จากหัวข้อของคุณ
Violetmay: ทำไมเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แล้วจึงยังรับกรรมนั้นอยู่ต่อไป???
ตอบ
กรรมเป็นเรื่องของลูกหนี้กรรม และ เจ้าหนี้กรรม สมมุติว่ากรรมนั้นคือคุณไปฆ่าคนตายมา
เจ้าหนี้กรรม = เจ้ากรรมนายเวร
แม้ว่าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แล้ว ผลในปรโลกจะไม่มี ถ้า...
1. เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แล้ว
2. ตัวเราผู้ก่อกรรมต้องทำการก้าวล่วงบาปกรรมนั้นด้วย คือ ต้องสำนึกบาป และตั้งใจแน่นแน่ว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก ถ้าคุณสำนึกเล่นๆ และไม่มีความจริงใจและตั้งใจว่าจะไม่ก่อกรรมแบบนั้นอีก คุณก็ต้องรับกรรมในปรโลก-ในอบายภูมิหรืออาจจะในนรก
ส่วนผลกรรมในโลกมนุษย์นั้น คุณหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไงก็ต้องรับ เพราะเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรมบนโลกของวัตถุ อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แล้ว และคุณทำการก้าวล่วงบาปกรรม(สำนึกบาป และตั้งใจแน่นแน่ว่าจะไม่ทำบาปนั้นอีก) ผลกรรมจะเบาบางลงมาก กลายเป็นเศษกรรมไป
ตัวอย่าง
เมื่อพระองคุลิมาล (แม้ว่าจะสำนึกผิดแบบเด็ดขาด และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ฆ่าคนอีก) แต่ท่านก็ยังต้องได้รับผลกรรมทางโลกอยู่บ้างแต่น้อยมาก คือ เมื่อท่านไปบิณฑบาต ท่านได้เข้าไปบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี ถูกประชาชนขว้างปาด้วยก้อนอิฐ ก้อนหิน และท่อนไม้ จนศีรษะแตก เลือดไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ขาดวิ่น
= ต้องรับเศษกรรมด้วย เพราะเราไปทำกับขันธ์ 5 (กาย) คนอื่น จึงต้องรับผลกรรมในขันธ์ 5(กาย)ของเราตามกฎแห่งกรรม แต่ทว่ากรรมนั้นเบาบางลงมาก เป็นเศษกรรม
พอมาเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า
"กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" (รับเศษกรรมไปแล้วจากการโดนทำร้ายบนโลก จึงไม่ต้องรับกรรมใดๆอีกในปรโลก)
สรุป
กรรมในปรโลก ในนรกและอบายภูมิไม่ต้องรับ ถ้าเราสำนึกผิดแบบเด็ดขาด และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ทำบาปเช่นนั้นอีก + เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้แล้ว ถ้าเขาไม่อโหสิกรรมให้ เราก็ต้องรับเศษกรรม เช่น ควรตกลงนรก 100 ปี ก็อาจจะเหลือแค่เป็นเปรต 1 สัปดาห์เป็นต้น
ส่วนกรรมบนโลกที่เราทำกับขันธ์ 5 หรือกายและจิตของเขา เราต้องรับ แต่จะรับแค่เศษกรรม เช่น องคุลิมาล เป็นต้น ฆ่าคนมา 999 คน โดนแค่รุมประชาทัณฑ์นิดหน่อย
เอาตัวอย่างหลวงพ่อจรัญไปอีกตัวอย่าง
ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อจรัญต้องใช้หนี้กรรมที่ไปตอนไก่ผิดๆ ทำให้พวกไก่ไส้ไหลเป็นน้ำเหลือง ไส้เน่าตายไปวันละหลาย ๆ ตัว จนตายหมดเล้า ผลกรรมได้ตามสนองหลวงพ่อจรัญในปี ๒๕๑๑ ถ่ายออกมาเป็นเลือดและน้ำเหลืองนานอยู่ ๓ ปี
พออีก 11 ปีต่อมา ผลกรรมที่ทำ ก็ยังไม่สิ้นสุด ทำให้ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ ไส้ติ่งของหลวงพ่อจรัญเกิดแตกขึ้นมา หลวงพ่อจรัญสลบไป แต่ท่านได้กำหนดจิต หายใจทางสะดือ อยู่ในท่าสมาธิ ทุกคนคิดว่าหลวงพ่อจรัญมรณภาพแล้ว พอหลวงพ่อจรัญได้สติ ก็แข็งใจตั้งจิตอธิษฐานว่า
“พ่อไก่ แม่ไก่ทั้งหลายเอ๋ย เจ้าจงมารับเมตตาจากข้าพเจ้า ที่ตอนเจ้าไม่ได้เจตนาให้เจ้าตาย เป็นเพราะไม่ได้ศึกษาให้ถ่องแท้ก่อน ถ้าข้าพเจ้ารอดตายจะทำกรรมฐานไปให้ จงอย่าจองเวรจองกรรมกับเราเลย ให้อภัยเราเถิด”
เจ้าจงมารับเมตตาจากข้าพเจ้า = หลวงพ่อจรัญแผ่เมตตาอุทิศกุศลจากกรรมฐานของท่านให้พวกวิญญาณไก่
ถ้าข้าพเจ้ารอดตายจะทำกรรมฐานไปให้ แล้วหลวงพ่อก็ทำกรรมฐานอุทิศบุญไปให้จริง
เมื่อสิ้นคำอธิษฐาน ก็อุจจาระ ปัสสาวะ ไหลออกมา ทั้งเลือด ทั้งหนองเหม็นคลุ้งไปหมด หมอให้น้ำเกลือและฉีดยาให้ แต่เพราะหลวงพ่อจรัญ เป็นนักกรรมฐาน ผลบุญที่ท่านแผ่เมตตาออกไปให้พวกวิญญาณไก่ ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่าน จึงมีมหาศาลมาก พวกวิญญาณไก่ ซึ่งเป็นเจ้ากรรมนายเวรของท่าน จึงพอใจและให้อภัยท่าน ไม่ผูกพยาบาทอีกต่อไป
คืนนั้นหลวงพ่อจรัญ ได้ทำกรรมฐานส่งผลบุญให้พวกไก่ต่อ ตามที่ท่านรับปากไว้ พวกไก่ได้มาเต็มไปหมดและบอกหลวงพ่อจรัญว่า “นี่เป็นท่านนะ ถ้าไม่ใช่ท่าน จะเอาให้ตาย” หลังจากนั้น หลวงพ่อจรัญก็หายวันหายคืนจนเป็นปกติ
0 comments:
แสดงความคิดเห็น