ขอเสนอกระทู้เรื่องบุญ และการแผ่เมตตาอุทิศกุศลให้วิญญาณบ้าง

1.. จุดมุ่งหมายในการทำบุญมี 2 อย่าง

  1.  ทำบุญเพื่อให้ชีวิตในภายหน้า  อาจจะ 10-50 ปีดีกว่าปัจุบัน  แต่ถ้าด่วนตายเสียก่อน  ก็ไปรับผลตอบแทนในปรโลก  และโลกในอนาคต

ผลตอบแทนการทำบุญมันช้า  ไม่เหมือนกับทำบาป  ผลตอบแทนมันเร็ว   แต่เวลาผลบุญผลบาปมันมา  มันจ่ายดอกเบี้ยมหาศาล

  2. ทำบุญเพื่อให้ได้นิพพาน  ไม่ต้องมาเกิดในโลกใบนี้อีก  เพราะชีวิตในโลกใบนี้  ไม่มีความสุขจริงๆอยู่  ทุกอย่างมีแต่สุขปลอมๆ แล้วก็กลับมาทุกข์อีก  เข้านิพพานเป็นการเข้าไปในภพภูมิที่ไม่มีทุกข์อีกเลย   เพราะสุขทุกข์ในโลกไม่ว่าจะสุขทุกข์ใดก็ตาม ล้วนอยู่ที่ใจของเราไปยึดติดบ้าน เงิน ลูกเมีย ยาบ้า ฯลฯ  พอเราได้เสพมัน  เราก็มีสุขชั่วคราว  พอไม่ได้เสพก็มีทุกข์ชั่วคราว

แท้จริง...ถ้าใจของเราไม่ไปยึดติดอยู่กับอะไรแล้ว  ทุกขณะเราจะมีความสุข  คือ มีความว่างเป็นอารมณ์  ไม่ใช่มีกิเลส ตัณหาเป็นอารมณ์  สุขอย่างนี้คือสุขบริสุทธิ์

2..

อ้างถึง

บุญ คือความสุข ทำบุญเมื่อใดสุขใจทุกที.
บาป คือความทุกข์ ทำบาปเมื่อใดใจหมองทุกที.

waiwai โพสต์

ตอบ

ถ้าคุณเอาเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง  มันหาเป็นเช่นที่คุณกล่าวไม่  ไม่มีใครทำบาปแล้วใจหมองหรอกครับ  ตอนเราทำบาป  ใจมันต้องเป็นสุขจากการทำบาปซิ  ไม่ยังงั้นใครจะไปทำบาป  เพราะบาปรสหอมหวาน เหมือนน้ำผึ้ง  แต่พอผลของบาปตามมาทัน  นั่นแหละที่มันจะเหมือนเราดื่มยาพิษเข้าไป


3.. พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านก็บอกว่า

"การอุทิศส่วนกุศลก็เหมือนกับให้เขา เขาก็โมทนา แต่บุญของเราก็ยังอยู่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้หายไปไหน"

ตอบ

ท่านอธิบายอย่างนั้นง่ายเกินไป  ความจริงบุญอยู่ไม่ครบครับ  เพราะบุญเราให้เขาไปหมด  แต่เขาได้รับอาจจะไม่มาก  เหมือนกับบุญเราให้เขา 1,000 กก.  จิตของเขารับได้เต็มที่ 0.3 กก  บุญเราก็เหลืออยู่ 999.7 กก.  แต่เพราะใจเราทำบุญกุศลให้เขา  บุญที่ขาดไป  เลยงอกขึ้นมาใหม่แทน  มาเติมใหม่ให้เต็ม 1000 กก.  พร้อมๆกับเติมบุญใหม่เพิ่มเข้าไปอีกอาจจะ 100 กก. ไม่ใช่ 0.3 กก.นะครับ  เพราะบุญบาปดอกเบี้ยอาจจะ 1,000 -1,000,000% ก็ได้  ขึ้นอยู่กับจิตของเราตอนให้คิดเสียสละช่วยเขาเต็มที่หรือไม่

4.. เล่าเรื่องวิญญาณรายสุดท้ายที่ผมเพิ่งเจอหลายวันก่อน และการแผ่เมตตาอุทิศบุญกุศลให้วิญญาณ

ผมมีประสบการณ์อุทิศบุญกุศลให้วิญญาณมาเป็นหมื่นครั้ง  ผมบอกเลยว่า  แม้เราจะไม่รู้ชื่อ  ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย  ถ้าใจคิดจะให้กุศลวิญญาณดวงนั้นซะอย่าง  เขาก็ได้รับส่วนบุญ

