ศาสนาพุทธเป็นเรื่องของจิตทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์นรกจนถึงเป็นพระอรหันต์
ที่อยู่ในพุทธเกษตรเมืองพระนิพพาน หรือบางส่วนอาจจะเข้าสู่ปรินิพพานไปแล้ว
ก็เข้าไปเป็นจิตอีก พวกเราเริ่มต้นจากจิตไม่มีกาย(ปรินิพพาน)
แล้วเราก็แปลงร่างไปเป็นจิตมีกาย สุดท้ายก็กลับไปเป็นจิตไม่มีกายอีก(ปรินิพพาน)
1. จากภาวะเริ่มต้น (จิตว่างสงบ) คือ "ธรรม, นิพพานจิต, ปรินิพพาน" จิตว่างสงบตัวนี้ ไม่มีการสร้างร่างกายหรือรูปใดๆ เป็น อรูป
2. ภาวะต่อมา ธรรม(จิตว่างสงบ) แต่ไม่สูญ ได้สร้างกายขึ้นมา เรียกว่า "ธรรมกาย หรือ กายธรรม" ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในสมาธิ(ขั้นนิโรธ) ธรรมกาย = จิต ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน แต่เมื่อธรรมกายไม่ค่อยว่าง....
3. ธรรมกาย(กายธรรม)จึงจำเป็นต้องสร้างกายออกมาอีกกาย เรียกว่า "สัมโภคกาย หรือ กายทิพย์อมตะ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์" = พระเจ้าที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกและจักรวาล และเรื่องของมนุษย์และสรรรพจิตสังขารต่างๆ
4. มนุษย์และสรรรพจิตสังขารต่างๆ = จิตที่แปดเปื้อนด้วยอวิชชา
- กายมนุษย์ = จิต(สังขาร)ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน
- ส่วนสรรพจิตอื่น เช่น เทวดา ยักษ์ พรหม อสูร นาค เปรต สัตว์นรก ฯลฯ พระพุทธเจ้าเรียกว่า "นามกาย หรือ อทิสมานกาย" นามกาย หรือ อทิสมานกาย ก็เป็นจิต(สังขาร)ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน เพียงแต่ว่าจิตสังขารของพวกนามกายอยู่ในปรโลกเท่านั้น
ปรมัตถธรรม จำแนกธรรมออกเป็น ๔ คือ จิต, เจตสิก, รูป, นิพพาน ทุกตัวก็เป็นจิตหมด แต่ทำหน้าที่ต่างกัน
จิต = ตัวรู้ หรือ ผู้รู้ = จิตปภัสสร =สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
เจตสิก ทำหน้าที่ปรุงแต่ง = ตัวสังขาร
รูป = กายของมนุษย์ในโลก, กายของจิตสังขารในปรโลก, และกายของจิตมหาบริสุทธิ์ที่อยู่ในเมืองนิพพาน(พุทธเกษตร)...ซึ่งคือ กายของธรรม(กายธรรม หรือธรรมกาย) และ กายทิพย์ของพวกสัมโภคกาย
นิพพาน = จิตมหาบริสุทธิ์ หรือ ธรรม = อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
สรุป
เรื่องจิตที่ผมเขียนไว้นี้ เป็นความรู้สูงสุดจริงๆ แม้แต่พระอรหันต์ท่านก็ไม่รู้ลึกถึงระดับนี้ ทุกตัวไม่ว่าจะเป็นธรรม, เป็นธรรมกาย, เป็นสัมโภคกาย, เป็นกายมนุษย์(นามรูป), เป็นนามกายหรืออทิสมานกายในทุกระดับ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นจิตทั้งนั้น
จิตที่ละเอียดบริสุทธิ์ที่สุด = ธรรม(นิพพานจิต), ธรรมกาย และ สัมโภคกาย รวมทั้งจิตผู้รู้(จิตปภัสสร หรือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ)
จิตที่ละเอียดไม่ละเอียดที่สุด จนถึงจิตไม่ละเอียด ถึงขั้นเป็น จิตหยาบที่สุด = จิตอนาคามี ลงมาถึงจิตของพรหม จิตของเทวดาแต่ละชั้น และก็มีเป็นจิตมนุษย์ ไล่ลงไปถึงจิตของเปรต และจิตของสัตว์นรก
พวกเราเริ่มต้นจากจิตละเอียดบริสุทธิ์ที่สุดที่ไม่มีกาย(ปรินิพพาน) กลายเป็นจิตมีกายชั่วกัลปาวสาน แต่สุดท้ายแล้ว พวกเราก็กลับไปเป็นจิตไม่มีกายอีก(ปรินิพพาน) หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจึงบอกว่า" "นิพพานคือกลับบ้านเก่า" ส่วนหลวงพ่อสดกล่าวว่า "ช้าเร็วพวกเราก็ต้องเข้านิพพานกันหมด"
1. จากภาวะเริ่มต้น (จิตว่างสงบ) คือ "ธรรม, นิพพานจิต, ปรินิพพาน" จิตว่างสงบตัวนี้ ไม่มีการสร้างร่างกายหรือรูปใดๆ เป็น อรูป
2. ภาวะต่อมา ธรรม(จิตว่างสงบ) แต่ไม่สูญ ได้สร้างกายขึ้นมา เรียกว่า "ธรรมกาย หรือ กายธรรม" ซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในสมาธิ(ขั้นนิโรธ) ธรรมกาย = จิต ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน แต่เมื่อธรรมกายไม่ค่อยว่าง....
