A A

8 มีนาคม 2558

ดวงจิตมีดวงเดียวท่องเที่ยวไป ที่บอกว่า 89 ดวง 121 ดวงเป็นอาการหรืออารมณ์ของจิต

ดวงจิตจริงมีดวงเดียว - หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)
                  
            ผู้ถาม:-     “ล่อจิตตั้ง ๑๒๗ ดวง ๘๒ ดวง
            
            หลวงพ่อ:- ใช่ฉันก็เคยเล่นมาก่อนเหมือนกัน
            
            ผู้ถาม:-     “หลวงพ่อหน่ะหรือครับ
            
            หลวงพ่อ:- อ้าวถ้าไม่โง่เสียก่อนจะรู้เรื่องได้ยังไง
            
            ผู้ถาม:-     “นึกว่าแจ่มแจ๋วตั้งแต่เล็กจนโต
            
            หลวงพ่อ:- แจ๋วมาก! ตอนนั้นแจ๋วมากจำได้ทุกดวง… (หัวเราะ) แต่ว่าพอไปเทศน์เข้าจริง ๆ เหลือ ดวงเดียว
            
            ผู้ถาม:-     “ตอนนี้พระที่เทศน์ด้วยกัน ไม่ค้านหูดับตับไหม้เลยหรือครับ ?”
            

            หลวงพ่อ:- ใครจะค้านใคร เขาก็ค้านแค่ ๓ ธรรมาสน์นี่น่ะ ทีแรก ๒ องค์ก็ล่อจิตกี่ดวง ตอบ ๘๐ ดวงบ้าง ๑๒๐ ดวงบ้างน่ะ ล่อกันอีรุงตุงนัง ฉันก็ล่อกินหมาก บุหรี่ไม่สูบ เป่ายานัตถุ์บ้าง อะไรใช่ไหม.. นั่งหลับตาเสียบ้าง เดี๋ยวเขาหันมาว่า ไงธรรมาสน์โน้น ถามอะไร แกเทศน์อะไรกันนี่ ถามทำไม บอกข้ากินหมากบ้าง เป่ายานัตถุ์บ้างเพลินไป

            เขาถามว่า จิตมีกี่ดวง บอก เอ๊ะ! ของข้ามันมีดวงเดียวนี่นะ พ่อให้มาดวงเดียว เขาบอกผิดตำรา ถามตำราของแกมีกี่ดวง เขาบอกอย่างย่อมัน ๘๐ อย่างพิสดารมี ๑๒๐ กว่าใช่ไหมถามมันติดตรงไหนบ้างล่ะ ติดตั้งแต่ฝ่าส้นตีนขึ้นไปถึงหัวแกใช่ไหม ยังไม่หมดเลย…” (หัวเราะ)
            
            “พระพุทธเจ้าตรัสว่า เอกะจะรัง จิตตังจิตดวงเดียวเที่ยวไป ไอ้ที่บอกเป็นหลายดวง คืออารมณ์เข้ามาสิงจิตอยู่ใช่ไหม.. 
อย่างจิตมีความโกรธ จิตมีความโลภ จิตมีความหลง ใช่ไหม.. จิตมีความรัก อารมณ์ของจิตก็ต่างกันไป นั่นมันเป็นอารมณ์ไม่ใช่ดวงจิต ดวงจิตจริงมันดวงเดียว
            
            ผู้ถาม:-     “ไอ้ที่มาเกิดก็มาดวงเดียว ตายแล้วก็ไปดวงเดียว
            
            หลวงพ่อ:- ใช่ไอ้พวกนั้นมันหลายดวง มันต้องเกิดหลายอย่าง เกิดเป็นคนบ้าง เกิดเป็นหมาบ้าง เกิดเป็นนกบ้าง อะไรบ้าง ความจริงพระฎีกาจารย์น่ะ ท่านอธิบายไว้เพื่อความเข้าใจง่าย ทีนี้ไอ้คนเบื้องหลังไม่เข้าใจตามท่าน
            
