นิพพานเป็นอัตตา....หลวงปู่เปรม (เปมงฺกโร ภิกขุ)+ นิพพานเป็นแดนที่จิตมีอิสระสมบูรณ์จากกรรม ไม่ใช่แดนกักขังตัวเอง

นิพพานเป็นอัตตา....หลวงปู่เปรม (เปมงฺกโร ภิกขุ)

พอผมเอาเรื่องนิพพานเป็นอัตตา  แสดงหลักฐานทั้งคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้า พระสังฆราช หลวงตามหาบัว  ก็ลบกระทู้ผมทิ้งไปหมด  แล้วแบนผมด้วย  เว็บ yantip นี่เป็นเว็บพุทธศาสนาหรือเว็บมารศาสนากันแน่

คราวนี้เอาคำสอนของเปมงฺกโร ภิกฺขุ มาลงบ้าง  จะโดนลบกระทู้แล้วแบนอีกหรือเปล่า  เดี๋ยวก็สาปให้เว็บนี้ฉิบห..เหมือนเว็บพลังจิตอีกรายหรอก

ถ้าไม่อยากให้ผมเอาหลักฐานว่า  นิพพานเป็นอัตตามาลงอีก  ก็อย่าให้พวกลูกสมุนเอาความเห็นโง่ๆ ที่ไม่มีหลักเกณฑ์ มากล่าวเท็จว่า นิพพาน เป็น นิจจัง สุขัง อนัตตา อีก  

มาทั้งคณะสงฆ์ฝ่ายปริยัติ เอาพระธรรมปิฎก แล้วเอาผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหมดมา  ก็ยังแย้งผมไม่ได้เลยว่า นิพพานไม่ได้เป็นอัตตาได้อย่างไร เพราะนิพพานมันเป็นอัตตาอยู่แล้ว

อ้างถึง

นิพพาน เป็น นิจจัง สุขัง อนัตตาครับ เรื่องที่คุณพลศั ...

tsukino โพสต์

นิพพาน เป็น นิจจัง สุขัง อนัตตา  อนัตตาพ่อมึ..น่ะซิ   อนัตตา คือ ยังหนีกฎไตรลักษณ์ไม่พ้น  เมื่อเป็นอนัตตาก็ยังไม่เที่ยง(เป็นอนิจจัง) มีทุกข์อยู่  แล้วจะเข้านิพพานไปหาห่าอะไรกันวะ

นิพพานเป็นนิจจัง สุขขัง อัตตา  อัตตา = ถาวร เป็นอมตะ หรือเที่ยง  พ้นจากไตรลักษณ์  พอพ้นจากไตรลักษณ์  จิต+กายมันก็เที่ยง ไม่มีทุกข์
   
อ้างอิง จากหนังสือชุมนุมบทความของหลวงปู่เปรม (เปมงฺกโร ภิกขุ) วัดบรมนิวาส กรุงเทพมหานคร

------- เปมงฺกโร ภิกฺขุ--------

จิตบริสุทธิ์พ้นจากอำนาจวัฏฏะ ๓ คือ กิเลส กรรม วิบาก เป็นตัวธรรม เป็นสัจจะธรรม คือ นิโรธสัจจ์ คู่กับ ทุกขสัจจ์นั้น และเป็นอัตตาตัวตน ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า

อตฺตทีปา วิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา
ธมฺมทีปา วิหรถ ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา แปลว่า
ท่านทั้งหลาย จงมีตนเป็นที่เกาะกุม มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ดังนี้

ตน คือ ธรรม / ธรรม ก็คือ ตน
ธรรม คือ จิตที่บริสุทธิ์ เป็นวิมุตติจิต เป็นอมตธรรม ธรรมที่ไม่ตาย หรือนิพพาน ก็ได้.

