ไม่แน่ใจว่าพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอะไรแท้ อะไรปลอมปน

ตอบ

1. ในพหุธาตุกสูตร (๑๑๕) พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ พระพุทธองค์ตรัสว่า:

(๑๐) ย่อมรู้ชัดว่า ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ ๒ พระองค์ พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลังกัน นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้

และรู้ชัดว่า ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธพระองค์เดียว พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียว นั่นเป็นฐานะที่มีได้

พูดง่ายๆ พระพุทธเจ้าในโลกมนุษย์ใบนี้ มีเพียงพระองค์เดียว คือ "โคตมพระพุทธเจ้า"

ส่วนวิธีการเข้าไปถึงความรู้ทางโลกียะธรรมและโลกุตตระธรรมมี 2 วิธี

- วิธีการเข้าไปถึงความรู้ทางโลกุตตรธรรม จนเป็นพระอรหันต์ หลุดพ้นจากการวนเวียนอยู่ใน 3 ภพ 31 ภพภูมิ คือ เจริญสติปัฏฐาน 4 หรือวิปัสสนา
- วิธีการเข้าไปถึงความรู้ทางโลก หรือทางโลกียธรรม คือ การทำสมาธิ(สมถะกรรมฐาน)

ด้วยเหตุนี้ พระอรหันต์ประเภทสุขกวิปัสสโก พวกท่านจะไม่ค่อยมีความรู้ทางโลก หรือทางโลกียธรรม ท่านรู้แต่ทางดับทุกข์ออกจากสังสารวัฏนี้ไปเท่านั้น ในขณะที่พระอรหันต์ประเภทอื่นที่ได้อภิญญาครบ 6 อย่าง เป็นโลกีย์อภิญญา 5 และโลกุตตรอภิญญา(ที่ทำให้สิ้นกิเลส อาสวะกิเลสคือพ้นทุกข์) พวกท่านจะรู้เรื่องทางโลกด้วย

แต่การจะรู้เรื่องทางโลกได้มากน้อยและสมบูรณ์เพียงใด ต้องอาศัยบุญบารมีอื่นๆที่พวกท่านสะสมมาด้วยว่า มีมากน้อยเพียงใด ถ้าคนไหนได้บุญบารมี 10 ครบถ้วน ที่เรียกว่าได้บารมี 30 ทัศ อันนี้ท่านนั้นจะรู้เรื่องทางโลกและทางธรรมละเอียดยิบจนเป็นสัพพัญญู และเป็นพระพุทธเจ้าเลย

ด้วยเหตุนี้ พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่เราเรียนรู้กันอยู่ทุกวันนี้ แม้ว่าอาจจะเป็นของแท้ 98% ก็ตาม แต่เมื่อพระธรรมคำสั่งสอนเหล่านั้นตกถึงสมองของเรา ต้องถือว่าเป็นของปลอมปนทั้งนั้นแหละครับ เพราะพวกเราเหล่ามนุษย์จะไม่สามารถตีความพระสูตรต่างๆในพระไตรปิฎกของเถรวาท และพระสูตรต่างๆของมหายานได้อย่างถูกต้องตรงเผงเลย เนื่องจากการจะตีความและเข้าใจพระสูตรเหล่านั้นได้ดี และมากน้อยเพียงใด มันขึ้นอยู่กับทาน ศีล สมาธิ และปัญญาที่มนุษย์คนนั้นเคยทำมาในอดีต เพื่อให้ได้ความรู้ทางโลก และความรู้ทางโลกุตตรธรรม

สรุป

พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นของแท้ แต่ความรู้ ความเข้าใจ และการตีความของพวกเรานั่นแหละ ทำให้พระธรรมเหล่านั้นกลายเป็นของปลอม เป็นมิจฉาทิฎฐิไป แต่การจะมีมิจฉาทิฎฐิมากน้อยขนาดไหน ขึ้นอยู่กับทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เราเคยทำมา เพื่อให้ได้ความรู้ทางโลก และความรู้ทางโลกุตตรธรรม

ผมเชื่อว่า ผมได้ทำทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เพื่อให้ได้ความรู้ทางโลก และความรู้ทางโลกุตตรธรรม มาไม่รู้กี่ชาติแล้ว ขนาดพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ชื่อ อรหังทัง ท่านยังบอกว่า ท่านบรรลุธรรมในเวลาใกล้เคียงกับผม แต่ท่านเข้านิพพานก่อน เพราะผมไม่ยอมเข้านิพพาน จะเป็นอรหันต์โพธิสัตว์ต่อไป ความรู้ทางโลกของผมจึงเหนือกว่าท่าน

ผมเคยคิดว่า ทำไมพระเจ้า(พุทธะ)ประมาณ 15 องค์ ถึงสลับกันมาหาผม? และทำไมมี 3 องค์ คือ เจ้าแม่กวนอิม พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์(พระอชิตะ) และพระอมิตาภะพุทธเจ้า ถึงกล้ายืนยันกับผมว่า ผมจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 6 ต่อจากพระศรีอารย์ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 5 นอกจากนี้ พระอมิตาภะพุทธเจ้าก็confirmกับผมด้วยว่า ผมได้เข้าถึงความเป็นอรหันต์แล้ว เพียงแต่จิตยังไม่คงที่เท่านั้น สามารถกำเริบได้ ต้องหัดทำวิปัสสนาพิจารณาสาเหตุของความทุกข์ต่อไป

ผมจึงเชื่อว่า ความเห็นของผมเป็นความเห็นที่เป็นสัมมาทิฎฐิ ด้วยเหตุนี้