A A

21 มีนาคม 2558

เมื่อ 2 คืนก่อน ผมคุยกับหลวงตามหาบัวในจิต+ถามพระพุทธเจ้าภาคขาวว่า...

ก่อนนอนทุกคืน  ผมจะทำสมถะ(สมาธิ)และวิปัสสนา  คืนนี้ก็เช่นเดียวกัน  แต่คืนนี้แปลกไปตรงที่ ผมเข้าสมาธิไป  จิตก็คิดเรื่องหลวงตามหาบัวทุกที  จากประสบการณ์เป็นสิบๆปีของผม  ผมรู้ว่าหลวงตามหาบัวมาหาแน่ๆ  เพราะพุทธะจะมาหาเป็นรูป(กายทิพย์)ก็ได้  จะมาหาเป็นนามไม่มีรูปก็ได้ ผมเลยตัดสินใจคุยกับหลวงตาในสมาธิเลย  พอตื่นขึ้นผมก็มาเขียนบันทึกเรื่องราวไว้ทันที

คุยในจิตกับหลวงตามหาบัว ตอนเวลาตี 1.45 น. วันที่ 3 ม.ค. 2013

หลวงตามหาบัวมาหาผมแบบเป็นนามที่ไม่มีรูป  จึงเหมือนกับผมคุยกับตัวเอง หรือคิดไปเองนะครับ

หลวงตา  เธอควรขอขมาเรา

พลศักดิ์  หลวงตาต้องบอกผมก่อนว่า  ข้อเขียนของผมผิดอย่างไร  ผมจึงขอขมาท่านได้

หลวงตา  เธอไม่สมควรพูดจากับพระอรหันต์แบบนั้น

พลศักดิ์  ผมพูดกับเจ้าแม่กวนอิม  พูดกับเง็กเซียน  พูดกับพระอรหันต์แม้แต่พระพุทธเจ้าหลายพระองค์  ผมก็พูดอย่างนี้ทั้งนั้น  ผมไม่มี 2 มาตรฐาน  ผมจะขอขมาท่านก็ได้  แต่ไม่ใช่เพราะว่าผมยอมรับว่าสอนผิดเข้าใจผิดนะ  ที่ผมขอขมาหลวงตา  เพราะผมจะเข้าสมาธิต่อเพื่อแผ่เมตตาอุทิศกุศลให้เหล่าวิญญาณ เพราะผมสัญญากับพวกเขาไปแล้วว่าจะช่วยพวกเขา  ถ้าท่านยังอยู่ในจิตของผม  ผมก็จะเข้าสมาธิจริงๆจังๆไม่ได้

แล้วผมก็ขอขมาหลวงตามหาบัว  ท่านก็ให้ผมขอขมาหลวงพ่อคูณด้วย  เนื่องจากผมไปพูดภาษาที่ไม่ควรพูดกับพระอริยะเจ้า  ทันทีที่ผมขอขมาเสร็จ  หลวงตาก็หายไปจากการเข้ามาในจิตของผมเลย 
- ไม่ยอมตอบผมว่า  บทความที่ผมเขียนเกี่ยวกับหลวงตา  ผมเข้าใจถูกหรือเข้าใจผิด

คุยกับกายทิพย์อมตะสัมโภคกายองค์หนึ่งที่เป็นพระพุทธเจ้าภาคขาว  แต่ท่านไม่อนุญาตให้ผมเผยชื่อท่าน

ตอนเช้า 9.30 น. ผมตื่นมา อาบน้ำเสร็จ  ผมก็ทำสมถะ(สมาธิ)และวิปัสสนาทันที  เนื่องจากเมื่อคืนหลวงตามหาบัว  ไม่ยอมตอบผมเรื่องที่ผมวิจารณ์หลวงตานั้น  ผมอธิบายถูกหรือผิดกันแน่ผมจึงต้องสอบถามพระพุทธเจ้าภาคขาว องค์นี้แทน

