เหตุที่พระเยซูเป็นพระเจ้าที่เป็นพระบุตร ยังเป็นพระบิดาไม่ได้

ชาวคริสต์รู้ว่า พระเยซูเป็นพระเจ้าที่เป็นพระบุตร และ พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด รวมทั้งเป็นพระผู้ไถ่บาปด้วย การที่ท่านอยู่ในตำแหน่งพระบุตรและพระผู้ช่วยให้รอด และผู้ไถ่บาปได้ = พระเยซูเป็นพระเป็นอรหันต์ และเป็นพระโพธิสัตว์

หลักฐานที่ชี้ว่า พระเยซู เป็นพระอรหันต์ เพราะในหลักของศาสนาคริสต์เอง พระเจ้าที่เป็นพระบุตร จะไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า กายเนื้อมนุษย์ของพระเยซูไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายนะครับ แต่หมายถึงกายแท้ คือ ธรรมกาย และกายทิพย์สัมโภคกายของพระเยซูต่างหากล่ะที่ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย

พระพุทธเจ้าของเราตรัสว่า “....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ ความกำจัดโทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ...." และ "....ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่าอมตภาพ...."

ด้วยเหตุนี้เอง กายแท้ของพระเยซู ก็คือ นิพพานธาตุ ที่เป็นอมตภาพ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย

หลักฐานที่ชี้ว่า พระเยซู เป็นพระโพธิสัตว์ ก็หลักฐานทางประวัติศาสตร์ และในคัมภีร์ไบเบิลยังไงล่ะ จะเห็นว่าจิตใจของพระเยซู ท่านมีแต่ให้ ให้อภัย และเสียสละอย่างเดียว เรียกว่า เมตตากรุณาในใจของพระเยซูนั้นเต็มเปี่ยมจริงๆ นี่คือ คุณสมบัติสำคัญที่สุดของความเป็นพระโพธิสัตว์

การที่พระเยซูเป็นพระเจ้าที่เป็นพระบุตร ยังเป็นพระเจ้าที่เป็นพระบิดาไม่ได้

เป็นเพราะผู้ที่จะเป็นพระบิดาได้ จะต้องมีบารมี 10 ครบ เรียกว่าบารมี 30 ทัศก่อน แล้วพระพุทธเจ้าในโลกธาตุหนึ่ง มีได้แค่เพียงผู้เดียวเท่านั้น 

ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ พหุธาตุกสูตร ในข้อ 10 

(๑๐) ย่อมรู้ชัดว่า 
ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ ๒ พระองค์ 
พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลังกัน นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ 

และรู้ชัดว่า ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธพระองค์เดียว 
พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียว นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ

แปลว่า สิ่งที่เป็นไปไม่ได้คือการที่ "พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ" จะมาอุบัติ 2 พระองค์ในโลกธาตุเดียวกัน
อย่าว่าแต่พร้อมกันเลย พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า แม้แต่เกิดก่อนหรือหลังกันก็เป็นไปไม่ได้

สิ่งที่เป็นไปได้คือ ในโลกธาตุหนึ่งๆ จะมี "พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ" อุบัติขึ้นเพียงพระองค์เดียว 

คำว่า โลกธาตุ = โลกมนุษย์ ซึ่งมีมากมาย จึงมีการใช้ว่า โลกธาตุหนึ่งๆ

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ ๒ พระองค์ พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลังกัน นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ ชี้ชัดว่าโลกมนุษย์ในนี้ในมิตินี้ มีแต่พระสมณะโคดมเท่านั้นที่เป็นพระพุทธเจ้า

แล้วพระศรีอริยะเมตตรัยล่ะ จะมาเป็นพระพุทธเจ้าตอนไหน และในโลกธาตุไหน

ผมได้เขียนบอกความลับสุดยอดไว้แล้ว แต่ส่วนใหญ่คงไม่เชื่อผม ผมบอกว่า หลังจากสิ้นยุคพุทธกาลในปี พ.ศ. 4955 ไปแล้ว วันสิ้นโลกจะมาถึงไม่เกินปี4999 จะไม่มี พ.ศ. 5000 เพราะฉะนั้นช่วง พ.ศ. 4955-4999 จะเป็นวันสุดท้ายของโลก หรือวันอาร์มาเก็ตดอน (วันโลกาวินาศ)

