การดับทุกข์เป็นเรื่องเพ้อฝัน ทำไม่ได้หรอก ถ้าไม่ใช้หนี้กรรมให้เจ้ากรรมนายเวร

ทุกข์มีจริงกับผู้ยึดติด ไม่ปล่อยว่าง
ทุกข์ไม่มีจริงกับผู้ไม่ยึดติด จิตปล่อยว่างและวางลงจากสิ่งมายานั้น
ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นแค่มายา ผู้ที่บอกว่ามันมีจริง ก็คือผู้ยึดติดว่าทุกสิ่งในโลกมีจริง

phonsakz โพสต์ 

ตอนนี้เรายังมีกิเลสอยู่ ก็ต้องพิจารณา รูป-นาม (ทุกข์) ไปก่อน แต่เมื่อ ถึงที่สุดแห่งทุกข์แล้ว ก็คงไม่ยึดถือ อะไรเลย ตามพุทธสุภาษิต ที่ว่า " สัพเพ ธัมมา นาลัง อะภินิเวสายะ " สภาวธรรมทั้งปวง ไม่ควรถือมั่น สุดท้ายก็คือ อันเดียวกัน

shart.com โพสต์ 

ก็ทำสุดท้ายเสียทีสิจ่ะ

dhammajak โพสต์ 

จะรีบไปไหน จะรีบไปไหน นางวิสาขาอุบาสิกา เป็นพระโสดาบันแล้ว ท่านยังต้องการเที่ยว ภพ ภูมิ ต่างๆ ใน เทวโลก และพรหมโลก เลย อย่าใจร้อน เดียวจะเสียของ 555

shart.com โพสต์

ตอบ

ผู้ที่สร้างทุกข์ในโลกให้กับมนุษย์เรามี 2 คน

1. ตัวเราเอง ที่เสือกไปเอาเรื่องราวภายนอก มาคิดนึกปรุงแต่ง ไม่ปล่อยวางเรื่องเหล่านั้นไป เราจึงเกิดความทุกข์ ถ้าเราปล่อยวางเรื่องเหล่านั้นไปให้หมด เราก็ไม่มีทุกข์ เพราะจิตจะว่างสงบ

2. คนอื่นที่เราไปก่อกรรมเวรกับเขาในชาตินี้และในอดีตชาติที่นับไม่ถ้วน ที่เรียกว่า "เจ้ากรรมนายเวร" พวกเขาเหล่านั้นมาตามทวงหนี้กรรมกับเรา โดยเข้ามามีอิทธิพลในจิตของเราด้วยครึ่งหนึ่ง

บังเอิญ! เจ้ากรรมนายเวรของเรา ที่มาตามทวงหนี้กรรมกับเรามันมีเป็นอนันต์ ยกเว้นในชาติปัจจุบันเท่านั้น ที่มีจำนวนจำกัด เราจึงสามารถดับทุกข์ เข้านิพพานไปได้ก่อน ไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เพราะถ้ามาเกิดอีก ก็จะมีเจ้ากรรมนายเวรของเราในชาติต่อไป มาตามทวงหนี้กรรมอีก

อย่างไรก็ตาม กฎกติกาที่พวกเราเหล่าพุทธะ(พระเจ้า)ร่วมกันตั้งขึ้น ก่อนจะลงมาเล่นเกมส์เวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ คือ

"ให้ใช้กรรมที่ให้ผลในชาติปัจจุบันให้หมด แล้วเข้านิพพานหรือเข้าเมืองนิพพานไป กรรมที่เหลืออยู่ทั้งหมด ถือเป็นอโหสิกรรม ไม่จำเป็นต้องชดใช้กรรมเหล่านั้นต่อ"

ด้วยกติกาข้อนี้ พวกเราเหล่าพุทธะ(พระเจ้า)ทั้งหมด เมื่อลงมาเล่นเกมส์เวียนว่ายตายเกิด เพื่อหาตัวเองให้พบว่า "กูมนุษย์ ก็คือพระเจ้า" พวกกูสามารถดับทุกข์หรือพ้นทุกข์ กลับไปเป็นพระเจ้าใหม่ได้ โดยไปต้องไปใช้หนี้กรรมทุกชาติให้หมด ซึ่งไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว

สรุป 

ถ้ากติกาคือ เราทุกจิตต้องใช้กรรมที่เราก่อขึ้นมาเป็นอนันต์ให้หมดก่อน จึงจะกลับเป็นพระอรหันต์(พระเจ้า)ได้ ในโลกนี้จะไม่มีใครดับทุกข์หรือพ้นทุกข์ได้แม้แต่คนเดียว

แล้วพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนแค่ทำสมถะและวิปัสสนาเท่านั้น จึงจะแก้กรรมได้นะครับ พระพุทธองค์ตรัสสอนให้แก้กรรมโดยการรักษาศีล ทำบุญ ทำทานก่อนทำสมถะและวิปัสสนาด้วยซ้ำไป 

การแก้กรรม = การดับทุกข์ เราเรียกการแก้กรรม(การดับทุกข์)ว่า อานิสงค์ ของการสร้างบุญบารมี ( ทาน, ศีล, ภาวนา - สมถะและวิปัสสนา ) 

เมื่อเราสร้างบุญบารมีเหล่านี้ ( ทาน, ศีล, ภาวนา - สมถะและวิปัสสนา ) เพื่อจะให้ได้ผลดีที่สุด เราควรส่งอานิสงค์ของกุศลเหล่านั้น ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลร้ายกับเราในชาติปัจจุบันก่อนเป็นดีที่สุด อาจจะไม่จำเป็นต้องส่งอานิสงค์ของกุศลเหล่านั้นไปให้เจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลร้ายกับเราในชาติหน้าด้วยซ้ำไป ถ้าเราสามารถดับทุกข์เข้าเมืองนิพพานได้ในชาตินี้