ถาม-ตอบ

มันก็ยังเงงๆ  ... กันอยู่

ลำดวน1975 โพสต์

ตอบ

ไม่ต้องงง ไม่ต้องเงงหรอกครับ

ตัวคุณบนโลกมนุษย์เป็นของปลอมที่กฎแห่งกรรมมันสร้างขึ้นมาให้รับกรรม มันจึงต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย  ปรารถนาอะไรก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง  เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ  ข้ามภพข้ามชาติไปไม่มีวันสิ้นสุด

ตัวคุณของจริงมันอยู่ในเมืองนิพพาน ที่นั่นกฎแห่งกรรมทำอะไรคุณไม่ได้แล้ว  คุณจึงไม่ต้องเกิด ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตายอีก  ปรารถนาอะไรก็ได้ทั้งนั้น

นิพพานเป็นแดนที่จิตมีอิสระสมบูรณ์จากกรรม ไม่ใช่แดนกักขังตัวเอง

Phuditเขียน:

นิพพาน เรายังไม่อยากจะไปเลย มันเป็น แดนกักขังตัวเอง เพื่อ หลีกหนี กรรม (คลื่น .....)
ให้  phonsak แสนฉลาด มาเล่าจิ นิพพาน มีใครเขา อยากไป กัน

ตอบ

นิพพานมี 3 อย่าง

1. นิพพานที่เป็นเมือง มีกายทิพย์อมตะของจิตมหาบริสุทธิ์ของเราที่เรียกว่า "กายทิพย์สัมโภคกาย หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์"  อยู่ในเมืองนิพพาน(พุทธเกษตร)

ผมไม่เคยบอกว่า นิพพานชนิดนี้เป็นแดนกักขังตัวเอง เพื่อ หลีกหนี กรรม (คลื่น .....) นะครับ เพียงแต่กรรมมันเข้าไปไม่ได้เท่านั้น  เพราะกรรมมันอยู่ในโลกที่มีการเวียนว่ายตายเกิด มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย แล้วไม่ได้สิ่งใดที่ปรารถนา เท่านั้น 

แต่เมืองนิพพาน กาย+จิตที่อยู่ที่นั่น ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บ ไม่มีตาย  และปรารถนาสิ่งใดก็ได้ตามนั้น   การหนีกรรมเป็นอย่างนี้  จะเรียกว่า กรรมไม่สามารถมาถึงกายและจิตมหาบริสุทธิ์ก็ได้  ความทุกข์ที่เข้ามาจะต้องเข้ามาทางกายและทางจิต  เมื่อกายและจิตไม่ถูกบีบคั้นการภาวะใดๆแล้ว  ก็เรียกว่า ไม่มีกรรมหรือหนีกรรม

2. นิพพานที่เป็นธรรมกาย นั่งสมาธิสงบอยู่แต่ในนิโรธในพุทธภูมิ  สุขใดๆจะหาเท่าความสงบนั้นไม่มี ดังนั้นเมื่อจิตและกายอยู่ในความสงบสุขตลอดเวลา  มันก็เรียกว่า หลีกหนี กรรม  ไม่ใช่หรือครับ

3. นิพพานที่มีแต่จิตที่ว่างอย่างเดียว  ไม่ต้องใช้กายแล้ว  ไม่ต้องมีเจตสิก ไม่ต้องมีความจำอีก เวทนาก็เลยไม่มี   สิ่งนี้คือ ปรินิพพาน หรือนิพพานแท้  นิพพานแท้จะเรียกว่า หลีกหนี กรรม ก็ได้ใช่ไหมครับ  เพราะความทุกข์ไม่สามารถเข้ามาในจิตว่างได้อีกตลอดกาล

สรุป

คุณPhuditเข้าใจผิดว่า นิพพานเป็นแดนกักขังตนเองได้อย่างไรนี่ นิพพาน 

นิพพานเป็นแดน ที่จิตมีอิสรภาพเสรีเต็มที่เลยนะครับ  ส่วน 31 ภพภูมิในสังสารวัฏเป็นแดนที่จิตขาดอิสรภาพ  เพราะจิตโดนกรรมที่ตนเองก่อไว้ บีบคั้นให้ต้องรับผลกรรมทั้งดีและชั่วตามกฎแห่งกรรม  คุณphuditกำลังตีความว่า  คุกที่คุณกำลังอยู่ในโลกนี้  และคุกอันใหม่ในสวรรค์นรก จากกรรมดีการชั่วของคุณ คือ แดนอิสรภาพ  ส่วนนิพพานซึ่งเป็นการพ้นคุก กลายเป็นแดนกักขังไป ความคิดของคุณ เล่นเอาผมงงเลย