จิตปภัสสร(จิตของโลกุตตรชน) จิตสังขาร(จิตของโลกียชน)

อ้างถึง

คิดออกแระ
จิตมี 2 ประเภทอย่างที่ว่าจริงนั่นแหละ
จิตของโลกียชน หรือที่เรียกว่าโลกียบุคคล
กับจิตของโลกุตตรชน หรือจิตของพระอริยเจ้า
อิอิบินสูงลงไม่เป็นเลยนะท่าน
อนึ่ง จิตปภัสสร
หมายถึงปภัสสราพรหมรึป่าว
ภาษิตของพระพุทธเจ้าแจ่มแจ้งดีจริงหนอ ชัดเจนดีแล้ว
มัวแต่ไปเล่นไขว้คำอะไรอยู่ละท่านโจรา
นี่ถ้าไม่ใช่คนเคยปรารถนาพุทธภูมิ ฟังมิรู้ความนะเนี่ย ฮิฮิ

Huimin โพสต์

ตอบ

1. จิตของโลกียชน = จิตของผู้อยู่ใน 3 ภพ หรือ 31 ภพภูมิ 
2. จิตของโลกุตตรชน = จิตของพระอรหันต์เท่านั้น โสดา และอนาคา ยังอยู่ใน 31 ภพภูมิ 

จิตปภัสสร ที่หมายถึง ปภัสสราพรหม เป็นจิตเริ่มต้นของมนุษย์โลกอีกใบหนึ่ง หลังจากที่จักรวาลถูกทำลายครั้งสุดท้าย  พวกที่เป็นปภัสสราพรหมเลยลงมาเกิดเป็นมนุษย์  

ส่วนจิตปภัสสรที่พระพุทธเจ้าหมายถึง  คือ จิตเดิมแท้จริงเลย  ที่จิตอรหันต์เริ่มแรกหลังจากเล่มเกมส์ ซึ่งอรหันต์ที่จะลงมาเกิดใน 31 ภพภูมิ  ต้องโคลนนิ่งจิตอรหันต์ที่ไม่มีกิเลสตัณหาเจือปนออกมาคนละดวง  โดยที่ตัวโคลนนิ่งต้องกินยาลบความเป็นอรหันต์ของตนออกไปก่อน แล้วให้ตัวอรหันต์แปรสภาพเป็นมโนธรรมที่คอยชักนำตัวโคลนนิ่งให้เข้าสู่ความว่างเหมือนเดิม  แล้วก็ให้มีฝ่ายดี ฝายชั่ว คอยชักนำให้สรรพจิตทำดี หรือไม่ก็ทำชั่ว  เกมส์การเล่นมันต้องมี 3 ฝ่าย

หลักฐาน

พระพุทธเจ้าท่านจึงตรัสว่า “ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ” ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร “อาคนฺตุเกหิ อุปกิเลเสหิ อุปกิลิฏฺฐํ” แต่ว่าจิตนี้เศร้าหมองแล้ว เพราะกิเลสที่เป็นอาคันตุกะเข้ามา"
    
สรุป เราเสียความบริสุทธิ์ระดับอรหันต์ไปเพราะกิเลสที่เข้ามาชักชวนให้เราทำดีทำชั่วนั่นเอง

อ้างถึง

จิตที่แสดงอาการต่างๆ เรียกว่า จิตสังขารจ่ะ
จิตประภัสสร เป็นภวังค์จิตจ่ะ
ทำให้เกิดภพชาติ แดนนิพพาน จ่ะ 

dhammajak โพสต์

ตอบ

ผมยอมรับในส่วนนี้ที่คุณเขียนมา  แต่ประเด็นอื่นไม่ยอมรับ  อย่างไรก็ตาม  ตัวจิตสังขารก็เป็นภวังค์จิตเหมือนกัน  มนุษย์เราก็เป็นภวังค์จิต  แต่เราไปแยกตัวเองเป็นจิตสำนึก และ จิตใต้สำนึก  โดยจิตใต้สำนึก เป็นภวังค์จิต

ส่วนอรหันต์ที่เป็นสัมโภคกาย หรือกายทิพย์บริสุทธิ์ หรือพระวิญญาณริสุทธ์  พวกท่านคงสภาพทั้งจิตสำนึก และ จิตใต้สำนึก เอาไว้รวมกันในตัวเดียวเลย  เพื่อจะได้รับที่อยู่และธรรมชาติสุดยอดที่มนุษย์และเทวดาฝันหา  แต่ท่านก็อยู่ในวิมานแสนสุขไปอย่างนั้นแหละ  เพราะใจท่านว่างจากกิเลสตัณหาไปแล้ว  

ในขณะที่อรหันต์ที่เป็นธรรมกาย  ท่านก็นั่งสมาธิอยู่ในนิโรธเกือบตลอดเวลา  ท่านไม่สนใจอยู่แล้วว่านี่คือนิพพาน(สวรรค์นิรันดร)  ท่านจะอยู่ในนรกก็ได้เช่นกัน  เหมือนพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ มีเปลวไฟรอบตัวท่าน  แต่ท่านไม่คิดปรุงแต่งแล้ว  ไฟจึงแค่เป็นมายาสำหรับท่าน