นิพพานไม่ใช่จิต ที่เป็นจิตสังขาร หรือจิตคิดปรุงแต่งครับ
จิต(สังขาร)ตัวนี้เกิด
แก่ เจ็บ ตาย
แต่นิพพานเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ ที่ไม่คิดปรุงแต่ง จิตตัวนี้เป็นอมตะ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย บางทีพระพุทธเจ้าก็เรียกจิตชนิดนี้ว่า "จิตหลุดพ้น จิตพ้นวิเศษ"
ถ้านิพพานไม่ใช่จิต เราจะไปแสวงหานิพพานทำหอกอะไรล่ะ เพราะรับรู้อะไรไม่ได้ทั้งสิน
นิพพานคือธรรมชาติที่รู้แจ้ง = จิตที่รู้แจ้ง ถ้านิพพานไม่ใช่จิต แล้วมันจะไปรู้อะไรได้ สิ่งที่รู้ได้มีแต่จิตเท่านั้น
พระพุทธเจ้าสอนให้ดับจิตสังขาร ดับกายและวิญญาณที่เป็นอนัตตา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อไปสู่กาย จิต วิญญาณที่เป็นอัตตา ไม่เกิด ไม่ แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
พระพุทธเจ้าตรัสกับพระมหากัสสปะว่า " ดูกรกัสสปะ เธอมีธรรมจักษุครรถ์อันถูกต้อง และนิพพานจิต ลักษณะที่แท้จริงย่อมไม่มีลักษณะ เธอพึงรักษาไว้ให้ดี "
พระพุทธเจ้าตรัสชัดๆว่า "นิพพานจิต" ไม่ใช่หรือครับ
ถ้านิพพานไม่ใช่จิตแล้ว...จะไปสร้างอายตนะนิพพานได้อย่างไร เพราะมีแต่จิตเท่านั้นสร้างอายตนะได้
ถ้านิพพานไม่ใช่จิตแล้ว...ธรรมชาติที่รู้แจ้ง จะมีได้อย่างไร เพราะมีแต่จิตเท่านั้นที่จะไปรู้อะไรต่ออะไรได้
จิตที่คนทั่วไปพูดกัน คือ จิต(สังขาร) เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ อารมณ์คือสิ่งที่จิตไปรู้ พอไปรับรู้แล้ว มันดันเสือกไปรับอารมณ์ด้วย ไปยึดถือด้วย จึงเกิดปฏิจจสมุปบาท ทำให้ต้องตกลงมาวนเวียนเกิดตายไปเรื่อยๆ
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
"องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า ...โมกขราช เรากล่าวว่า นิพพานนั้นหมายถึงกิเลสดับ และขันธ์ ๕ ดับ... พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า จิตดับ"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"ดวงจิตนี้ไม่เคยสูญ แดนพระนิพพานมีจริง หลวงปู่มั่นเล่าว่า พระพุทธเจ้าหลายพระองค์เสด็จมาเยี่ยมท่าน"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
"จิตวิญญาณมันไม่ใช่ของแตกของทำลาย แลไม่ใช่ของสูญหาย พระพุทธเจ้าสอนให้จิตมันเที่ยง เหมือนพระนิพพานเป็นของเที่ยง ไม่แปรผัน ยักย้าย สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นฯทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นไม่ใช้ตัวตน"
หลวงปู่ลี ธมมฺโร วัดอโศการาม
" โลกนิพพาน ไม่มีทั้งเกิด ไม่มีทั้งตาย กายเป็นของสูญ จิตเป็นของไม่สูญ ไม่ตาย จิตที่ดับจากกาย ย่อมหายไป เหมือนกับไฟที่ดับจากเทียน"
อดีตพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส)
" พระธรรมกาย ได้แก่พระกายอันบริสุทธิ์ ไม่สาธารณะแก่เทวา และมนุษย์ หมายถึงจิตที่พ้นจากกิเลสแล้ว เป็นพระกายที่เที่ยงแท้ไม่สูญสลาย อินทรีย์ของพระอรหันต์ประณีตสุขุม แม้ตาทิพย์ของเทวดาก็มองไม่เห็น"
