A A

24 กุมภาพันธ์ 2558

ธรรมชาติที่รู้แจ้ง=อายตนะนิพพาน= จิตวิญญาณที่เป็นอสังขตะ=จิตหลุดพ้นกิเลสตัณหา

dhammajakเขียน:

1. ธรรมชาติที่รู้แจ้ง เรียกว่าวิญญาณครับ
2. ส่วนตัวที่รู้  เหนือวิญญาณ
เรียกว่า รู้วิเศษ
คือ วิชชา ครับคุณสั้น

ตอบ

kuว่าkuจะไม่ตอบให้ความรู้มาร 2 ตัวนี้แล้ว คือ 1. มารปริยัติ-พระนาย  2. มารศาสนาพุทธ-dhammajak  แต่ถ้าkuไม่ตอบพวกมัน  ไอ้พวกนี้  แม่งทำลายศาสนาพุทธปี้ป่นแน่  โดยเฉพาะมารdhammajak  แม่งเล่นมั่วอย่างเดียว  kuจึงไม่มีทางเลือก  ต้องเข้ามาตอบมัน  

ขอนำพระสูตรเหล่านี้มาแสดง

(๓๕๐)  ธรรมชาติที่รู้แจ้ง   ไม่มีใครชี้ได้  ไม่มีที่สุด  แจ่มใส  โดยประการทั้งปวง  
ปฐวีธาตุ  อาโปธาตุ  เตโชธาตุ  และวาโยธาตุ  ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้.  อุปาทายรูปที่ยาวและสั้น  ละเอียดและหยาบ  ที่งามและไม่งาม  ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้.  นามและรูปย่อมดับไม่เหลือในธรรมชาตินี้.  เพราะวิญญาณดับ  นามและรูปนั้นย่อมดับไม่เหลือในธรรมชาตินี้  ดังนี้.

พระสูตรนี้กับพระสูตรเรื่องอายตนะนิพพาน  มีคำอธิบายที่สอดคล้องและเหมือนกัน

๑.  ปฐมนิพพานสูตร

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย  "อายตนะนั้นมีอยู่"  
ดิน  น้ำ  ไฟ  ลม  อากาสานัญจายตนะ  วิญญาณัญจายตนะ  อากิญจัญญายตนะ   เนวสัญญานาสัญญายตนะ  โลกนี้  โลกหน้า  พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น 
       ดูกรภิกษุทั้งหลาย  เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า  เป็นการมา  เป็น
การไป  เป็นการตั้งอยู่  เป็นการจุติ  เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิ
ได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

สรุป

1. ธรรมชาติที่รู้แจ้ง และ อายตนะนั้น  หมายถึง  พระนิพพาน   ถูกแล้วครับที่คุณพูดว่า  "ธรรมชาติที่รู้แจ้ง เรียกว่าวิญญาณ"  แต่เป็นวิญญาณคนละตัวกับวิญญาณมนุษย์และวิญญาณของนามรูปทั้งหลาย  ด้วยเหตุที่ "....นามและรูปย่อมดับไม่เหลือในธรรมชาตินี้.  เพราะวิญญาณดับ  นามและรูปนั้นย่อมดับไม่เหลือในธรรมชาตินี้  ดังนี้"

 
ปฐวีธาตุ  อาโปธาตุ  เตโชธาตุ  และวาโยธาตุ  ย่อมตั้งอยู่ไม่ได้ในธรรมชาตินี้ =  ดิน  น้ำ  ไฟ  ลม ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น = ธรรมชาติที่รู้แจ้งคืออายตนะนิพพานนั่นเอง

2. ส่วนตัวที่รู้  เหนือวิญญาณ  เรียกว่า รู้วิเศษ คือ วิชชา = ต้องพูดให้ชัดเจนครับ  ตัวรู้เหนือ"วิญญาณ...มนุษย์และวิญญาณของนามรูปทั้งหลาย"  เรียกว่า สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ  สอุปาทิเสสนิพพานธาตุตัวนี้เป็นจิตหรือกายละเอียดชั้นในสุดของจิตมนุษย์ ที่เรียกว่า จิตหรือกายชั้นละเอียดสุดชองกายทิพย์หรืออาทิสมานกาย  ต้องดับสอุปาทิเสสนิพพานธาตุทิ้งไป  จึงจะได้ "จิตพ้นวิเศษ" หรือ "จิตหลุดพ้น"  ซึ่งเป็นจิตอสังขตะ  ขณะที่จิตมนุษย์และจิตใน 31 ภพภูมิเป็นจิตสังขาร หรือจิตสังขตะ

อ้อ! อีกอย่าง  คุณเรียกผมว่า คุณสั้น  ไอ้นั่นผมไม่สั้นนะ  ไอ้นั่นผมหดจู๋เลย

0 comments:

แสดงความคิดเห็น