ทีฆนิกาย
มหาวรรค มหาปรินิพพานสูตร
...และเข้าปฐมฌานไปจนถึงจตุตถฌานอีก เมื่อออกจากจตุตถฌาน ยังมิได้ทันได้เข้าสู่อากาสานัญจายตนะ พระองค์ก็ปรินิพพานในระหว่างนั้น = นิพานของพระพุทธเจ้า(ปรินิพพานอยู่ระหว่าง รูปฌาน 4 (จตุตถฌาน) และอรูปฌาน 5(อากาสานัญจายตนะฌาน)
หมายความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากจตุตถฌานในลำดับมา เสด็จปรินิพพานในระหว่างฌาน 4 และฌาน 4.. คือ ปัจจเวกขณญาณ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้น ชื่อว่าระหว่างฌาน พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว พิจารณาองค์ฌานอีก หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้นนั่นแหละ ชื่อว่าระหว่างปัจจเวกขณญาณ. แม้ทั้ง ๒ นี้ก็ชื่อว่าระหว่างทั้งนั้น. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าฌานเสด็จออกจากฌาน พิจารณาองค์ฌานแล้วปรินิพพานด้วยภวังคจิต เป็นอัพยากฤตเป็นทุกขสัจจะ. สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ไม่ว่าพระพุทธเจ้าหรือพระสาวก อย่างต่ำมดดำมดแดง ต้องกระทำกาละด้วยภวังคจิตที่เป็นอัพยากฤต เป็นทุกขสัจทั้งนั้นแล.
อนึ่ง ปรินิพพานด้วยภวังคจิต แต่เป็นอัพยากฤต (กลาง ๆ ระหว่าง กุศลกับอกุศล คือไม่จัดเป็นกุศลหรืออกุศล) = นิพพาน หรือ เข้าเมืองนิพพาน จะมีธรรมกายและกายทิพย์สัมโภคกายออกมา ในขณะที่ภวังคจิตที่เป็นกุศล และ อกุศล จะนำไปสู่ภพภูมิต่างๆในสังสารวัฏ
ปรินิพพานตัวนี้ เป็นการเรียกนิพพานของพระพุทธเจ้า เป็นการให้เกียรติกันเฉยๆ ในขณะที่พระอรหันต์ทั่วไปเรียกเฉยๆว่า นิพพาน ดังนั้น ปรินิพพานตัวนี้ เป็นคนละอย่างกับปรินิพพาน ที่เป็นจิตที่ว่างเปล่าเฉยๆนะครับ
...และเข้าปฐมฌานไปจนถึงจตุตถฌานอีก เมื่อออกจากจตุตถฌาน ยังมิได้ทันได้เข้าสู่อากาสานัญจายตนะ พระองค์ก็ปรินิพพานในระหว่างนั้น = นิพานของพระพุทธเจ้า(ปรินิพพานอยู่ระหว่าง รูปฌาน 4 (จตุตถฌาน) และอรูปฌาน 5(อากาสานัญจายตนะฌาน)
หมายความว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากจตุตถฌานในลำดับมา เสด็จปรินิพพานในระหว่างฌาน 4 และฌาน 4.. คือ ปัจจเวกขณญาณ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้น ชื่อว่าระหว่างฌาน พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว พิจารณาองค์ฌานอีก หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้นนั่นแหละ ชื่อว่าระหว่างปัจจเวกขณญาณ. แม้ทั้ง ๒ นี้ก็ชื่อว่าระหว่างทั้งนั้น. ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าฌานเสด็จออกจากฌาน พิจารณาองค์ฌานแล้วปรินิพพานด้วยภวังคจิต เป็นอัพยากฤตเป็นทุกขสัจจะ. สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง ไม่ว่าพระพุทธเจ้าหรือพระสาวก อย่างต่ำมดดำมดแดง ต้องกระทำกาละด้วยภวังคจิตที่เป็นอัพยากฤต เป็นทุกขสัจทั้งนั้นแล.
อนึ่ง ปรินิพพานด้วยภวังคจิต แต่เป็นอัพยากฤต (กลาง ๆ ระหว่าง กุศลกับอกุศล คือไม่จัดเป็นกุศลหรืออกุศล) = นิพพาน หรือ เข้าเมืองนิพพาน จะมีธรรมกายและกายทิพย์สัมโภคกายออกมา ในขณะที่ภวังคจิตที่เป็นกุศล และ อกุศล จะนำไปสู่ภพภูมิต่างๆในสังสารวัฏ
ปรินิพพานตัวนี้ เป็นการเรียกนิพพานของพระพุทธเจ้า เป็นการให้เกียรติกันเฉยๆ ในขณะที่พระอรหันต์ทั่วไปเรียกเฉยๆว่า นิพพาน ดังนั้น ปรินิพพานตัวนี้ เป็นคนละอย่างกับปรินิพพาน ที่เป็นจิตที่ว่างเปล่าเฉยๆนะครับ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น