ในปฐมบท วันสิ้นโลกในศาสนาอิสลาม สัญญาณที่ 6.ควันไฟมหึมาในท้องฟ้า และสัญญาณที่ 7.การขึ้นของดวงอาทิตย์ด้านตะวันตก... หมายถึง ฝั่งตะวันตกก็คือสหรัฐและพันธมิตรยุโรป มีการทดลองใช้พลังงานรูปแบบใหม่ที่ไม่มีวันหมด คือ พลังงานนิวเคลียร์ ไฮโดรเจน คล้ายพลังงานบนดวงอาทิตย์) ผลกระทบที่พวกเขาคาดไม่ถึงคือ การเกิดระเบิดนิวเคลียร์ไฮโดรเจนขึ้น ทำให้ชาวโลกตายห่าตายโหงกันหมดโลก ไม่มีใครรอดมาได้สักรายเดียว

หลังจากวันอาร์มาเก็ตดอน (วันโลกาวินาศ)แล้ว ก็จะถึงวันพิพากษาดวงวิญญาณต่างๆในโลก พระบุตรคือ พระเยซูจะเป็นคนตัดสินความชาวมุสลิม ชาวคริสต์ ชาวยิว ส่วนคนในศาสนาและลัทธิอื่น เช่น เต๋า เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นคนตัดสิน ศาสนาพุทธ พระพุทธเจ้าของเราเป็นคนตัดสิน 

หลังจากวันสิ้นโลกไปแล้ว 10,000 กว่าปีเท่านั้น กายเนื้อของพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าจะลงมาเกิด แต่กว่ากายเนื้อของพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าจะเดินทางเข้าสู้ทางธรรม อาจจะอีกหลายหมื่นปี เนื่องจากโลกมนุษย์ที่กายเนื้อของพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าอยู่ เป็นโลกที่คล้ายสวรรค์ชั้นสูง มีต้นกัลปพฤกษ์ ที่คอยเนรมิตสิ่งของให้ผู้ที่อยากได้อะไร ก็ได้อย่างนั้น

หลังจาก กายเนื้อของพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าเดินทางเข้าสู้ทางธรรม และตรัสรู้แล้ว ธรรมกายของพระยะโฮวา หรือ พระไวโรจนพุทธเจ้า ซึ่งเป็นอาทิพุทธแห่งความเมตตากรุณา จะเข้ามาอยู่กับพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า พระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้าจึงกลายเป็นพระบิดาไป 

สรุป

พระเยซูคริสต์เป็นพระเป็นอรหันต์ และเป็นพระโพธิสัตว์ เรียกว่า "พระโพธิสัตว์อรหันต์" พระเยซูคริสต์ เป็นพระเมสไซอาร์ (เมสสิยาห์) คือเป็นพระผู้ช่วยให้รอด และพระผู้ไถ่บาป

พระบิดา คือ พระยะโฮวา ยังไม่ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ พระบิดา(พระยะโฮวา)ไม่ได้ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ใบนี้ มิตินี้ เนื่องจากพระพุทธเจ้ามีได้แค่องค์เดียวเท่านั้นในโลกธาตุหนึ่ง โลกมนุษย์ใบนี้มิตินี้ มีพระสมณะโคดมเป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้ว

โลกมนุษย์หรือโลกธาตุที่มีแต่ผู้มีศีลธรรมอยู่ จะเป็นโลกที่พระศรีอริยะเมตตรัยจะไปเกิด โดยพระศรีอริยะเมตตรัยจะตรัสรู้ และจะสามารถถึงธรรมกาย/สัมโภคกายของอาทิพุทธแห่งความเมตตากรุณา ที่เรียกว่าพระบิดา คือ พระยะโฮวา เข้ามาอยู่ในกายมนุษย์ของท่านได้

หลังจากนั้น กายเนื้อมนุษย์ของพระศรีอริยะเมตตรัยพุทธเจ้า จึงกลายเป็นกายมนุษย์ของพระบิดา (อาทิพุทธแห่งความเมตตากรุณา หรือ พระยะโฮวา) 

พึงตระหนักว่า : ในพุทธศาสนา พระอรหันต์และพระพุทธเจ้าจะมี 3 กาย 1.ธรรมกาย 2. กายทิพย์สัมโภคกาย 3. กายเนื้อมนุษย์