A A

15 สิงหาคม 2558

ตอบคำถามเรื่องพระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์ หรือไม่ ‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏‏

ขอรบกวนถาม
หนังสือของท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าฉันเนื้อสัตว์ แต่หนังสือบางเล่มกล่าวว่า การถวายเนื้อสัตว์เซ่นไหว้ในเทศกาลต่างๆ พระเบื้องบนไม่อาจเสวยได้ เพราะท่านมีเมตตาต่อสัตว์
มีเหตุผลต่างกันอย่างไร
รบกวนด้วยค่ะ

ตอบ

ธรรมะมีหลายระดับ โคตมพระพุทธเจ้าของเรา จะสอนแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน

1.    ปุถุชน ชาวบ้านธรรมดา โคตมพระพุทธเจ้าสอนให้รักษาศีล 5 ทำบุญทำทานบ้าง ใครทำได้แค่นี้ก็ดีแล้ว

2.    ระดับเณรและพระสงฆ์ของเถรวาท  โคตมพระพุทธเจ้าสอนสูงขึ้น ให้ทำสมาธิ และเจริญวิปัสสนา ในแนวทางของใบไม้ในกำมือ

3.    ระดับเณรและพระสงฆ์ของมหายาน  ถ้าโคตมพระพุทธเจ้าสอนในแนวทางของใบไม้ในกำมือ ใครจะไปเรียน  เพราะผู้คนเหล่านี้เชื่อและศรัทธาในพระเจ้า ที่ เรียกว่า ตรีมูรติ(พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์)ว่าเป็นผู้สร้างและดลบันดาลให้เกิดทุกสิ่งทกอย่าง  ถ้าโคตมพระพุทธเจ้าตอบความจริงสูงสุดในเรื่องใบไม้นอกกำมือไม่ได้  พวกที่อยากรู้อยากเห็นมากในเรื่องเหล่านี้ ก็ไม่เชื่อและไม่ศรัทธาในพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าจึงต้องสอนมากกว่าในพระไตรปิฎกของเถรวาท

4.    ที่สำคัญ  กายเนื้อหรือขันธ์ 5 ของโคตมพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ม่องเท่ง แต่กายแท้จริง  ที่เป็นกายธรรม(ธรรมกาย) และกายทิพย์อมตะ(สัมโภคกาย)ไม่ได้ม่องเท่งไปแต่อย่างใด  เพราะธรรมกายและสัมโภคกาย เป็นอสังขตธาตุ หรือนิพพานธาตุ  ที่ไม่มีการเกิด ไม่มีการแก่ ไม่มีการเจ็บ ไม่มีการตาย  ธรรมกายและสัมโภคกายของพระพุทธเจ้าจึงต้องไปสอนพระของเถรวาท และพระของมหายานที่บรรลุธรรมเป็นพระอริยะสงฆ์ต่อ  นี่เป็นเหตุผลที่โคตมพระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ใครสืบทอดตำแหน่งของพระองค์ต่อ  เพราะไม่มีผู้ใดเข้าถึงความเป็นตถาคตสัมมาสัมพุทธเจ้า  จึงไม่มีบุญบารมีจะสอนธรรมระดับนิพพานได้

ผู้ใดเห็นธรรม  ผู้นั้นเห็นเราตถาคต  ก็คือ เห็นธรรมกายและกายทิพย์สัมโภคกาย นั่นเอง  เพราะกายแท้ของพวกพระเจ้าหรือพระพุทธเจ้า  ไม่เคยเกิดแก่เจ็บตาย  ไปไหนมาไหนก็ได้เร็วเท่าใจนึก