แต่นิพพานเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ ที่ไม่คิดปรุงแต่ง จิตตัวนี้เป็นอมตะ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย บางทีพระพุทธเจ้าก็เรียกจิตชนิดนี้ว่า "จิตหลุดพ้น จิตพ้นวิเศษ"
ถ้านิพพานไม่ใช่จิต เราจะไปแสวงหานิพพานทำหอกอะไรล่ะ เพราะรับรู้อะไรไม่ได้ทั้งสิน
นิพพานคือธรรมชาติที่รู้แจ้ง = จิตที่รู้แจ้ง ถ้านิพพานไม่ใช่จิต แล้วมันจะไปรู้อะไรได้ สิ่งที่รู้ได้มีแต่จิตเท่านั้น
พระพุทธเจ้าสอนให้ดับจิตสังขาร ดับกายและวิญญาณที่เป็นอนัตตา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เพื่อไปสู่กาย จิต วิญญาณที่เป็นอัตตา ไม่เกิด ไม่ แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย
พระพุทธเจ้าตรัสกับพระมหากัสสปะว่า " ดูกรกัสสปะ เธอมีธรรมจักษุครรถ์อันถูกต้อง และนิพพานจิต ลักษณะที่แท้จริงย่อมไม่มีลักษณะ เธอพึงรักษาไว้ให้ดี "
พระพุทธเจ้าตรัสชัดๆว่า "นิพพานจิต" ไม่ใช่หรือครับ
ถ้านิพพานไม่ใช่จิตแล้ว...จะไปสร้างอายตนะนิพพานได้อย่างไร เพราะมีแต่จิตเท่านั้นสร้างอายตนะได้
ถ้านิพพานไม่ใช่จิตแล้ว...ธรรมชาติที่รู้แจ้ง จะมีได้อย่างไร เพราะมีแต่จิตเท่านั้นที่จะไปรู้อะไรต่ออะไรได้
จิตที่คนทั่วไปพูดกัน คือ จิต(สังขาร) เป็นธรรมชาติที่รู้อารมณ์ อารมณ์คือสิ่งที่จิตไปรู้ พอไปรับรู้แล้ว มันดันเสือกไปรับอารมณ์ด้วย ไปยึดถือด้วย จึงเกิดปฏิจจสมุปบาท ทำให้ต้องตกลงมาวนเวียนเกิดตายไปเรื่อยๆ
หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
"องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า ...โมกขราช เรากล่าวว่า นิพพานนั้นหมายถึงกิเลสดับ และขันธ์ ๕ ดับ... พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า จิตดับ"
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"ดวงจิตนี้ไม่เคยสูญ แดนพระนิพพานมีจริง หลวงปู่มั่นเล่าว่า พระพุทธเจ้าหลายพระองค์เสด็จมาเยี่ยมท่าน"
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
"จิตวิญญาณมันไม่ใช่ของแตกของทำลาย แลไม่ใช่ของสูญหาย พระพุทธเจ้าสอนให้จิตมันเที่ยง เหมือนพระนิพพานเป็นของเที่ยง ไม่แปรผัน ยักย้าย สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นฯทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นไม่ใช้ตัวตน"
หลวงปู่ลี ธมมฺโร วัดอโศการาม
" โลกนิพพาน ไม่มีทั้งเกิด ไม่มีทั้งตาย กายเป็นของสูญ จิตเป็นของไม่สูญ ไม่ตาย จิตที่ดับจากกาย ย่อมหายไป เหมือนกับไฟที่ดับจากเทียน"
อดีตพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส)
" พระธรรมกาย ได้แก่พระกายอันบริสุทธิ์ ไม่สาธารณะแก่เทวา และมนุษย์ หมายถึงจิตที่พ้นจากกิเลสแล้ว เป็นพระกายที่เที่ยงแท้ไม่สูญสลาย อินทรีย์ของพระอรหันต์ประณีตสุขุม แม้ตาทิพย์ของเทวดาก็มองไม่เห็น"
0 comments:
แสดงความคิดเห็น