ต้นเหตุของการสาบผู้ที่มองดูพระจันทร์ในพิธีที่มีพระพิฆเนศอยู่

มีหลายตำนานเรื่องพระพิฆเนศไม่กินเส้นกับพระจันทร์ และมีการสาบผู้ที่มองดูพระจันทร์ในวันประกอบพิธีใดๆที่มีพระพิฆเนศอยู่

ตำนานแรก

เหตุที่พระพิฆเนศมีสายรัดท้องเป็นงูเห่า และมีการสาบผู้ที่มองดูพระจันทร์ในวันประกอบพิธีใดๆที่มีพระพิฆเนศอยู่

สืบเนื่องมาจากตอนที่พระพิฆเนศกลับจากงานบวงสรวงเหล่าเทพ พระพิฆเนศเสวยขนมต้มมากจนท้องโต ระหว่างทรงหนูพาหนะเพื่อกลับที่ประทับนั้น เผอิญมีงูเห่าตัวหนึ่งเลื้อยตัดหน้าหนูพาหนะของพระองค์ จนพระพิฆเนศตกจากหลังหนูพาหนะของพระองค์ ลงมานั่งท้องแตกกับพื้น และพิฆเนศโกรธจัดฆ่างูเห่าตัวนั้นตายแล้วจับขนมต้มยัดใส่ท้องตามเดิมด้วยความเสียดาย แล้วใช้งูเห่าตัวนั้นมาเป็นสายรัดท้องไม่ให้ขนมต้มแตกออกมาจากท้อง

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น พระจันทร์ซึ่งลอยอยู่กลางฟ้าเห็นเข้าโดยบังเอิญก็เกิดหัวเราะเยาะขบขัน

การกระทำของพระจันทร์ ทำให้พระพิฆเนศโกรธ ด้วยความละอายจึงใช้งาขว้างใส่พระจันทร์ในทันที งาที่ขว้างใส่พระจันทร์ก็ติดแน่นอยู่ที่พระจันทร์ จนกระทั่งรัศมีอันสว่างไสว งดงามของพระจันทร์นั้นมืดลับดับหายไป อันเป็นที่มาของข้างแรมที่มนุษย์โลกเห็นว่าพระจันทร์นั้น บางครั้งก็เว้าแหว่งไม่เต็มดวงตลอดเดือน" 

ด้วยเหตุนี้พระพิฆเนศกับพระจันทร์จึงไม่ค่อยกินเส้นกัน โดยถือเป็นข้อห้ามว่าหากวันใดมีการประกอบพิธีที่มีองค์พระพิฆเนศวรอยู่ในพิธีใด คืนนั้นห้ามมองพระจันทร์ แต่หากใครมองพระจันทร์จะถูกพระพิฆเนศสาปให้เป็นคนที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ที่สุด = หมดเมตตามหานิยมที่อยู่ในตนเอง

ตำนานสอง 

พระจันทร์กับชายาใช้ตาทิพย์มองไปในตำหนักของพระพิฆเนศ พระจันทร์ได้ล้อเลียนพระพิฆเนศต่อหน้าชายา อวดตัวว่าตัวเองหล่อและงดงามสุดๆ แต่พระพิฆเนศนอกจากหัวเป็นช้างแล้ว ตัวยังอ้วนพุงพลุ้ยน่าเกลียดมาก โดยไม่รู้ว่าพระพิฆเนศใช้หูทิพย์ได้ยิน พระพิฆเนศจึงกลายเป็นอริกับพระจันทร์โดยปริยาย แล้วสาบว่า

"หากวันใดมีการประกอบพิธีที่มีองค์พระพิฆเนศอยู่ในพิธีนั้น คืนนั้นห้ามมองพระจันทร์ ถ้าใครมองพระจันทร์จะถูกพระพิฆเนศสาบให้เป็นคนที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์ที่สุด = ผู้นั้นจะหมดมนตราเมตตามหานิยมที่อยู่ในตนเอง ทำให้ใครต่อใครพากันรังเกียจ"

เรื่องนี้ผมดูจากในทีวี หนังเป็นตอนๆเรื่องพระศิวะ

... พระราหูขาว ท่านบอกว่าวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน เป็นวันเกิดของพระพิฆเนศ ...