คำทำนายอนาคตของประเทศไทยของเจ้าแม่กวนอิมประทานพร

เนื่องจากเจ้าแม่กวนอิมประทานพร ได้ทำนายอนาคตของประเทศไทย แล้วบอกต่อหลวงพ่อฤๅษีลิงดำในกลอนนารีขี่ม้าขาว ซึ่งคนทั่วไปตีความไม่ค่อยได้ ต่อมาเจ้าแม่กวนอิมประทานพรได้พยากรณ์เพิ่มให้ผมฟังว่า นารีขี่ม้าขาว คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เบอร์ 1 จะเป็นนายกอีกสมัยหนึ่ง ถ้าแก้ปัญหาน้ำท่วมได้อีกปี คือ ในปี 2556

คราวนี้ ผมจะ วิเคราะห์เจาะลึกกลอนนารีขี่ม้าขาวอย่างละเอียด ให้ฟัง

ท่อนแรกของกลอนนารีขี่ม้าขาว

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

ท่อนแรกนี้เป็นเรื่องสงครามระหว่างประชาชนที่ฝักฝ่ายเสื้อแดง vs ประชาชนที่ฝักฝ่ายเสื้อเหลือง เสื้อน้ำเงิน และเสื้อสีอื่น รวมทั้งเสื้อทหารด้วย ประชาชนฝ่ายเสื้อแดงต้องบาดเจ็บล้มตายเป็นร้อยเป็นพันคน จากมือของทหารที่เป็นข้าของประชาชน  (ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช) 

ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น ก็คือทักษิณ สมัคร สมชาย และบ้านเลขที่ 111 (กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย จำนวน 111 คน ที่ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี)

ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม = ประชาชนเสื้อแดงต้องระทม

คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง = แกนนำเสื้อแดง ณัฐวุฒิ จตุพร หมอเหวง ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้รักประชาธิปไตยต้องเข้าซังเต ส่วนคนชั่ว ผู้สั่งยิงประชาชน คือ ไอ้มาร์ค ไอ้สุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ หัวร่อร่าทำท่าดังมาหลายปี นึกว่าชนะเลือกตั้งแหงๆ นอนมาแล้ว ชะล่าใจไม่นึกว่า กลอนนารีขี่ม้าขาวจะเป็นจริงไปได้

ท่อนสองของกลอนนารีขี่ม้าขาว

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

ผู้จับได้เบอร์ 1 คือ น้องปู ซึ่งเป็นผู้หญิง(นารีขี่ม้าขาว) ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง หวังว่าจะพัฒนาการเมืองไทยให้ดีขึ้น สร้างความถูกต้องยุติธรรมให้บ้านเมือง เจ้าแม่กวนอิมประทานพรบอกให้รู้ล่วงหน้าเป็นนัยๆว่า จะเกิดน้ำท่วมและภัยพิบัติทางน้ำ เมื่อน้องปูได้ครองอำนาจทางการเมือง ทุกอย่างไม่ใช่ได้มาฟรีๆ เมื่อน้องปูจะแก้วิบากกรรมให้คนในชาติ พวกเขาเหล่านั้นก็ต้องรับวิบากกรรมเบาๆด้วย

ท่อนที่สามของกลอนนารีขี่ม้าขาว เป็นเรื่องของอนาคตทางการเมืองของไทยล้วนๆเลย

" ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ "

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา = ยุคนี้เป็นยุคแห่งมหาชนพาไป ไม่ใช่ยุคเก่า ที่ผู้มีบารมีในระบบ เช่น ทักษิณ+แกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งผู้มีบารมีนอกระบบ เช่น เปรม และท่านแม่ รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ จะจูงจมูกให้ประชาชนเดินไปทางไหนได้อย่างง่ายๆอีกแล้ว

การเมืองในเมืองไทยที่ยุ่งกันอยู่นี่ เพราะทักษิณ อยากกลับประเทศให้ได้อย่างเดียว ไปคิดว่าถ้าจับมือกับกลุ่มเปรม+กลุ่มท่านแม่+เชื้อพระวงศ์ ที่ล้วนเป็น กลุ่มอำนาจเก่าที่เคยเป็นศัตรูกันทางการเมือง แล้วทักษิณจะได้อำนาจคืนมา ชี้เป็นชี้ตายได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คิดถูก เรื่องคงจบกันง่ายๆ แต่ในยุคนี้ประชาชน แม้จะแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายก็จริง แต่ทุกคนก็มีหัวคิดทั้งนั้น ไม่ใช่ควายให้จูงจมูกได้เหมือนเมื่อก่อน

ยุคเก่าของกลุ่มทักษิณ รวมทั้งยุคเก่าของกลุ่มอำนาจนอกระบบ จึงถือว่าต้องหมดไปจากสังคม แล้วอำนาจจะตกกลับไปอยู่ในมือของพรรคประชาธิปัตย์ไหม? ลองอ่านท่อนสุดท้ายของนารีขี่ม้าขาวดู

" คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น  แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ "

คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น คนชั่วคือคนที่สั่งทหารฆ่าประชาชน = อภิสิทธิ์ และสุเทพ รวมทั้งพลพรรคประชาธิปัตย์ที่ชื่นชม หัวร่อร่าทำท่าดังมาหลายปี ระเริงใจกับการเข่นฆ่าประชาชน โกหกหลอกตัวเองว่า กฎแห่งกรรมไม่มีจริง เมื่อกฎแห่งกรรมสำแดงผลงานแล้ว ตอนนั้นก็สายไปแล้ว

แผ่นดินเมืองไทยที่เคยเดือด จะกลับมาสงบอีกครั้งหนึ่ง 

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา = ศรัทธาในน้องปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ ท่อนนี้จะลงท้ายด้วยคำว่า ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เสมอ