คำถามของคริสต์ศาสนิกชนท่านหนึ่งน่าสนใจตอบอย่างยิ่ง

คุณsansreposสงสัยว่า :

คือถึงตอนนี้ผมเห็นด้วยกับเนื้อหาบางส่วนที่อาพลศักดิ์เสนอ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ส่วนที่เกี่ยวกับพุทธพจน์หรือพระไตรปิฎก ผมไม่บังอาจวิจารณ์เพราะไม่ได้ถือพุทธและไม่ได้ศึกษา

1.อาพลศักดิ์ต้องเข้าใจว่า การพยายามอธิบายเรื่องพระเจ้าในแบบพุทธให้คนพุทธกระแสหลักโดยเฉพาะพุทธเถรวาทเข้าใจ และยอมรับนั้นเป็นเรื่องยาก ถ้าอาพลศักดิ์ไปถกประเด็นพวกนี้กับพระหรือฆราวาสพุทธที่เป็นอริยบุคคลแล้วนั้นอีกเรื่อง 2.ก็คล้ายๆกับการพยายามอธิบายเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดกับคนคริสต์คนอิสลามนั่นแหละเค้าไม่ฟังอาหรอกครับ

3. ชีวิตหลังความตายในความเชื่อของคริสตศาสนามีแค่สวรรค์นิรันดร การรับโทษในนรกนิรันดร และไฟชำระเท่านั้น ไม่มีความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แต่จริงๆแล้วพระศาสนจักรคาทอลิกเองก็ยังไม่ได้ยืนยันความหมายของไฟชำระให้ชัดเจน บอกเพียงว่าเป็นสภาวะที่วิญญาณที่ไม่มีบริสุทธิ์แต่ไม่ได้ตายในบาปหนักต้องรับก่อนจะไปอยู่กับพระเป็นเจ้าเท่านั้น ดังนั้นการเกิดใหม่ใช้กรรมหรือการเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆอาจจะเป็นไฟชำระชนิดหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าใครสักคนจะไปสอนเรื่องพวกนี้ให้คนคริสต์หรืออิสลามทั่วๆไปฟังเค้าก็ไม่รับหรอกครับ

ตอบ

1. พระเจ้าของชาวคริสต์มีคุณสมบัติอะไรล่ะครับ
หลักคำสอน และความเชื่อของคริสเตียน

*** มีพระเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียว ***

1.2 พระเจ้าที่เที่ยงแท้ มีเพียงองค์เดียว ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกเหนือจากพระเจ้าผู้เที่ยงแท้ แน่นอน เพียงหนึ่งเดียว และพระเจ้าอื่น เป็นเพียงสิ่งที่ซาตาน หลอกลวงมนุษย์ให้สร้างพระเจ้าไปในลักษณะต่างๆ เพื่อไม่ให้มนุษย์รู้จักพระเจ้าที่แท้จริง

....พระเจ้าที่เที่ยงแท้ มีเพียงองค์เดียว แต่พระเจ้าสามารถอวตารจำแนกพระองค์ออกเป็นแสนหรือล้านองค์หรือเป็นอนันต์พระองค์ก็ได้นะครับ ดังเช่นที่แยกตัวเองเป็นพระยะโฮวาบ้าง เป็นอัลเลาะห์บ้าง เป็นพระเยซูบ้าง ฯลฯ

1.4 พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ามีสูงสุด ไม่มีขีดจำกัด โดยพระองค์ทำได้ทุกสิ่ง สถิตทั่วทุกแห่งหน รู้การกระทำทุกอย่างของมนุษย์ ทรงเป็นอมตะ ไม่มีการเกิดแก่เจ็บตาย ดำรงอยู่เป็นนิตย์นิรันดร์

....เพราะเหตุที่พระเจ้ามีฤทธิ์อำนาจสูงสุด ไม่มีขีดจำกัด พระเจ้าจึงสามารถอวตารจำแนกพระองค์ออกเป็นแสนหรือล้านองค์หรือเป็นอนันต์พระองค์ก็ได้ และคุณลักษณะไม่มีการเกิดแก่เจ็บตาย ดำรงอยู่เป็นนิตย์นิรันดร์ เป็นคุณลักษณะของพระอรหันต์ทุกพระองค์อยู่แล้ว

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ ความกำจัดโทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่งนิพพานธาตุ. ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ......" ภิกขุสูตร ที่ ๒

++++พระอรหันต์ทุกองค์จึงชื่อว่า เป็นพระบุตรดังเช่นพระเยซู แต่พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู และมีฤทธิ์อำนาจสูงสุด ไม่มีขีดจำกัด แบบเดียวกับพระยะโฮวา(พระไวโรจนพุทธเจ้า) จึงชื่อว่าเป็นพระบิดาหรือพระธรรม++++

พระลักษณะที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ 1.3 พระเจ้าทรงรู้ทุกสิ่ง (Omniscient) หรือทรงสัพพัญญู คือ พระเจ้าทรงไม่มีความจำกัดในความรู้ความเข้าใจที่สมบูรณ์

.....สัพพัญญู [สับ] น. ผู้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง, ผู้รู้ทั่ว; พระนามพระพุทธเจ้า. (ป.).


2. ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดครับ มีแต่ในศาสนาพุทธและฮินดู เพราะสวรรค์หรือพรหมโลกเป็นแค่ชั้นโลกียะ หมดบุญเมื่อไรก็ต้องมาเกิดในโลกต่ออีก เพราะพุทธเถรวาทไม่พึ่งพิงอำนาจของพระเจ้า พึ่งแต่ตัวเอง

ส่วนสวรรค์ในศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม รวมทั้งสวรรค์ของพุทธมหายานเป็นพุทธเกษตร หรือเป็นสวรรค์นิรันดร จึงไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด พวกที่เวียนว่ายตายเกิดของคริสต์และอิสลามน่าจะเป็นพวกที่ถูกไฟชำระก็ได้

อนึ่ง ผมเคยตอบคำถามข้อหนึ่งไปที่ถามว่า ...คริสเตียน อิสลาม พุทธ ใช้สวรรค์ร่วมกันมั้ยครับ แบบว่า คนพุทธ ตาย คนคริสต์ตาย อิสลามตาย มีเหตุปัจจัยให้อยู่ใกล้ๆกัน ตายแล้วไปเจอกันที่ นรก สวรรค์ ร่วมกันหรือว่าใช้แยกกันครับ

ตอบ

คริสเตียน อิสลาม พุทธมหายาน นิกายสุขาวดี เวลาเขาตายไป เขาไปอยู่ในสวรรค์นิรันดร หรือนิพพานเลยนะครับ แต่ว่าชั้นล่างๆ เช่น
- อิสลาม พุทธเกษตร(สวรรค์นิรันดร)เขามี 100 ชั้น ชั้นบนสุดหรือใกล้บนสุดเป็นชั้นอรหันต์
- พุทธนิกายสุขาวดี พุทธเกษตร(เมืองนิพพาน)ก็มี 100 ชั้น ชั้นบนสุดหรือใกล้สุดเป็นชั้นอรหันต์
- คริสต์... แม้สวรรค์นิรันดรของคริสต์จะมีแค่ 16 ชั้น ชั้น 15 พระบุตร-พระเยซูอยู่ ชั้น 16 ของพระยะโฮวา แต่ 1 ชั้นของคริสต์ ก็แยกเป็นเขตหลายเขตมากมาย ในขณะที่อิสลามและพุทธสุขาวดีแยกเป็นชั้นไปเลย

ที่หน้าเป็นห่วง คือ ศาสนาพุทธเถรวาทของเรา โอกาสลงนรกและอบายภูมิสูงมาก เพราะไม่รู้หลักการทำการก้าวล่วงบาปกรรม (เตาบะในศาสนาอิสลาม หรือสารภาพบาปในศาสนาคริสต์) และไม่พึ่งบารมีพระพุทธเจ้าหรือพระโพธิสัตว์อรหันต์องค์ใด จะพึ่งแต่ตัวเอง จึงมีความเสี่ยงโคตรสูงมากเลย แล้วเวลาได้ขึ้นสวรรค์ ก็ไปได้แค่กามภูมิ เสร็จแล้วยังต้องกลับมาเสี่ยงลงนรกอีก - เวียนว่ายตายเกิดอีก

อย่าเป็นห่วงศาสนาคริสต์และอิสลามเขาเลย เขาน่ะรอดแล้ว ย้ำ! ไอ้ที่ไม่รอดคือพวกเรา คนในพุทธเถรวาท ที่ไม่พึ่งพระพุทธเจ้าหรือพระโพธิสัตว์อรหันต์องค์ใด จะพึ่งแต่ตัวเอง จึงมีความเสี่ยงโคตรสูงเลยว่าจะลงอบายภูมิ แล้วเวลาได้ขึ้นสวรรค์ ก็ไปได้แค่กามภูมิ (แล้วยังต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก)

พุทธ คริสต์ อิสลาม ใช้สวรรค์ที่ต่างกันไป อาหารมันก็มีหลายรสชาติเป็นธรรมดา แต่ภพภูมิสวรรค์เหมือนกัน เหมือนชั้นโสดาบันขึ้นไปของคริสต์ = นักบุญ