พลศักดิ์   เมื่อวานผมเขียนเรื่องหลวงตามหาบัว แล้วเมื่อคืนผมคิดว่า  ผมคุยกับหลวงตามหาบัว  ผมจึงอยากจะถามท่านว่า....(ยังไม่ทันพูดเลย  ท่านคงรู้อยู่แล้ว จึงชิงตอบสวนผมก่อน)

พระพุทธเจ้าภาคขาว  ที่เธอเขียนนั้นถูกต้องแล้ว  สันดานของเธอเป็นอย่างนั้น  ก็ต้องพูดไปแบบนั้น  ถ้าคนธรรมดาพูดแบบเธอ  ใจของเขาก็จะระแวงกลัวไปตลอดว่าจะตกนรก  แต่เธอไม่ได้ระแวง ไม่ได้กลัว เธอจึงไม่ตกนรก

+++ที่พระพุทธเจ้าภาคขาวตรัสว่า  
"(ใจ)เธอไม่ได้ระแวง ไม่ได้กลัว  เธอจึงไม่ตกนรก"  หมายความว่า  ผมได้บรรลุธรรมขั้นอรหันต์แล้ว  จึงกล้าพูดจาภาษาหมาๆกับหลวงตามหาบัว  ลองอ่านบทความนั้นของผมดูนะครับ+++

ตอบคำถามสุดพิสดารของPhonsak : เรื่องพระอรหันต์ทำให้น้ำอสุจิออกมาผิดไหม?

พระอรหันต์ฝันหรือไม่ ที่เอ็งตอบมาดีมาก ตรงกับ หลวงตาบัวว่าไว้เลย ท่านบอกพระอรหันต์ก็ฝันได้ ทั้งที่คนส่วนมากเข้าใจว่าอรหันต์มีสติตลอดจะฝันได้อย่างไร ตกลง อรหันต์ที่ดำรงสติตลอด ไม่มีความฝัน อรหันต์ที่นอนแล้ว สติเลื่อนลอยกลับฝันได้

ตรงนี้แปลก อรหันต์จะขาดสติได้หรือ สงสัยองค์หลวงตาเหมือนกัน  แต่ที่ตอบมาก็ตรงกับหลวงตาว่าไว้


ตอบ

บังเอิญกูรู้มากกว่าหลวงตามหาบัวโว๊ย  กูเลยบอกมึงว่า  
ด่าว่าคำสอนของหลวงตามหาบัวเรื่องธรรมะบาปมาก  แต่ด่าว่า  หลวงตามหาบัว ที่เล่นการเมืองเป็นพวกเสื้อเหลืองบาปน้อย  เพราะด่าว่าหลวงตามหาบัวที่เล่นการเมือง คือ ด่าว่า นาย บัว โลหิตดี  ไอ้บ้านนอก ที่ถูกไอ้สนธิลิ้มหลอกอัดเทปด่าทักษิณ  

กายใหม่ของหลวงตามหาบัวคือธรรมกาย  กายเก่าคือไอ้ควายบ้านนอก ไอ้เบื๊อกปัญญาอ่อน บัว กายเก่ากายใหม่ 2 กายนี้มันซ้อนกันอยู่  ในสมัยพระเจ้าตากสิน ไอ้บัวคนนี้เป็นสมุนไอ้สนธิลิ้มซึ่งเป็นเจ้าหัวเมืองของไทยแห่งหนึ่ง  กรรมของพระเจ้าตากสินเมื่อเกิดเป็นทักษิณในชาตินี้  จึงต้องใช้หนี้กรรม ไอ้เบื๊อกปัญญาอ่อน บัว” กับเจ้านายของมัน เนื่องจากพระเจ้าตากสิน(
Taksin) ซึ่งชาตินี้เกิดเป็นทักษิณ-Taksin ไปฆ่าพวกมัน ไปยึดทรัพย์ และใส่ร้ายป้ายสีพวกมัน  ที่ไอ้เบื๊อกปัญญาอ่อน บัว” โดนไอ้สนธิลิ้มหลอกใช้งานได้ในชาตินี้ ก็เพราะสนธิลิ้มเคยชุบเลี้ยงไอ้บัวมาก่อนในอดีตชาติ  มันเลยต้องใช้หนี้กรรมให้ไอ้สนธิลิ้ม