ตัวอย่าง เมื่อ 2 คืนก่อน  ผมเปิดรายการผี(ช่อง 5 มั๊ง) เป็นตอนที่ อ.เจน ญาณทิพย์  บอกให้เขาดึงผ้ายันต์ที่สะกดดวงวิญญาณไม่ให้ออกจากห้อง ทิ้งไป  ผมก็ดูไปเรื่อย  ใจก็นึกสงสารวิญญาณหญิงคนนี้มาก  แล้วผมก็ดูรายการผีแบบนี้บ่อยมาก (เพราะวิญญาณเขาสื่อมา)  พอจบรายการ  ผมก็ช่วยแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลแก่ดวงวิญญาณเหล่านั้นประจำ  วิญญาณเหล่านั้นก็ชอบมาหาผมเพื่อขอบคุณผมประจำเหมือนกัน  (คนดูหนังผี หรือ รายการผี  แม้ไม่ใช่รายการสด  จิตของผีเขาก็รู้นะว่า เราดูเขาอยู่  ถ้าเราเป็นคนที่ใช่เลย... ตรงกับจุดประสงค์ของเขา  เขาจะมาหาทันที... จิตสื่อถึงจิตได้)

วิญญาณหญิงคนนั้นมาให้ผมเห็นในนิมิตถึง 3 ครั้ง  แล้วผมก็เย็นที่บ่าและไหล่  พอเข้าห้องน้ำอาบน้ำ  เธอก็ยังตามมาอีก  ให้ผมเห็นในนิมิตอีก  ผมรู้ในจิตว่าเธอขอให้ผมช่วย  เหมือนกับเธอจะพูดทำนองว่า  มีผมคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยเธอได้  เพราะพลังจิตด้านบุญผมแรงมาก... อะไรทำนองนี้

อนึ่ง  รายการนั้นไม่มีหน้าหญิง ที่อยู่ในห้องซึ่งเธอโดนสะกดวิญญาณให้ดูนะครับ  แต่ผมเห็นเธอได้อย่างไรถึง 4 ครั้งในนิมิต  แต่เนื่องจากผมกำลังอาบน้ำอยู่  ผมเลยบอกให้เธอใจเย็นๆ รอไม่เกิน10 นาที  เดี๋ยวจะแผ่เมตตาปลดปล่อยวิญญาณเธอไปสู่ภพภูมิที่ดีขึ้นเอง

พอผมอาบน้ำเสร็จ  ก่อนนอนผมก็จะนั่งสมาธิทุกวัน  พอเข้าสู่ฌานที่ลึกแล้ว  ผมก็แผ่เมตตาอุทิศบุญกุศลทั้งหมดที่ผมทำมาในชาตินี้  ให้กับวิญญาณหญิงคนนี้ทั้งหมด  ผมเห็นอยู่ในจิตว่า เธอดีใจและปลาบปลื้มใจมากๆ  

ผมรู้ล่วงหน้าด้วยว่า  เดี๋ยวพอผมหลับ  เธอจะต้องมาขอบคุณผมแน่นอน  เหมือนกับวิญญาณดวงอื่นๆ  เพราะดีใจขนาดนั้น ไม่มาคงไม่ได้  ผมจึงต้องชิงตัดหน้าเธอก่อน  คือบอกเธอไปตรงๆเลยว่า  ไม่ต้องมาหาแล้วนะ  จะนอน  ไม่อยากถอดจิตออกไปคุยด้วย  ถ้าพลังบุญของลุง จากการแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้หนูไม่พอ  หนูก็ค่อยมาหาใหม่พรุ่งนี้นะ  แต่ถ้าพลังบุญนั้น พอปลดปล่อยหนูออกจากภูมิที่ทุกข์นี้แล้ว  หนูก็ไปได้เลย  ไม่ต้องเกรงใจ  ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรทั้งนั้น

ผมกำลังอยู่ในกรรมฐาน  แต่รู้ในจิตเลยว่าพลังกรรมที่ลงโทษเธอสลายไปแล้ว  และเธอก็ไปแล้ว เรื่องนี้รู้เห็นได้เองเฉพาะตัว

อ้อ! เวลาวิญญาณใดๆมาหาเรา  เขาจะติดต่อกับเราแบบมนุษย์ไม่ได้ เขาอาจติดต่อเรา  โดยให้เรารับรู้ได้จากการเย็นหรือขนลุกที่หลัง  บ่า หรือ คอ  บางทีก็ทำให้ไฟฟ้าในที่ๆเราอยู่  และมือถือของเราผิดปกติอะไรบางอย่าง  (วิญญาณมีพลังคล้ายไฟฟ้าสถิต หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่)  หรือไม่วิญญาณนั้นก็มาทางความฝัน  

แต่ถ้าเราพอติดต่อได้บ้าง  เขาก็ใช้วิธีอื่นๆ  เช่น ให้ผมเห็นภาพในจิต และรู้บ้างว่าเขากำลังพูดกับเราเรื่องอะไร   หรือคุยกับอ.เจน ญาณทิพย์ อะไรทำนองนี้