A A

14 เมษายน 2558

ใช้คาถาขององค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม และพระศากยมุนีพุทธเจ้า รักษามะเร็งกันดีกว่า

คัดจากจิน ฝอ จง พระพุทธาจารย์เหลียนเซิน หลูเซิ่งเยี่ยน

พ่อค้าคนหนึ่งชื่อ 'กู้ฉวน' ป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
พยายามหาหมอเพื่อรักษาหลายแห่งก็ดูไม่มีวี่แววว่าอาการจะดีขึ้น แถมโรคมะเร็งยังกำเริบหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่หมอจีนหมอฝรั่งต่างก็จนปัญญากันหมด ขนาดต้องจ่ายเงินซื้อตำรายาลึกลับมารักษาเป็นจำนวนมากก็ยังไม่ช่วยให้ดีขึ้น
เมื่อกู้ฉวนป่วยมากเข้าจนใจไม่ดี เขาจึงไปขอพรจากเทพเจ้าในร่างของม้าทรงที่ศาลเจ้า
"ถ้าโรคมะเร็งหาย ผมสาบานว่าจะสร้างศาลเจ้าและเป็นคนดูแลศาลเจ้าตลอดชีวิต"
เทพที่มาสถิตอยู่ในร่างของคนทรงเจ้าก็ตอบว่า
"หายสิ ทำไมจะไม่หาย"
ได้ยินแบบนี้กู้ฉวนจึงถามต่อว่า
"แล้วมีเทพเจ้าองค์ไหนรักษามะเร็งได้บ้างครับ"
"พระพุทธเจ้าศากยมุนี"

"แล้วผมจะไปหาพระพุทธเจ้าศากยมุนีได้ที่ไหน
..................

ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าศากยมุนีจะปรินิพพานไปแล้ว แต่แสงทิพย์ยังคงแผ่เต็มทั่วไป เหมือนเช่นองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม ซึ่งถ้ามีการภาวนาขอร้องพันแห่ง ก็จะไปปรากฏตัวพันแห่ง แต่พระพุทธเจ้าศากยมุนีนั้นมีฐานะสูงกว่าองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม จึงยิ่งสามารถทำได้มากกว่าพันแห่ง เรียกว่าขอมาพันแห่งก็ไปได้พันแห่ง ขอหมื่นแห่งก็ไปได้หมื่นแห่ง และตัวอาตมาเองก็บำเพ็ญจนได้แสงทิพย์ อาตมาจึงอาศัยแสงทิพย์ของตนไปขอพบแสงทิพย์ของพระพุทธเจ้าศากยมุนี เพื่อขออนุญาตดื่มกาแฟด้วยกัน การทำแบบนี้เรียกว่าใช้จิตทิพย์พบจิตทิพย์ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามาก" 
.........................
องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมตรัสอีกว่า "ตอนที่เราอยู่ในวัดต้าเหลยอินซื่อ (วัดมหาฟ้าคำราม) พระพุทธเจ้าศากยมุนีได้สั่งไว้ว่าถ้าพบท่านให้ถ่ายทอดคาถาบทหนึ่งให้  เพื่อให้ท่านถ่ายทอดให้กู้ฉวน คาถานี้จะช่วยชำระเวรกรรมของกู้ฉวนให้สะอาด มีกายใจที่สงบสุข แล้วโรคมะเร็งก็จะหายไป"

"คาถาอะไรหรือ"

องค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมจึงตรัสคาถาดังนี้
ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ

เมื่ออาตมาท่องจำคาถานี้ได้ จึงพนมมือน้อมส่งองค์พระโพธิสัตว์กวนซื่ออิม แล้วพระโพธิสัตว์กวนซื่ออิมก็ทรงเหยียบเมฆมงคล ลอยหายขึ้นบนท้องฟ้า

