ที่เป็นเทพที่เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
  เรียกว่า เทวปุตตมาร  พญามารองค์นี้คือเทพบุตร เป็นเทพยิ่งใหญ่ระดับสูงสุด แห่งสวรรค์ชั้นกามาวจรขั้นสูงสุด คือ ปรนิมมิตวสวัตดี  

พญามารองค์นี้ คอยขัดขวางเหนี่ยวรั้งบุคคลไว้ มิให้ล่วงพ้นจากแดนอำนาจครอบงำของตน โดยชักให้ห่วงพะวงในกามสุข จนไม่หาญอาจเสียสละออกไปบำเพ็ญคุณความดีที่ยิ่งใหญ่สูงสุดเหนือชั้นกามาวจร คือ นิพพาน ได้  พญามารตนนี้เคยมาเฝ้าพระพุทธเจ้าหลายครั้ง เช่น


ครั้งหนึ่ง สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ กำลังจะออกจากวังเพื่อจะบรรพชา มารชื่อว่า วสวัตตีมาร ได้เข้ามาห้ามมิให้ออกอภิเนษกรมณ์ กล่าวกะพระโพธิสัตว์ว่า นับแต่นี้ ๗ วัน จักรรัตนะทิพย์จะปรากฏแก่ท่าน ท่านจักได้ครอบครองราชย์สมบัติแห่งทวีปใหญ่ทั้ง ๔ มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวาร แต่พระโพธิสัตว์ได้ปฏิเสธและขับไล่มารให้ไปเสีย

อีกครั้ง  สมัยหนึ่ง มารผู้มีบาปคิดว่า สิทธัตถกุมารต้องการจะล่วงพ้นอำนาจของเรา บัดนี้ เราจักไม่ให้สิทธัตถกุมารนั้นล่วงพ้นไปได้  จึงไปยังสำนักของพลมาร บอกเนื้อความนั้นแล้ว  ก็สั่งให้เคลื่อนกองทัพมารออกไปทันทีเพื่อสกัดพระพุทธเจ้า ไม่ให้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ

- นอกจากพญามาร ที่เป็นเทวปุตตมาร แล้ว  ยังมีพญามารแบบอื่นด้วย  ความจริงแล้ว  

ประเภทของมารมี  5 ประเภท 
ได้แก่

กิเลสมาร คือ กิเลสซึ่งทำให้เรามีความประพฤติ และนิสัยไม่ดีต่างๆ ในแง่ของมารหมายถึง กิเลสที่คอยขัดขวางไม่ให้เราทำความดี  พญามารที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้คนทำความดี  ศาสนาอื่นเรียกว่า "ซาตาน"

ขันธมาร คือ ร่างกายและจิตใจของเรา ซึ่งบกพร่องแล้วเป็นมารผลาญตัวเอง ในแง่ของมารหมายถึง ขันธ์ที่คอยกีดขวางการทำความดี เช่น ต้องการฟังธรรมะ แต่หูหนวก ไม่สามารถฟังธรรมได้ เป็นต้น

อภิสังขารมาร 
อภิสังขารคือความคิดนึกอันประกอบกับอารมณ์ เป็นมารเพราะเป็นตัวปรุงแต่งกรรม ทำให้เกิดชาติชรา เป็นต้น ขัดขวางไม่ให้หลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ  พญามารที่ทำหน้าที่นี้  มีอำนาจเหนือพญามารอื่นๆ  พระพุทธเจ้าเรียกพญามารตนนี้ว่า "อวิชชา"

เทวบุตรมาร เทวดาที่เป็นมาร เช่น ท้าววสวัตตี จอมเทพแห่งสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ดังที่ไม่อธิบายไปแล้ว

มัจจุมาร คือ ความตายที่ตัดโอกาสการทำความดีของเรา  พญามารตนนี้ก็คือ มัจจุราช ผู้ดูแลความตาย นั่นเอง

มารทั้ง 5 ประเภท  เรียกรวมกันโดยทั่วไปว่า "อวิชชา"  อวิชชาที่เป็นพญามารที่เป็นหัวหน้าใหญ่สุด  ซ่อนตัวอยู่ในจิตใต้สำนึกของมนุษย์และสรรพชีวิตใน 31 ภพภูมิ  ผกาพรหมและพระพรหมในชั้นต่างๆ  ล้วนแต่โดนพญามารที่ซ่อนตัวอยู่ในจิตใต้สำนึกหลอกได้ทั้งนั้น

แม้แต่หลวงตามหาบัวบรรลุอรหันต์แล้ว  แต่ก็ยังโดนพญามารที่ซ่อนตัวอยู่ในจิตใต้สำนึกของท่าน  หลอกให้เล่นการเมืองด่าทักษิณเลย  ทั้งนี้เพราะหลวงตามหาบัวมี 2 คน

1.  หลวงตามหาบัวที่เป็น  นาย "บัว โลหิตดี"  หลวงตามหาบัวที่เป็นนาย "บัว โลหิตดี"  ดันไปใช้สมองซื่อบื่อของตนเองเล่นการเมือง สมองเป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้อำนาจมารอยู่แล้ว หลวงตามหาบัวจึงโดนมารหลอกได้สบายมาก

2.  หลวงตามหาบัวที่เป็นพระอรหันต์  หลวงตามหาบัวที่เป็นพระอรหันต์  เป็นธรรมกายซึ่งเป็นหลวงตาบัวในอนาคต หลังจากหลวงตาบัวที่เป็นนาย "บัว โลหิตดี" ตายไปแล้ว หลวงตามหาบัวที่เป็นธรรมกายพระอรหันต์จึงจะออกมาแสดงบทบาทได้เต็มที่  หลวงตามหาบัวธรรมกายองค์นี้มารหลอกไม่ได้แล้ว ส่วนหลวงตามหาบัวที่เป็นนาย "บัว โลหิตดี" ดันไปใช้สมองคิดเล่นการเมือง เลยกลายเป็นเหยื่อมารกระจอกๆอย่างนายสนธิลิ้ม

 สรุป

อภิสังขารมาร หรือ ความคิดนึก อันประกอบกับอารมณ์ของเรา  ความคิดนึกจากอารมณ์ เป็นหัวหน้าพญามารที่ใหญ่ที่สุด  การเข้านิพพาน คือ การเข้าไปในแดนแห่งความนึกคิดที่ไม่มีอารมณ์โลภ โกรธ หลง นี่แหละคือ เมืองนิพพาน หรือสวรรค์นิรันดร

- โลกและปรโลก ทั้ง31 ภพภูมิ ล้วนเป็นโลกแห่งความนึกคิดจากอารมณ์  อารมณ์ยิ่งน้อยยิ่งพ้นอำนาจพญามาร  จึงกล่าวได้ว่า  สังสารวัฏทั้ง 31 ภพภูมิ  ยังหนีพญามารที่เป็นอวิชชา หรืออภิสังขารมารไม่พ้น

- เมืองนิพพาน หรือโลกนิพพาน  เป็นเมืองหรือโลกแห่งความนึกคิด ที่ปราศจากอารมณ์  อวิชชาหรือพญามารจึงไม่มีอำนาจในเมืองนิพพาน  พูดง่ายๆ อภิสังขารมาร  ไม่มีอำนาจในเมืองนิพพาน

0 comments:

แสดงความคิดเห็น