ถาม-ตอบ

ตอบกลับ Phonsak
...จะศาสนาคริสต์และอิสลามหรือแม้แต่พุทธ ไม่รอดทั้งนั้นสำหรับคนชั่วครับ

ตอบ

 
ผิดแล้วครับ คุณไปเอาสวรรค์ 6 ชั้น พรหมโลก 20 ชั้น และอบายภูมิ เอามาใช้วัด.... มันไม่ได้ครับ

โสดาบัน สกิคาทามี อนาคามี  ก็ยังเข้าเมืองของพระเจ้าไม่ได้เลย  ไม่ต้องไปพูดถึงคนชั่วหรอกครับ

สวรรค์นิรันดรของคริสต์ อิสลาม และของพุทธสุขาวดี คือ พุทธเกษตร หรือเมืองพระนิพพาน ที่นั่นความดีความชั่วเข้าไปไม่ได้ทั้งนั้น ถ้ายังคิดว่านี่เป็นความดีความชั่ว ไม่ปล่อยวาง ก็อยู่ในชั้นล่างๆของสวรรค์นิรันดรของอิสลาม และของพุทธสุขาวดีซึ่งมี 100 ขั้น หรืออยู่ชั้นล่างๆในสวรรค์นิรันดรของคริสต์ ซึ่งมี 16 ชั้น

พระพุทธเจ้าของเราทิ้งความดีไปหมด เพราะความดีเหล่านั้น จะทำให้เป็นจักรพรรดิครองโลกและทรัพย์สินมีค่าทั้งหมด พระพุทธเจ้ายอมเป็นหัวหน้าพรรคกระยาจก ต้องขอทานไปตลอดชาติ  เพื่อชี้ให้เห็นว่าเมืองพระนิพพาน  เอาความดีความชั่วเข้าไปไม่ได้ ต้องละให้หมดทั้งความดีความชั่ว

ถ้ามีดีอยู่ ก็ต้องไปสวรรค์ 6 ชั้น พรหมโลก 20 ชั้น และอบายภูมิ

ไม่ว่ามนุษย์จะทำความดีมากแค่ไหน มีความเพียรพยายาม มีศีลธรรมสูงส่ง หรือทำบุญสุนทาน มากมายเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เข้าสู่สวรรค์นิรันดร(นิพพาน)ได้ ไม่ว่าคนดีมีศีลธรรม คนที่ศรัทธาในศาสนา คนชั่วร้าย คนไม่มีศาสนา ล้วนแล้วแต่ลงเรือลำเดียวกัน คือเสื่อมไปจากความบริสุทธิ์ของพระเจ้า

ความบริสุทธิ์ของพระเจ้า = ไม่มีกิเลสตัณหา = อรหันต์ จึงจะทำให้เข้าไปสวรรค์นิรันดร หรือพุทธเกษตร หรือเมืองพระนิพพานได้

วิญญาณคนคริสต์ อิสลาม และพุทธมหายาน พวกเขาไม่ได้เป็นคนดีที่สุดนะ จึงสามารถเข้าไปเมืองของพระเจ้าได้ เขาเพียงแต่เชื่อและศรัทธาในพระเจ้า หรือพระพุทธเจ้าเท่านั้น แล้วมีการสารภาพบาปใหญ่ๆทุกครั้ง และตั้งใจมั่นว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก

ถ้าไม่เชื่อและไม่ศรัทธาในพระเจ้า หรือพระพุทธเจ้าที่อวตารลงมาเป็นมนุษย์ แล้วพระองค์ท่านเข้าสู่ความเป็นอรหันต์ โอกาสที่จะเกาะขึ้นเรือของพระเจ้าองค์นั้นเข้าไปในเมืองนิพพานไม่มีเลย

- พระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์ ที่พระเจ้าที่เป็นองค์พระบิดา(พระยะโฮวา หรือพระไวโจนพุทธเจ้า) อวตารมาอยู่ในจิตมหาบริสุทธิ์ของท่าน
- พระเยซูเป็นมนุษย์ ที่พระเจ้าที่เป็นพระบุตร หรือพระมหาโพธิสัตว์อรหันต์ อวตารมาอยู่ในจิตมหาบริสุทธิ์ของท่าน

พระเยซูผู้นี้คือ พระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ปางทานบารมี พระอชิตะ หลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด หลวงพ่อโต เป็นพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์ ปางทำบารมีอื่นๆ

ถ้าต้องพึ่งตัวเอง  ก็ต้องฝึกถึงขั้นเป็นอรหันต์นั่นแหละ  จึงจะมีสิทธิ์เข้าเมืองของพระเจ้าได้  โสดาบัน สกิคาทามี อนาคามี  ก็ยังเข้าเมืองของพระเจ้าไม่ได้เลย