อาตมานำคาถาบทนี้มาถ่ายทอดให้แก่กู้ฉวน  
กู้ฉวนก็ท่องคาถาบทนี้ทั้งวันคืน แบบวิริยะอุตสาหะยิ่งนัก พอ 2 เดือนต่อมากู้ฉวนไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็พบว่า มะเร็งในกระเพาะได้หายไปอย่างน่ามหัศจรรย์ ตรวจเชื้อโรคมะเร็งก็พบว่าเป็นศูนย์ กู้ฉวนจึงกลับมาเป็นคนปกติดีอีกครั้ง  กู้ฉวนหัวเราะเสียงดังด้วยความดีอกดีใจ อาตมาก็แสดงความยินดีด้วย ดั่งโศลกบทหนึ่งที่ว่า คาถาศักดิ์สิทธิ์บทเดียวไม่ฟุ้งซ่าน ทุกเสียงไหลออกจากจิตแห่งตัวตน ก็ชำระให้สะอาดบริสุทธิ์จากจุดนี้ เนื้องอกมะเร็งไร้รากจึงหายไป ..................

อาตมารู้สึกว่า ความทุกข์ทั้งปวงของโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น 'ความทุกข์จากป่วยไข้' นั้นเป็นสิ่งที่สาหัสที่สุด ในพระสูตรยังกล่าวไว้ว่า 4 มหาภูตแห่งดิน น้ำ ลม ไฟ มีโรครวม 404 โรค โรคทุกชนิดล้วนเจ็บทุกข์เหลือทน โดยเฉพาะ 'โรคมะเร็ง' ซึ่งปัจจุบันยังเป็นโรคที่รักษาไม่หาย
แต่พระพุทธเจ้าศากยมุนีสามารถรักษาโรคมะเร็งได้ โดยคาถาบทดังกล่าวมีดังนี้

"ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ"

คาถาชุดนี้เป็นคาถาที่มีคนรู้จักน้อย ไม่ค่อยพบเห็นง่ายนัก เพราะจะบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกฉบับภาษาจีน (อยู่ใน 'จงหัวต้าจั่นจิง' ชุดที่ 1 หมวดที่ 5 หน้า 16,868) คาถานี้ช่วยคนมาแล้วมากมาย เช่น ผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ 'เหอฉ่าย' เหอฉ่ายได้มาคุกเข่าที่หน้าบ้านของอาตมา พออาตมาจะพยุงเขาลุกขึ้นมา เขาก็ไม่ยอมลุกท่าเดียว ถ้าจะลุกอาตมาต้องรับปากว่าจะช่วย เขาจึงยอมลุกขึ้น สุดท้ายเมื่ออาตมาพยักหน้า เขาจึงลุกขึ้นมา อาตมาก็ถามเขาว่า "ท่านมีเรื่องอะไรหรือ"
"ผมเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายครับ"
"โรคมะเร็งอะไรล่ะ"
"โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ใต้รักแร้" เหอฉ่ายดึงแขนเสื้อออกมาให้ดู

อาตมาเห็นแล้วตกใจ เพราะผิวหนังเป็นแผลจุดๆ และเชื้อโรคมะเร็งกำเริบมาก จนกระจายไปถึงกระดูกและที่อื่นๆ ของร่างกายแล้ว อาตมาสั่นหัว รู้ว่าเขาไม่มีทางรอดแล้ว "คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง"

เหอฉ่ายตอบว่า "ภายในครึ่งปี"

อาตมาบอกเหอฉ่ายว่า อาตมาจะพยายามช่วยเธอ แต่พลังมีจำกัด
เธอต้องภาวนาต่อพระพุทธเจ้าศากยมุนีเองนะ อาตมาจึงถ่ายทอดคาถารักษาโรคมะเร็งของพระพุทธเจ้าศากยมุนี ให้เขาเหมือนที่เคยให้กู้ฉวน และสอนเขาอีกว่า หลังจากท่องคาถาแล้วให้เพิ่มคำภาวนาว่า

"ผมชื่อเหอฉ่าย ขอถวายตัวเป็นลูกศิษย์ ตอนนี้ผมมีโรคมะเร็งเป็นทุกข์ ขอให้พระพุทธเจ้าศากยมุนี ทรงอธิษฐานคุ้มครอง ขอจงเมตตากรุณาคุ้มครอง ขอให้โรคมะเร็งหายไป ต่ออายุให้ยาวนานเถิด"

