A A

21 มีนาคม 2558

ลำดับชั้นของอุเบกขา

อ้างจาก: Absolute

ช่างมัน แปลว่า อุเบกขา

ตอบ

   - ช่างมัน ถ้ามีกาย(รูป)อยู่ และไม่ใช่ถาวร แปลว่า อุเบกขา ตายไปเป็นรูปพรหม  
   - ช่างมัน ถ้าไม่มีกาย(รูป)อยู่ และไม่ใช่ถาวร ตายไปเป็น อรูปพรหม(นิพพานพรหม)
   - ช่างมัน ถ้ามีกาย(รูป)อยู่ และ ใช่ถาวร ตายไปเข้าสู่ นิพพาน(ธรรมกายและสัมโภคกาย)  
   - ช่างมัน ถ้าไม่มีกาย(รูป)อยู่ และ ใช่ถาวร ตายไปเข้าสู่ ปรินิพพาน


อุเบกขาเป็นหนึ่งในพรหมวิหาร หลักธรรมนี้ได้แก่
เมตตา   ความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข
กรุณา   ความปราถนาให้ผู้อื่นพ้นทุกข์
มุทิตา   ความยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
อุเบกขา   การรู้จักวางเฉย


อุเบกขา - การรู้จักวางเฉย หมายถึง การวางใจเป็นกลางเพราะพิจารณาเห็นว่า ใครทำดีย่อมได้ดี ใครทำชั่วย่อมได้ชั่ว ตามกฎแห่งกรรม คือ ใครทำสิ่งใดไว้สิ่งนั้นย่อมตอบสนองคืนบุคคลผู้กระทำ เมื่อเราเห็นใครได้รับผลกรรมในทางที่เป็นโทษเราก็ไม่ควรดีใจหรือคิดซ้ำเติมเขาในเรื่องที่เกิดขึ้น เราควรมีความปรารถนาดี คือพยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ในลักษณะที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ดังนั้น ที่ผมเขียนว่า

- ช่างมัน ถ้ามีกาย(รูป)อยู่ และไม่ใช่ถาวร แปลว่า อุเบกขา ตายไปเป็น รูปพรหม  

ในที่นี้  ผมไม่ได้หมายถึง อุเบกขาที่เป็นหลักธรรมสำหรับทุกคน  แต่ผมกำลังพูดถึงอุเบกขาของพระพรหม ผู้มีจิตประเสริฐและบริสุทธิ์ ในพรหมวิหาร 4 อยู่นะครับ

พรหมในชั้นโลก  หรือพรหมชั้นโลกียะ  การเข้าเป็นพรหมได้  เวลาตายต้องทรงอยู่ในฌานใดฌานหนึ่ง  ถ้าอยู่ระดับ 4 หรือต่ำกว่าลงมา  ก็จะไปเกิดเป็นรูปพรหม

- ช่างมัน ถ้าไม่มีกาย(รูป)อยู่ และไม่ใช่ถาวร ตายไปเป็น  อรูปพรหม(นิพพานพรหม)

อย่างไรก็ตาม  ถ้าเวลาตายทรงอยู่ในฌาน 5-8  ซึ่งเป็นอรูปฌาน ก็จะไปเกิดเป็นอรูปพรหม  ส่วนที่ผมเขียนว่า:

- ช่างมัน ถ้ามีกาย(รูป)อยู่ และ ใช่ถาวร ตายไปเข้าสู่นิพพาน(ธรรมกายและสัมโภคกาย)

นั่นเป็นพรหมโลกุตตระ  ชั้นเหนือโลกหรือชั้นอรหันต์ไปแล้วนะครับ  กาย(รูป)ของพรหมในชั้นอรหันต์(โลกุตตระ)  ทั่วโลกเรียกว่า 
"พระเจ้า หรือ องค์พระผู้เป็นเจ้า"  ส่วนชาวพุทธเรียกกันโดยทั่วไปว่า "พระวิสุทธิเทพ"  ยกเว้นพระอรหันต์ในระดับตถาคต-พระพุทธเจ้าต่างๆเท่านั้นที่เรียกชื่อต่างออกไปหน่อยว่า "พระอดิเทพ"  เพราะเป็นผู้ตรัสรู้พระธรรม

