อย่าเอาคำสอนเรื่องปรินิพพาน(นิพพานแท้) มาปนกับคำสอนเรื่องนิพพานที่มีอายตนะนิพพาน + พอนิพพานไป ไม่มีอะไรทำ อยู่นิ่งๆไปตลอดกาลหรือ?

อย่าเอาคำสอนเรื่องปรินิพพาน(นิพพานแท้) มาปนกับคำสอนเรื่องนิพพานที่มีอายตนะนิพพาน

ลักษณะของนิพพาน คือ สงบ
รสของพระนิพพาน คือ ไม่เคลื่อน
เครื่องปรากฏของนิพพาน คือ ไม่มีนิมิต
พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ความสุขอื่น นอกจากพระนิพพานไม่มี
พระนิพพานไม่ยุ่ง อย่างคุณคิดหรอก พลศักดิ์

shart.com โพสต์

ตอบ

สิ่งที่คุณกำลังพูดถึงคือนิพพานแท้หรือปรินิพพานจ่ะ ผมว่าผมเขียนอธิบายไว้ชัดแล้วนะว่า นิพพานซึ่งมี 3 อย่าง

1. ปรินิพพาน เป็นจิตว่างเฉยๆ แต่ปรินิพพาน(จิตว่างเฉยๆ)ก็ยังต้องระบุว่านี่เป็นปรินิพพาน(จิตว่างเฉยๆ)ของพระอานนท์ นี่เป็นปรินิพพาน(จิตว่างเฉยๆ)ของพระพุทธเจ้า นี่เป็นปรินิพพาน(จิตว่างเฉยๆ)ของหลวงตามหาบัว
2. นิพพานธรรมกาย เป็นจิตว่าง ที่อยู่ในรูปหรือกายธรรมอมตะ ธรรมกายจึงเป็นอัตตา(อัตตา=อมตะไม่มีทุกข์)
3. นิพพานสัมโภคกาย เป็นจิตว่าง ที่อยู่ในรูปหรือกายทิพย์อมตะ ที่ศาสนาอื่นเรียกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ สัมโภคกายก็เป็นอัตตา(อัตตา=อมตะไม่มีทุกข์)เช่นเดียวกัน

ตกลงคุณอ่านภาษาไทยไม่ออกใช่ไหม พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานมีอายตนะด้วย พระอวโลกิเตศวรบอกกับพระสารีบุตรว่า อายตนะนิพพานคือธรรมกาย

กองทัพมารเขาแพ้ไปแล้วนะ ผมเจาะทะลุปรุโปร่ง คุณควรจำคำสอนของผมไว้เผยแพร่ให้กับพุทธศาสนิกชนท่านอื่น เพราะคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องนิพพานมีมากที่ ถ้าไปยึดคำสอนใดคำสอนหนึ่งไว้ จะไม่เข้าใจธรรมะแท้จริง ตกเป็นฝ่ายมาร ที่เอาคำสอนเรื่องนิพพานแท้ (ปรินิพพาน)มาแย้งคำสอนเรื่องอายตนะนิพพาน

พอนิพพานไป ไม่มีอะไรทำ อยู่นิ่งๆไปตลอดกาลหรือ?

ชีวิตเกิดมา ดิ้นรนในสังสารวัฎ
พอนิพพานไป ไม่มีอะไรทำ อยู่นิ่งๆไปตลอดกาล
น่ายินดี หรือน่าเศร้าดี ๕๕๕

tsukino โพสต์

ตอบ

นั่นไมใช่นิพพานจ่ะ นั้นเป็นก้อนหินที่ไม่มีชีวิตจิตใจ

นิพพานนั้น คือ จิตว่างสงบ ไม่เอาเรื่องราวภายนอกมาคิดนึกปรุงแต่ง เพราะการนำเอาเรื่องราวภายนอกมาคิดนึกปรุงแต่ง มันทำให้กฎแห่งกรรมทำงาน ท่านเป็นผู้คุมกฎแห่งกรรม พวกท่านที่เข้านิพพาน จึงไม่นำเอาเรื่องราวภายนอกมาคิดนึกปรุงแต่ง คุณอย่าไปคิดว่า ทุกอย่างมันทำไปโดยอัตโนมัติซิ มีบางอย่างที่คุณมองไม่เห็นควบคุมมันอยู่

นิพพานที่มีอายตนะธรรมกาย ได้เนรมิตสัมโภคกายขึ้นมา ก็เพื่อจะให้สัมโภคกาย(พระโพธิสัตว์)บริหารงานในสังสารวัฏ กฎแห่งกรรมมันจะได้ทำงาน กฎแห่งกรรมทำงานได้ ก็เพราะมีพวกเทพเจ้านับจำนวนนับไม่ถ้วน นำกรรมของแต่ละจิตสังขาร ให้ไปรับเรื่องราวที่เหมาะสมกับวิบากกรรมของมนุษย์แต่ละคน

คือ พวกเราแต่ละคนมีเหล่าเทพเจ้าชักใยอยู่เบื้องหลังเรา ตามจิตและกรรมที่พวกเราทำ

พวกอรหันต์ที่อยู่ในนิพพาน พวกท่านยุ่งยิ่งกว่ามนุษย์เสียอีก จึงต้องแบ่งกายเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนกายไปทำงาน เช่น พระโคตมะพุทธเจ้าของเราก็แบ่งกายเป็นแสนๆกายไปอยู่ตามวัดต่างๆ ไปอยู่ในสวรรค์และนรก และที่ต่างๆ

วันหนึ่ง ผมสงสัยว่า พระเวสสันดรไม่น่าจะใช่มนุษย์ในโลกใบนี้ ในมิตินี้ เลยทำสมาธิสอบถามเจ้าแม่กวนอิมประทานพร เจ้าแม่ตอบว่า พระเวสสันดรเป็นมนุษย์อยู่ในมิติอื่นที่ซ้อนกับโลกใบนี้ ผมพอมีมารยาทอยู่บ้าง จึงถามท่านว่า วันนี้งานช่วยคนในโลกใบนี้ของท่านยุ่งไหม ท่านต้องช่วยผู้คนวันนี้กี่คน

เจ้าแม่กวนอิมประทานพรตอบว่า 200,000 คน ผมล่ะงงเลย... ถ้าไม่แบ่งกายเป็นหมื่นองค์คงช่วยไม่ได้หมด ผมเลยบอกท่านว่า งั้นผมไม่รบกวนท่านแล้ว