            ความจริงจิตน่ะ มันดวงเดียว เหมือนน้ำใส ๆ ใส่แก้วใช่ไหม.. ถ้าสีแดงใส่เข้าไป ไอ้น้ำนั่นน่ะออกเป็นสีแดง ถ้าสีเขียวใส่ไปน้ำก็เป็นสีเขียว ไอ้นั่นน้ำเปลี่ยนสีไปเพราะใส่สีเข้าไป จริง ๆ แล้ว น้ำมันใส แก้วมันใส
            
            และที่เราทำเวลานี้ เราทำเพื่อให้จิตใสตามเดิม 
ถ้าจิตใสตามเดิมก็ไปนิพพานได้ เมื่อก่อนนี้มันใสเหมือนกัน แต่มันใสไม่มีประกายพรึก จึงต้องเวียนว่ายตายเกิดใช่ไหม
            
          สรุปโดยPhonsak

ดวงจิตจริงมีดวงเดียว  ที่บอกว่ามี ๘๙ ดวงบ้าง  โดยพิสดาร ๑๒๑ ดวง นั่นมันเป็นอารมณ์ของจิต  ไม่ใช่ตัวดวงจิต ดวงจิตจริงมันดวงเดียว”  
            
            พระพุทธเจ้าตรัสว่า เอกะจะรัง จิตตังจิตดวงเดียวเที่ยวไปจิตที่มีดวงเดียวนี้คือ จิตสังขาร ที่เป็นปภัสสร  ความปภัสสรมันเสื่อมไป  เราจึงต้องเวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆใน 31 ภพภูมิ   แต่ เราต้องดับและละลายดวงจิตปภัสสรดวงเดียวท่องเที่ยวไปดวงนี้ไปก่อน  จึงจะได้จิตอีกตัวหนึ่งออกมา คือจิตนิพพาน หรือนิพพาน



วิธีรักษาโรคทุกข์ทั้งปวงให้หมดไปทำได้วิธีเดียว คือ ทำอย่างไงก็แล้วแต่ ให้จิตต้องว่างจากการคิดนึกปรุงแต่งด้วยกิเลสตัณหาตลอด


อธิบาย

1.  ทำให้จิตว่างตลอดกาล  โดยการทำสมาธิ หรือสมถะกรรมฐาน จนบรรลุเจโตวิมุตติที่ไม่กำเริบอีกเลย  ผู้ที่ทำวิธีจิตว่างตลอดกาลวิธีนี้ หรือ บรรลุธรรมเป็นอรหันต์วิธีนี้   ที่เรารู้จักกันดีที่สุด  คือ พระพุทธเจ้านามว่า  พระศิวะหรือพระอิศวร  ซึ่งเป็นราชาแห่งสมาธิ

2.  ทำให้จิตว่างตลอดกาล  โดยการทำสมถะแค่ฌาน 1 หรือฌาน 2 นอกนั้นทำวิปัสสนา หรือสติปัฏฐาน ผู้ที่บรรลุธรรมจิตว่างจากกิเลสตัณหา ว่างจากทุกข์วิธีนี้  จะเป็นพระอรหันต์สุกขวิปัสสโก  ไม่มีอภิญญา 1-5 เลย มีแต่อภิญญา 6 หลุดพ้นจากความทุกข์อย่างเดียว  เพราะการทำสมาธิ หรือสมถะกรรมฐานเท่านั้นจึงจะเกิดอภิญญา 5 อย่างได้  ด้วยเหตุนี้ ในปฐมสังคายนา  จึงไม่มีใครเชิญพระอรหันต์สุกขวิปัสสโกเข้าร่วม  เนื่องจากท่านไม่มีความสามารถอย่างอื่นเลย  มีความสามารถเฉพาะทำให้จิตหลุดพ้นจากกิเลสตัณหาเท่านั้น