นะโมมูลฐานคุรุ ศากยมุนีพุทธเจ้า นะโมพระพุทธเจ้าศากยมุนีทั้งสิบทิศ นะโมพระธรรมทั้งสิบทิศ นะโมพระสงฆ์ทั้งสิบทิศ"

เหอฉ่ายกลับไปที่บ้าน ทำตามที่อาตมาสอน วันหนึ่งเมื่อปฏิบัติไปได้ประมาณ 21 วัน เหอฉ่ายก็สะลึมสะลือคล้ายว่าตัวเองนั้นกึ่งหลับกึ่งตื่น และเห็นพระพุทธเจ้าศากยมุนีมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า พร้อมกับตรัสว่า
"เหอฉ่าย โรคของท่านนั้นช่วยไม่ได้แล้ว ไปกับเราเถิด"
"ไม่ครับ ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป"

"ทางโลกมนุษย์เป็นทุกข์ และเป็นเหมือนบ้านถูกไฟไหม้ ตามเราไปดีกว่า"
"ไม่ครับ ผมยังมีกิจที่ต้องทำต่อ ผมขอมีชีวิตอยู่เถอะครับ"
"กิจของท่านต้องใช้เวลาเท่าใดล่ะ"
"5 ปีครับ"

พระพุทธเจ้าศากยมุนีตรัสว่า
"ได้ 5 ปี ก็ 5 ปี แต่ท่านยังต้องท่องคาถาต่อไปนะ"

พูดแล้วก็แปลกดี พอเขาฝันแบบนี้แล้ว โรคมะเร็งก็คล้ายว่าจะลดลง ร่างกายและจิตใจก็แข็งแรงเหมือนคนทั่วไป แต่ว่าโรคมะเร็งนั้นไม่ได้หายขาด เพียงแต่ทรงตัวอยู่อย่างนั้น และแล้วเหอฉ่ายก็มีชีวิตต่ออีก 5 ปี จริงๆ

พอครบ 5 ปี เชื้อมะเร็งก็ยังคงแผ่ไปทั่วร่างกายของเหอฉ่าย โรคมะเร็งของเหอฉ่ายไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้  แต่ทำได้เพียงระงับไว้  เมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการตามที่เคยได้ให้ไว้กับพระพุทธเจ้าศากยมุนี เหอฉ่ายก็จากไป เกี่ยวกับเรื่องของเหอฉ่าย อาตมาคิดว่าไม่ได้เป็นเพราะคาถาไม่ได้ผล แต่อายุขัยของเขานั้นหมดแล้วต่างหาก พระพุทธเจ้าศากยมุนีหรือมหาเซียนองค์ไหนก็ช่วยไม่ได้ และถ้าช่วยได้โลกนี้ก็คงไม่มี คนตายแล้ว ส่วนคาถารักษาโรคมะเร็งที่เล่ามานั้น ก็สามารถช่วยต่ออายุได้ ก็นับเป็นเรื่องที่อาตมาเองก็คิดไม่ถึง

แต่ในทางกลับกัน
อาตมาคิดว่า การท่องคาถานี้สามารถไปจุติยังพุทธเกษตร  มิฉะนั้นพระพุทธเจ้าศากยมุนีก็คงจะไม่มาปรากฏตัว เพื่อมารับเหอฉ่ายไปจุติหรอก

สรุป

คาถารักษาโรคมะเร็ง คือ
"ตันจิทา เอ๋อลันตี เอ๋อลันหมี่ ซื่อลี่ปิ ซื่อหลี่ซื่อหลี่ มอเจสื้อจื่อ ซันปาลาตู โซหะ"

คาถาบทนี้มีประโยชน์หลายอย่าง 1. รักษาโรคมะเร็งหายขาด  2. รักษาโรคมะเร็งไม่หายขาด แต่ต่ออายุไปได้  3. พระพุทธเจ้าจะมาเจรจาเองว่า จะต่ออายุไปกี่ปีดี  4. ตอนที่ตายพระศากยมุนีพุทธเจ้าจะพาไปอยู่ที่พุทธเกษตร แดนนิพพาน

0 comments:

แสดงความคิดเห็น