อรหันต์ที่ไม่เคยขาดสติเลย คือ พระพุทธเจ้า  หลังจากเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว  สติของท่านมีอยู่ตลอดเวลา  พระอรหันต์ทั่วไปตอนเป็นมนุษย์ขาดสติได้  ทำให้ฝันได้  แต่พอตายไปแล้ว  ท่านดำรงเป็นธรรมกายและเป็นกายทิพย์อมตะสัมโภคกายตลอดเวลา  พวกท่านจึงฝันไม่ได้  เพราะไม่ต้องนอนหลับ  พวกท่านทำได้คือเห็นเป็นนิมิตในฌานของพวกท่านเท่านั้น

พระสารีบุตรฝันตอนกลางวันแสกๆเลย  เพราะอดีตชาติเคยเป็นลิง  มาชาติที่เป็นพระสารีบุตร  พอเดินไปไหนก็ขาดสติ  ลืมไปว่าตนเองเป็นอรหันต์ได้ธรรมกายแล้ว พอเดินไปก็เดินแบบกระโดด ไม่มีการสำรวมใดๆ  จนเศรษฐีคนหนึ่งที่ตั้งใจจะถวายผ้าจีวรให้ท่าน 3 ผืน  คิดในใจว่า 
สมณะรูปนี้ไม่สำรวมเลย เราถวายสองผืนก็พอ  พระสารีบุตรจึงได้สติกลับมา พอมาถึงท้องร่องพระสารีบุตรแทนที่จะกระโดด กลับผิดคาด  ท่านไม่ยอมกระโดดข้ามไป แต่เดินอ้อมท้องร่องไปอย่างสำรวม เศรษฐีสงสัยจึงถามว่า ทำไมท้องร่องนี้พระคุณเจ้าจึงไม่กระโดดเล่า ขอรับ พระสารีบุตรตอบว่า อ้าว ขืนอาตมากระโดดก็อดผ้าน่ะซี” 

จะดูว่าตอนไหน หลวงตาบัว เป็นพระอริยะเจ้า  ตอนไหนเป็นปุถุชนดูไม่ยากหรอก ถ้าตอนท่านพูดเรื่องธรรมะ  ตอนนั้นกายธรรมกายอรหันต์ข้างในท่านพูดและแสดงธรรม  ตอนท่านพูดการเมือง คือไอ้ควายบ้านนอก นายบัว โลหิตดีพูด  ตอนที่ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน และนายสนธิ ลิ้มทองกุล ทำพิธี 
"คว่ำบาตร" ทักษิณถึง 3 ครั้ง  ตอนนั้นคือ  ไอ้บัวมันสนองคุณนายเก่าของมัน  ถ้ากูอยู่ที่นั่นด้วย กูตบหัวหลวงตามหาบัวให้สติกลับคืนเลย  ถ้าหลวงตามหาบัวสติกลับมาแล้ว  จะรู้ทันทีว่าพระพุทธเจ้ามาโปรดท่านแล้ว....เพราะในแผ่นดินนี้  มีใครที่ไหนกล้าตบกะโหลกหลวงตามหาบัว

กูกล้าพูดหมาๆโดยไม่กลัวฟ้าดินและกลัวนรกกินหัวอย่างนี้  มึงต้องรู้แล้วว่า ตอนนี้ใครกำลังสอนธรรมขั้นสุดยอดให้มึงอยู่  ถ้ามึงยังไม่รู้อีก มึงกับมาเมืองไทยเมื่อไร กูก็ต้องตบกะโหลกมึงแทนหลวงตามหาบัวแล้ว

0 comments:

แสดงความคิดเห็น