ในพุทธศาสนาเถรวาทแบ่งภพภูมิออกเป็น 31 ภพภูมิ คือ อบายภูมิ 4
ชั้น มนุษย์โลก 1 ชั้น พรหมโลก 16 ชั้น อรูปพรหม 4 ชั้น สวรรค์ 6 ชั้น ในลัทธิเต๋า แบ่งเป็นอบายภูมิ 4 ชั้น มนุษย์โลก 1 และ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน เหมือนกัน แต่ที่ต่างกันคือ
- พรหมโลก15 ชั้น ยกเว้นอสัญญีสัตตาชั้น(ภูมิ) + สวรรค์ชั้นปรนิมมิตสวัตตี เทพชั้นปรมินเรียกว่า "กายิกาพรหม" เป็นพรหมที่มีกายแบบเทพ คือมี 4 กรแต่หน้าเดียว = 16 ชั้นฟ้าแรกในลัทธิเต๋า
- ส่วน สวรรค์ 6 ภพภูมิ หรือ 6 ชั้น ในพระไตรปิฎกนั้น 5 ชั้นแรก(จาตุ,ดาวดึงส์,ยามา,ดุสิต,นิมมา) + อีก 10 ชั้นในไตรภูมิ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ =15 ชั้นดินในสัทธิเต๋า
1. บาดาล เป็นเทวะโลกชั้นที่ 1 ที่มีภพใกล้เคียงกับมนุษย์ เพราะสามารถสร้างบุญก็ได้ สร้างเวรกรรมก็ได้เพียงแต่บุคคลในภพนี้ล้วนมีความรัก และ อาฆาต พยาบาทที่รุนแรงจึงทำให้ผู้ที่อยู่ในโลกบาดาล เวลาอยู่ในบาดาลจะมีกายเป็นคนหากออกนอกเขตจะกลายเป็นงูทันที
2. ภูมมะ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 2 ที่อยู่ใกล้มนุษย์มากที่สุด เป็นดินแดนของเหล่าพระภูมิเจ้าที่ต่างๆ มีคุณและโทษแก่มนุษย์ผู้กราบไหว้บูชามีกิเลสคล้ายกับมนุษย์ที่สุด
3. รุกขภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 3 ที่อยู่เหนือหัว เราขึ้นไปเพียงศอกเดียว มีวิมานสถิต ณ ต้นไม้ทีมีความสูงเกินหัว เราขึ้นไป ส่วนมากมักจะเรียกว่า “รุกขเทวดา” มักให้คุณมากกว่าให้โทษ ยกเว้นหากไปทำลายหรือรบกวนวิมานของท่าน
4. ฉิมพลีภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 4 มีความสูงระดับยอดไม้หรือนกเหินขึ้นไปเป็นดินแดนของเทพที่มีปีกดังองค์พญาครุฑ พญานกทั้งหลายเป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์แต่มีฤทธิ์ องค์พญาครุฑเคยประลองกำลังกับพระนารายณ์ได้เสมอกันภพภูมินี้มักจะมีกามคุณ ขึ้นหน้า
5. คนธรรพ์ภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 5 มีความสูงระดับยอดเขาเตี้ยๆ เป็นดินแดนของผู้มีศีลแต่ยังหมกมุ่นอยู่ในโลกีย์วิสัยยังตัดไม่ได้ถึงความรัก ลุ่มหลง ชนิดมีภรรยาเป็น 10,000 องค์เชียวมักมีรูปร่างและน้ำเสียงเป็นที่ไพรเราะหนักหนา ไม่มีวิมานเพื่อสถิต เร่ร่อนไปทั่วมีความต้องการดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไปสูง
6. หิมพานต์ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 6 มีความสูงระดับเชิงเขาสูง เป็นดินแดนที่กั้นระหว่างเทวโลกกับมนุษย์โลกกับยมโลกในภูมินี้มักมีกินนร กินนรี เทวยานี เรียกว่าครึ่งคนครึ่งสัตว์ครึ่งเทพปนกันอยู่มักไม่ใคร่ได้พบเจอเท่าใดนัก บุคคลทั้งหลายเป็นผู้ที่รักสงบไม่ค่อยมีปัญหากับภูมินี้มากนัก
7. บรรพภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 7 มีความสูงระดับปากถ้ำต่างๆตามเขาสูง เป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุขมีแต่ผู้บำเพ็ญเพียร เพื่อหวังหลุดพ้นจากภูมิต่างๆเรียกว่า ฤาษีมักจะบำเพ็ญอยู่ในชั้นนี้ แต่เดิมอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ และอสูรก่อกวนจนต้องอพยพมาบำเพ็ญ ณ ที่บรรพภูมินี้
8. ลับแลภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 9 มีความสูงระดับยอดเขาสูงหรือลึกลงไปในถ้ำตามยอดเขาสูง เป็นดินแดนของหญิงสาวที่มีจิตใจมุ่งบำเพ็ญเพียรโดยการถือสัจจะเป็นหลัก แต่ยังมีห่วงที่ต้องคอยดูแลพ่อ แม่ ลูก หลาน จึงมาพักอยู่ในภูมินี้
9. อโยธยาภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 8 มีความสูงระดับหุบเขาสูงตามยอดเขาสูงซ้อนกัน เป็นดินแดนผู้มีคุณต่อแผ่นดินแต่ละประเทศ มีแต่การเสพสุขดุจพระราชาเพราะในชีวิตมีแต่การต่อสู้หรือทำเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนเช่นเจ้าพ่อหลักเมือง ทหารหาญ เป็นต้น
10. ภุมมา เป็นเทวะโลกชั้นที่ 10 และสถิตยอยู่บนฟากฟ้า เป็นที่สถิตของเทพบุตรเทพธิดาต่างๆ ที่ยังคงมีกิเลส
สรุป
16 ชั้นฟ้าในลัทธิเต๋า คือ พรหมโลก 16 ภูมิ - อสัญญีสัตตาชั้น(ภูมิ) + เทพชั้นปรมินที่เรียกว่า "กายิกาพรหม" = 16 ชั้นฟ้าในลัทธิเต๋า
15 ชั้นดินในลัทธิเต๋า = สวรรค์ 5 ชั้นแรกในพระไตรปิฎก + บาดาลภูมิ, ภูมมะภูมิ, รุกขภูมิ, ฉิมพลีภูมิ, บรรพภูมิ, ลับแลภูมิ, อโยธยาภูมิ, ภุมมาภูมิ รวม 10 ชั้น
- พรหมโลก15 ชั้น ยกเว้นอสัญญีสัตตาชั้น(ภูมิ) + สวรรค์ชั้นปรนิมมิตสวัตตี เทพชั้นปรมินเรียกว่า "กายิกาพรหม" เป็นพรหมที่มีกายแบบเทพ คือมี 4 กรแต่หน้าเดียว = 16 ชั้นฟ้าแรกในลัทธิเต๋า
- ส่วน สวรรค์ 6 ภพภูมิ หรือ 6 ชั้น ในพระไตรปิฎกนั้น 5 ชั้นแรก(จาตุ,ดาวดึงส์,ยามา,ดุสิต,นิมมา) + อีก 10 ชั้นในไตรภูมิ ที่จะกล่าวต่อไปนี้ =15 ชั้นดินในสัทธิเต๋า
1. บาดาล เป็นเทวะโลกชั้นที่ 1 ที่มีภพใกล้เคียงกับมนุษย์ เพราะสามารถสร้างบุญก็ได้ สร้างเวรกรรมก็ได้เพียงแต่บุคคลในภพนี้ล้วนมีความรัก และ อาฆาต พยาบาทที่รุนแรงจึงทำให้ผู้ที่อยู่ในโลกบาดาล เวลาอยู่ในบาดาลจะมีกายเป็นคนหากออกนอกเขตจะกลายเป็นงูทันที
2. ภูมมะ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 2 ที่อยู่ใกล้มนุษย์มากที่สุด เป็นดินแดนของเหล่าพระภูมิเจ้าที่ต่างๆ มีคุณและโทษแก่มนุษย์ผู้กราบไหว้บูชามีกิเลสคล้ายกับมนุษย์ที่สุด
3. รุกขภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 3 ที่อยู่เหนือหัว เราขึ้นไปเพียงศอกเดียว มีวิมานสถิต ณ ต้นไม้ทีมีความสูงเกินหัว เราขึ้นไป ส่วนมากมักจะเรียกว่า “รุกขเทวดา” มักให้คุณมากกว่าให้โทษ ยกเว้นหากไปทำลายหรือรบกวนวิมานของท่าน
4. ฉิมพลีภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 4 มีความสูงระดับยอดไม้หรือนกเหินขึ้นไปเป็นดินแดนของเทพที่มีปีกดังองค์พญาครุฑ พญานกทั้งหลายเป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์แต่มีฤทธิ์ องค์พญาครุฑเคยประลองกำลังกับพระนารายณ์ได้เสมอกันภพภูมินี้มักจะมีกามคุณ ขึ้นหน้า
5. คนธรรพ์ภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 5 มีความสูงระดับยอดเขาเตี้ยๆ เป็นดินแดนของผู้มีศีลแต่ยังหมกมุ่นอยู่ในโลกีย์วิสัยยังตัดไม่ได้ถึงความรัก ลุ่มหลง ชนิดมีภรรยาเป็น 10,000 องค์เชียวมักมีรูปร่างและน้ำเสียงเป็นที่ไพรเราะหนักหนา ไม่มีวิมานเพื่อสถิต เร่ร่อนไปทั่วมีความต้องการดั่งเช่นมนุษย์ทั่วไปสูง
6. หิมพานต์ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 6 มีความสูงระดับเชิงเขาสูง เป็นดินแดนที่กั้นระหว่างเทวโลกกับมนุษย์โลกกับยมโลกในภูมินี้มักมีกินนร กินนรี เทวยานี เรียกว่าครึ่งคนครึ่งสัตว์ครึ่งเทพปนกันอยู่มักไม่ใคร่ได้พบเจอเท่าใดนัก บุคคลทั้งหลายเป็นผู้ที่รักสงบไม่ค่อยมีปัญหากับภูมินี้มากนัก
7. บรรพภูมิเป็นเทวะโลกชั้นที่ 7 มีความสูงระดับปากถ้ำต่างๆตามเขาสูง เป็นดินแดนที่มีแต่ความสงบสุขมีแต่ผู้บำเพ็ญเพียร เพื่อหวังหลุดพ้นจากภูมิต่างๆเรียกว่า ฤาษีมักจะบำเพ็ญอยู่ในชั้นนี้ แต่เดิมอาศัยอยู่ในโลกมนุษย์ และอสูรก่อกวนจนต้องอพยพมาบำเพ็ญ ณ ที่บรรพภูมินี้
8. ลับแลภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 9 มีความสูงระดับยอดเขาสูงหรือลึกลงไปในถ้ำตามยอดเขาสูง เป็นดินแดนของหญิงสาวที่มีจิตใจมุ่งบำเพ็ญเพียรโดยการถือสัจจะเป็นหลัก แต่ยังมีห่วงที่ต้องคอยดูแลพ่อ แม่ ลูก หลาน จึงมาพักอยู่ในภูมินี้
9. อโยธยาภูมิ เป็นเทวะโลกชั้นที่ 8 มีความสูงระดับหุบเขาสูงตามยอดเขาสูงซ้อนกัน เป็นดินแดนผู้มีคุณต่อแผ่นดินแต่ละประเทศ มีแต่การเสพสุขดุจพระราชาเพราะในชีวิตมีแต่การต่อสู้หรือทำเพื่อบ้านเกิดเมืองนอนเช่นเจ้าพ่อหลักเมือง ทหารหาญ เป็นต้น
10. ภุมมา เป็นเทวะโลกชั้นที่ 10 และสถิตยอยู่บนฟากฟ้า เป็นที่สถิตของเทพบุตรเทพธิดาต่างๆ ที่ยังคงมีกิเลส
สรุป
16 ชั้นฟ้าในลัทธิเต๋า คือ พรหมโลก 16 ภูมิ - อสัญญีสัตตาชั้น(ภูมิ) + เทพชั้นปรมินที่เรียกว่า "กายิกาพรหม" = 16 ชั้นฟ้าในลัทธิเต๋า
15 ชั้นดินในลัทธิเต๋า = สวรรค์ 5 ชั้นแรกในพระไตรปิฎก + บาดาลภูมิ, ภูมมะภูมิ, รุกขภูมิ, ฉิมพลีภูมิ, บรรพภูมิ, ลับแลภูมิ, อโยธยาภูมิ, ภุมมาภูมิ รวม 10 ชั้น
ขอบคุณค่ะ แต่ละขั้นมีชื่อเรียกในภาษาจีนมั้ยคะ ?
ตอบลบ