ฯลฯ

เรื่องที่คุณศุภรรัตน์ถามมา โคตมพระพุทธเจ้าของเราที่เป็นกายเนื้อมนุษย์  ท่านสวาปามทุกอย่างแหละครับ  ตามที่ผู้คนนำมาให้ฉัน  ถ้าชาวบ้านเอาแมงดา แมงปอ เอาหนูนา ฯลฯ ที่ทอดแล้วมาถวาย  พระพุทธเจ้าก็ต้องยัดเข้าไปในกระเพาะเพื่อให้ชาวบ้านได้บุญ อย่างไรก็ตามโคตมพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ เช่น เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ  ที่อยู่ในเมืองนิพพาน  กายของพวกท่านไม่ได้มีลำไส้ ไม่ได้มีกระเพาะ ไม่มีเครื่องใน ไว้ย่อยอาหาร  พวกท่านจะกินหรือไม่กินก็ได้  ถ้าท่านจะกิน  ก็เพื่อให้ผู้คนที่เอาเนื้อมาถวายพระเจ้าได้บุญเท่านั้น  แต่พลังทิพย์ของกายเนื้อสัตว์เหล่านั้น  พวกพระเจ้านำไปให้เปรต สัมภเวสี ยักษ์ ฯลฯ บริโภค

อย่างในอิหร่าน  มีพิธีนำเนื้อแพะหรือเนื้อแกะมาบวงสรวงอัลเลาะห์ (พระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง) อัลเลาะห์ก็เนรมิตเนื้อเหล่านั้นให้เพิ่มจำนวนขึ้นมากมาย แล้วให้วิญญาณในภูมิต่ำๆบริโภคกัน  

ส่วนเทพเจ้าที่มีจุดประสงค์อย่างอื่น  เช่น  ให้ชาวบ้านงดการฆ่าสัตว์ใหญ่ คือ วัว  เนื่องจากวัวแท้จริงก็คือมนุษย์  ในขณะที่สัตว์เล็กอื่นๆ  เช่น ปลา 100 ตัวจึงจะประกอบเป็นพลังงานมนุษย์ได้ 1 คน  เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ และพระเจ้าอื่นๆ  จึงห้ามถวายเนื้อสัตว์เซ่นไหว้ในเทศกาลต่างๆ  โดยอ้างว่า พระเบื้องบนไม่อาจเสวยได้ เพราะท่านมีเมตตาต่อสัตว์ เป็นต้น  

เจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเนศ และพระอมิตาภะพุทธเจ้า  พวกท่านยังพยายามเอาความร่ำรวยมหาศาลมาล่อผมไม่ให้บริโภคเนื้อวัวเลย  เจ้าแม่กวนอิมมาเล่าเรื่อง  พระศรีอริยะเมตตรัยโย  ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก ที่ให้มีการกินเจ  งดรับประทานเนื้อวัว  แล้วบอกว่า  ผมเป็นจิตหนึ่งของพระศรีอริยะเมตตรัยโยพุทธเจ้า จึงน่าจะงดการกินเนื้อวัว  แต่ผมไม่สน  ผมจะสวาปามอะไรก็ได้  เพราะใจผมไม่คิดปรุงแต่งแล้ว  

ต่อมาผมทะลึ่งไปถามพระอมิตาภะพุทธเจ้าว่า  เทพเจ้าองค์ไหนให้พรให้ร่ำรวยมหาศาลง่ายที่สุด เพราะผมเบื่อเหลือเกินที่ต้องทำมหาทานบารมี  เพื่อจะเป็นพระพุทธเจ้า  ผมบอกว่า  ผมไม่เป็นมันแล้ว ขอถอนตัวแบบเดียวกับหลวงปู่มั่นถอนตัวจากความเป็นพระโพธิสัตว์  แต่พระอมิตาก็ไม่ให้ถอนตัว  อ้างว่าพุทธพยากรณ์ของโคตมพระพุทธเจ้าเรื่องนิตยะโพธิสัตว์  ผิดไม่ได้ เป็นอนาคตที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน      