"พระอดิเทพ" ในศาสนาอื่นเรียกว่า 
"พระบิดา"  พระอรหันต์ในศาสนาคริสต์เรียกว่า "พระบุตร" (พระเจ้าที่เป็นพระบุตร)  พระอรหันต์ในศาสนาอิสลามเรียกว่า "รอซูล" ผู้แทนของพระเจ้า หรือ ผู้แทนของพระอัลเลาะห์

อาดัมตอนแรกที่จิตยังไม่โดนซาตานหลอก ก็คือผู้แทนของพระเจ้าที่เป็นอรหันต์(พระบุตร)  เมื่อจิตเสียความบริสุทธิ์ให้ซาตานแล้ว  อาดัมก็กลายเป็นแค่ ผู้แทนของพระเจ้า(มนุษย์คนหนึ่ง)บนผืนแผ่นดินโลกเท่านั้น  เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน  พระพุทธเจ้าตรัสว่า  "ปภสฺสรมิทํ  ภิกฺขเว  จิตฺตํ ตญฺจ  โขอาคนฺตุเกหิ  อุปกฺกิเลเสหิ  อุปกฺกิลิฏฐํ  "  แปลว่า  "ภิกษุทั้งหลายจิตนี้ปภัสสร ก็จิตนั้นแล  ถูกอุปกิเลสทั้งหลายที่จรมาทำให้เศร้าหมองแล้ว"

แสดงว่า  จิตเดิมแท้ เริ่มต้นของพวกเราเหล่ามนุษย์ทุกคน  เป็นเหมือนเช่น "อดัม" คือ จิตของพวกเราดวงนี้ เริ่มต้นเริ่มแรกเลย  เป็นจิตปภัสสร อันขาวบริสุทธิ์ ผุดผ่อง แต่ว่าดวงจิตของเราไปเศร้าหมอง  เสียความบริสุทธิ์ด้วยกิเลส(พญามาร)ที่จรมา  พญามารมันจะจรมาเฉยๆก็ไม่ได้  มันดันเสือกมาลวงเรา  ให้เราไปเป็นพวกมัน  เป็นสมุนของมันเสียอีก  มันชั่วคนเดียวไม่พอ  มาชักนำให้เราชั่วไปด้วย  ส่วนข้อสุดท้าย...


- ช่างมัน ถ้าไม่มีกาย(รูป)อยู่ และ ใช่ถาวร ตายไปเข้าสู่ปรินิพพาน

อันนี้เป็นจิตที่ว่างล้วนๆเลย  เป็นพุทธภาวะเริ่มแรกก่อนที่จะมีจิตที่อยู่ในกาย(รูป)  ด้วยเหตุนี้นิพพานจึงมี 2 แบบ

1. นิพพานแท้(ปรินิพพาน)  เป็นจิตที่ไม่มีการสร้างรูปหรือกายใดออกมา
2. นิพพานธรรมกาย และนิพพานสัมโภคกาย  ที่ต้องอยู่ด้วยกันเพราะธรรมกายซึ่งเป็นอายตนะนิพพาน  เอาแต่นั่งสมาธิชั้นสูงสุด(นิโรธ)  ไม่ค่อยสุงสิง  พูดคุยอะไรกัน  จึงต้องเนรมิตกายออกมาอีกตัว  ซึ่งเป็นกายทิพย์บริสุทธิ์(พระวิญญาณบริสุทธิ์) หรือสัมโภคกาย  เพื่อออกมาสมาคม สุงสิง  พูดคุยกัน

เราจะอยู่เปล่าๆเป็นจิตว่างๆชั่วนิรันดรทำไมล่ะ  เล่นเกมส์ค้นหาตัวเองสักชั่วกัลปาวสานก็ไม่เห็นเป็นอะไร  มันก็ยังน้อยกว่าชั่วนิรันดร

0 comments:

แสดงความคิดเห็น