3. ธรรมกาย(กายธรรม)จึงจำเป็นต้องสร้างกายออกมาอีกกาย เรียกว่า "สัมโภคกาย หรือ กายทิพย์อมตะ หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์" = พระเจ้าที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของโลกและจักรวาล และเรื่องของมนุษย์และสรรรพจิตสังขารต่างๆ
4. มนุษย์และสรรรพจิตสังขารต่างๆ = จิตที่แปดเปื้อนด้วยอวิชชา
- กายมนุษย์ = จิต(สังขาร)ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน
- ส่วนสรรพจิตอื่น เช่น เทวดา ยักษ์ พรหม อสูร นาค เปรต สัตว์นรก ฯลฯ พระพุทธเจ้าเรียกว่า "นามกาย หรือ อทิสมานกาย" นามกาย หรือ อทิสมานกาย ก็เป็นจิต(สังขาร)ที่มีกายหรือรูปไว้ใช้งาน เพียงแต่ว่าจิตสังขารของพวกนามกายอยู่ในปรโลกเท่านั้น
ปรมัตถธรรม จำแนกธรรมออกเป็น ๔ คือ จิต, เจตสิก, รูป, นิพพาน ทุกตัวก็เป็นจิตหมด แต่ทำหน้าที่ต่างกัน
จิต = ตัวรู้ หรือ ผู้รู้ = จิตปภัสสร =สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ
เจตสิก ทำหน้าที่ปรุงแต่ง = ตัวสังขาร
รูป = กายของมนุษย์ในโลก, กายของจิตสังขารในปรโลก, และกายของจิตมหาบริสุทธิ์ที่อยู่ในเมืองนิพพาน(พุทธเกษตร)...ซึ่งคือ กายของธรรม(กายธรรม หรือธรรมกาย) และ กายทิพย์ของพวกสัมโภคกาย
นิพพาน = จิตมหาบริสุทธิ์ หรือ ธรรม = อนุปาทิเสสนิพพานธาตุ
สรุป
เรื่องจิตที่ผมเขียนไว้นี้ เป็นความรู้สูงสุดจริงๆ แม้แต่พระอรหันต์ท่านก็ไม่รู้ลึกถึงระดับนี้ ทุกตัวไม่ว่าจะเป็นธรรม, เป็นธรรมกาย, เป็นสัมโภคกาย, เป็นกายมนุษย์(นามรูป), เป็นนามกายหรืออทิสมานกายในทุกระดับ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นจิตทั้งนั้น
จิตที่ละเอียดบริสุทธิ์ที่สุด = ธรรม(นิพพานจิต), ธรรมกาย และ สัมโภคกาย รวมทั้งจิตผู้รู้(จิตปภัสสร หรือ สอุปาทิเสสนิพพานธาตุ)
จิตที่ละเอียดไม่ละเอียดที่สุด จนถึงจิตไม่ละเอียด ถึงขั้นเป็น จิตหยาบที่สุด = จิตอนาคามี ลงมาถึงจิตของพรหม จิตของเทวดาแต่ละชั้น และก็มีเป็นจิตมนุษย์ ไล่ลงไปถึงจิตของเปรต และจิตของสัตว์นรก
พวกเราเริ่มต้นจากจิตละเอียดบริสุทธิ์ที่สุดที่ไม่มีกาย(ปรินิพพาน) กลายเป็นจิตมีกายชั่วกัลปาวสาน แต่สุดท้ายแล้ว พวกเราก็กลับไปเป็นจิตไม่มีกายอีก(ปรินิพพาน) หลวงพ่อฤๅษีลิงดำจึงบอกว่า" "นิพพานคือกลับบ้านเก่า" ส่วนหลวงพ่อสดกล่าวว่า "ช้าเร็วพวกเราก็ต้องเข้านิพพานกันหมด"
0 comments:
แสดงความคิดเห็น