พระพิฆเนศเล่นเอาคาถาเรียกท่านมาให้พรผมกับผมเลย  แต่มีข้อบังคับว่า  ผมต้องเลิกกินเนื้อวัวตลอดชีวิต ผมเลยไม่สนใจคาถาเรียกพระพิฆเนศ  ครั้งแรกผมกะว่าจะเรียกท่านมาเจรจาต่อรองสักหน่อย  ของดกินเนื้อวัวปีหนึ่งได้ไหม  ตลอดชีวิตมันมากไป แต่เนื่องจากผมบรรลุธรรมแล้ว  ไม่สนใจความร่ำรวยอะไร  และไม่ต้องการไปแหย่และไปกวนตีนพระพิฆเนศ เดี๋ยวท่านเอางวงช้างฟาดเอา  ตอนหลังผมเลยไม่รู้ว่า ทิ้งคาถาเรียกพระพิฆเนศไปไหนแล้ว

สรุป

พระเจ้า และ พระพุทธเจ้า พวกท่านจะสวาปามอะไรก็ได้ทั้งนั้น  หรือจะไม่สวาปามเนื้อวัว  หรือ บอกธรรมะอะไรก็ได้  ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ว่า  เทพเจ้าองค์นั้นจะสอนอะไร  และเราเข้าถึงธรรมะระดับไหนแล้ว  สำหรับผม  ผมไม่ฟังพวกเทพเจ้าหรอก ผมฟังแต่อัลเลาะห์ หรือ อาทิพุทธเจ้าฝ่ายดำ หรือ ฝ่ายยุติธรรม  เพราะท่านเล่นโหด และเล่นจริง มาห้ามผมผิดกฎสวรรค์ข้อนั้นข้อนี้  ผมเลยผิดมันทุกข้อไปเลย  เพราะเชื่อว่าผมทำแต่ความดีและมหาทาน  ขนาดเจ้าแม่กวนอิมและพระเยซู  ยังออกปากชมว่า  ผมเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตากรุณาองค์หนึ่งแล้ว  ทำทานบารมีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพวกท่านและพระเวสสันดร  

ผมเลยคิดว่า ผมจะละเมิดกฎสวรรค์ซะอย่าง  อัลเลาะห์ หรือ อาทิพุทธเจ้าฝ่ายดำ  จะทำอะไรผมได้  ลงโทษให้ผมหมดตัวล้มละลายมากครั้งแล้ว  ผมก็ไม่กลัว  เพราะท่านละเมิดกฎแห่งกรรมไม่ได้  ยังไงท่านต้องคืนเงินและทรัพย์สมบัติกับผมในวันใดวันหนึ่งอยู่ดี  อาทิพุทธเจ้าฝ่ายดำ ท่านรู้แกว เลยให้ พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า(พระไวโรจนะพุทธเจ้า) ซึ่งเป็นอาทิพุทธเจ้าฝ่ายขาว หรือ ฝ่ายเมตตากรุณา  มาบอกผมว่า  กฎสวรรค์ อยู่เหนือ กฎแห่งกรรม  แล้วผมเป็นเทพเจ้ากึ่งมนุษย์แล้ว  ต้องทำตามกฎสวรรค์  ถ้าทำผิดกฎสวรรค์อีก  จะให้ยากจนยาวนานกว่านี้  ผมเลยต้องยอมแพ้ชั่วคราวไปก่อน

เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม  เมื่อ อาทิพุทธเจ้าฝ่ายดำ หรือ อาทิพุทธเจ้าฝ่ายขาว มาให้พรผมเมื่อไร   ผมจะขอพรที่ไม่ต้องทำตามกฎสวรรค์  หรือกฎสวรรค์ลงโทษไม่ได้  หรือไม่ก็ขอพรที่กำราบพวกท่านเลย  พวกท่านจะได้รู้ว่า  ผม...พระรามพุทธเจ้าในอนาคต  แสบกว่าที่พวกพระพุทธเจ้าคาดคิดไว้มากนัก

0 comments:

แสดงความคิดเห็น