3.  ทำให้จิตว่างตลอดกาล  โดยการทำสมถะกรรมฐาน(สมาธิ) ควบวิปัสสนากรรมฐาน  พระอรหันต์ทุกประเภทยกเว้นสุกขวิปัสสโกจะใช้วิธีนี้กันทั้งนั้น

4.  ทำให้จิตว่างตลอดกาล  โดยการทำบุญและทำสมถะกรรมฐาน(สมาธิ) ควบวิปัสสนากรรมฐาน แล้วอุทิศกุศลให้บรรดาเจ้ากรรมนายเวรที่ตามรังควานในชาตินี้  เมื่อเจ้ากรรมนายเวรที่ตามรังควานในชาตินี้ เราใช้หนี้กรรมให้พวกเขาทุกดวงแล้ว  จิตมันก็ต้องว่างอยู่แล้ว  เพราะเจ้ากรรมนายเวรในชาติต่อไปยังเข้ามาไม่ได้  เพราะเราเข้านิพพาน หรือเป็นพระอรหันต์ไปก่อนในชาตินี้  กรรมที่เหลือที่ต้องชดใช้ในชาติต่อไป  จึงกลายเป็นอโหสิกรรมไปโดยปริยาย

อนึ่ง  หลวงปู่เทพโลกอุดร และพระอริยะวังโส ท่านต่ออายุได้นานถึงกว่า 2,000 ปี  เพราะท่านเพียรพยายามอย่างมาก ใช้อิทธิบาท 4 แผ่เมตตาอุทิศกุศลจากกรรมฐานของท่าน  ชดใช้หนี้กรรมให้กับเจ้ากรรมนายเวรในชาติต่อไปๆๆๆๆด้วย  ไม่ใช่เฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่ตามรังควานในชาตินี้เท่านั้น  เจ้ากรรมนายเวรของท่านในชาติต่อไปๆๆๆๆ จึงอนุญาตให้ท่านใช้กายมนุษย์เดิมในชาตินี้ต่อไปเรื่อยๆ  ท่านจึงไม่ตาย  ไม่ต้องไปดูดเลือดใครต่ออายุด้วย

พระอรหันต์ที่ทำบุญทำทานด้วยวัตถุและด้วยกรรมฐานมากๆ  แม้ท่านจะเข้านิพพานไปแล้ว  ส่วนใหญ่ท่านจะไม่ละลายและไม่ทิ้งอาทิสมานกาย(กายทิพย์มนุษย์)ของท่านไปเปล่าๆ  แต่จะส่งอาทิสมานกาย(กายทิพย์มนุษย์)ของท่านลงมาเวียนว่ายตายเกิดอีก  เช่น เจ้าแม่กวนอิมไทยที่ชื่อพรรณวดีศรีโสภาค  ที่ส่งอาทิสมานกายของท่านลงมาเกิดเป็นพระนางจามเทวี พระศรีสุริโยทัย.... พระนางเรือล่ม  และชาติปัจจุบันเป็นน้องปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  ด้วยเหตุที่ต้องการช่วยชาติบ้านเมืองในยามวิกฤต

  เรียงลำดับอดีตชาติน้องปู ยิ่งรัก ชินวัตร ได้ดังนี้

   1. พรรณวดีศรีโสภาค(กวนอิมไทย)
     -ธรรมกาย และกายทิพย์บริสุทธิ์ ไปอยู่นิพพานพุทธเกษตรแล้ว
     -ส่วนกายทิพย์(อาทิสมานกาย)มาเกิดวนเวียนต่อในสังสารวัฏ เพื่อใช้บุญบารมีของท่านลดความรุนแรงและยุ่งเหยิงของชาติ  ชาติแรกเป็น
   2. พระนางจามเทวี
   3. พระศรีสุริโยทัย
   4. หลานพระเจ้าตากสิน
   5. เมีย ร.5….สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี (พระนางเรือล่ม)
   6. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(น้องปู)

ยังมีการทำให้จิตว่างตลอดกาลวิธีอื่นๆอีก  แต่ผมขี้เกียจคิดในตอนนี้

0 comments:

แสดงความคิดเห็น