A A

29 มีนาคม 2558

การดับทุกข์ในทางพุทธศาสนา คือ ดับความคิดนึกอันมาจากกิเลสตัณหา

ความคิดนึก อันมาจากกิเลสตัณหา ที่เรียกว่า "การคิดปรุงแต่ง"  นั่นแหละเป็นเหตุที่ทำให้เราทุกข์  การดับทุกข์คือ ดับความคิดนึกอันมาจากกิเลสตัณหา

โคตมะพระพุทธเจ้า... พระบรมศาสดาแห่งพระพุทธศาสนา...  เรียกตัวของท่านเองว่า 
"พุทธะ" แปลว่า  ผู้ตรัสรู้, ผู้ตื่นแล้ว, ผู้เบิกบานแล้ว  ส่วนสาวก ผู้ปฎิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธะ จนบรรลุธรรมสูงสุดเป็นพระอรหันต์ เรียกว่า "อนุพุทธะ"  พวกท่านทั้งหมดล้วนเป็น ผู้รู้แล้ว เป็นผู้ตื่นแล้ว เป็นผู้เบิกบานแล้ว
..แล้วพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกรู้อะไร ตื่นจากอะไร แล้วเบิกบานจากอะไร?


ตอบ  พวกท่านรู้แล้วว่า  ความคิดที่มีกิเลสตัณหา  เป็นตัวทำให้เกิดความทุกข์  

- สุขจากการได้รับสิ่งสนองกิเลสตัณหาคือ ทุกข์น้อย  เพราะหนีกฎแห่งอนิจจังไม่ได้  ในที่สุดก็ต้องต้องเสียสุขอันนั้นไป

- ทุกข์จากการไม่ได้รับสิ่งสนองกิเลสตัณหาคือ ทุกข์มาก  ซึ่งทุกข์มากก็หนีกฎแห่งอนิจจังไม่ได้เช่นเดียวกัน

สิ่งที่หล่อเลี้ยงมนุษย์ และสรรพจิตใน 31 ภพภูมิ คือ บุญและบาปเท่านั้น  ทุกข์น้อยเพราะตอนนั้นได้รับผลบุญเข้ามา  ส่วนทุกข์มากเพราะตอนนั้นได้รับผลบาปเข้ามา  

ถ้าจิตของเราว่างตลอด  ไม่เอาสิ่งภายนอกมาคิดนึกแล้ว  ตัดเรื่องราวภายนอกออกไปจากจิตเลย  ที่หลวงปู่ดูลย์เรียกว่า 
"จิตไม่ส่งออก"  ถ้าทำได้ถึงขั้นนั้น  จิตของเรา ก็จะเพียง... รู้ในสิ่งนั้น ก็สักแต่ว่ารู้  เห็นในสิ่งนั้นก็สักแต่ว่าเห็น  กระทบในสิ่งนั้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ  ก็สักแต่ว่ากระทบเท่านั้น  ผลลัพธ์ของมัน จะทำให้จิตของเราว่างเปล่าจากกิเลสตัณหา  และจะทำให้เราไม่มีความทุกข์อีกเลย  เพราะเรารู้แล้วว่า  สิ่งภายนอกที่เราประสพทั้งหมด  มันเกิดมาจากบุญบาปของเราทั้งสิ้น  เราไม่คิดนึกเรื่องเหล่านั้น  อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด...ช่างแม่งมันอย่างเดียว  แล้วความทุกข์มันจะเข้ามาได้อย่างไร

สรุป  ความคิดนึกอันมาจากกิเลสตัณหา ที่เรียกว่า "การคิดปรุงแต่ง" นั่นแหละเป็นเหตุที่ทำให้เราทุกข์ การดับทุกข์คือ ดับความคิดนึกอันมาจากกิเลสตัณหา 

0 comments:

แสดงความคิดเห็น