ถามPhonsak เรื่องเจ้ากรรมนายเวร

Phudit เขียนว่า:

ถาม phonsak
ถาม เรื่องเจ้ากรรมนายเวร

กรณีที่มี นาย A เขียนธรรมนอกกำมือฯ แต่มีนาย B กล่าวหาว่า เป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องขำขัน
นาย a จะเป็นเจ้ากรรมนายเวรของนาย B หรือไม่ เอาแบบว่า นาย A ไม่ได้รู้เรื่อง (แบบใสๆ) และไม่ได้ไปอ่านเรื่องดูถูกธรรมของนาย B ด้วย)

นาย B จะเป็นอย่างไร หากไม่มี
นาย B จะเป็นอย่างไร หากมี

จำแนกสภาวะของนาย A ด้วย ตั้งแต่เป็นคนธรรมดา สภาวะแตกต่างกัน ไปจนถึงระดับไม่ธรรมดา และ ย้อนกลับมาที่หากนาย A ไม่ใช่ธรรมดา แบบ ต่ำทราม การดูถูก ดูแคลน ของ นาย B จะมีผลเป็น จักใด อิอิ

ตอบ

โคตมะพระพุทธเจ้าของเรา เคยไม่เชื่อพระกัสสปะพุทธเจ้า แม้พระกัสสปะพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว แต่ท่านก็เป็นเจ้ากรรมนายเวรของพระโคตมะพุทธเจ้าอยู่ พลังงานกรรมที่เรียกว่า เจ้ากรรมนายเวร ไม่ได้หายไปเลย
ฟังคำสารภาพความจริงจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าของเรานะครับ" ในกาลนั้น เราได้เป็นพราหมณ์ชื่อ โชติปาละ ได้กล่าวกะพระสุคตเจ้าพระนามว่ากัสสปะในกาลนั้นว่า จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราได้ประพฤติกรรมที่ทำได้ยากมาก(ทุกกรกิริยา) ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมตลอด ๖ ปี แต่นั้น จึงได้บรรลุโพธิญาณ แต่เราก็มิได้บรรลุโพธิญาณอันสูงสุดด้วยหนทางนี้ เราอันบุรพกรรมตักเตือนแล้ว จึงแสวงหาโพธิญาณโดยทางที่ผิด ” 

วิบากกรรมที่โต้เถียง และแสดงความเห็นที่ขัดแย้งกับพระกัสสปพุทธเจ้า ผมคิดว่า มันไม่ใช่กรรมที่หนักหนาอะไร เมื่อมีทัศนะคติขัดแย้งกับผู้มีสัมมาทิฎฐิอย่างพระกัสสปพุทธเจ้า แค่ไม่เชื่อและพูดว่า "จักมีโพธิมณฑลแต่ที่ไหน โพธิญาณท่านได้ยากอย่างยิ่ง" ไม่น่าจะถึงกับต้องรับกรรมถึง 6 ปี

แต่อย่าลืมว่า กรรมที่ทำกับสัตว์เดรัจฉาน กับคนชั่ว หรือคนดี มีผลน้อยกว่าพระอรหันต์ แต่กรรมที่ทำกับพระพุทธเจ้า ผู้เป็นสัพพัญญู มันมีผลหนักกว่าพระอรหันต์ไม่รู้กี่หมื่นก็แสนเท่า เทวทัตทำให้พระพุทธเจ้าห้อเลือด จึงมีกรรมหนักถึงขั้นอนันตริยะกรรม 

คุณต้องไปหาอ่านเอาเองว่า ทำกรรมกับใครจะได้ผลหนักเบาแค่ไหน

แต่เรื่องนี้พอมีทางแก้ได้ อย่างสมัยก่อนมีพวกที่ไปดูถูกวิชาธรรมกาย และดูถูกพวกฝึกวิชาธรรมกาย พอเขาตายไป ก็ไปเกิดเป็นเปรต หลวงพ่อสดจึงให้พวกฝึกธรรมกายอโหสิกรรม และแผ่เมตตาให้วิญญาณเหล่านี้ไป พวกเขาจึงหลุดกรรมนี้ไปได้

สำหรับผม เมื่อผมกลับไปเป็นพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ในสวรรค์ชั้นดุสิตแล้ว ผมจะอโหสิกรรม และแผ่เมตตาให้พวกที่กล่าวหาว่า สิ่งที่ผมเขียนเป็นเรื่องตลก เป็นเรื่องขำขันอีกที