การตัดกรรมทำได้จริงหรือ มีวิธีการดีกว่านี้ไหม ตัดให้หมดไปเลยได้ยิ่งดี

ขอเรียนถามท่านว่า...การทำพิธีเรียกเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนที่เข้าร่วมพิธีมา ในลักษณะเข้าร่างของคนๆนั้นเหมือนเข้าทรง เช่น ในภพชาติใดใครเคยเกิดเป็นสัตว์อะไรและเคยทำกรรมอะไรไว้กับใคร เช่น ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ กรรมอื่นๆ อีกมาก คนที่เข้าร่วมพิธีก็จะแสดงอาการเหมือนสัตว์นั้นๆ และพระที่ทำพิธีท่านก็จะขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร และตัดกรรมให้คนๆนั้น หลังจากนั้น คนๆนั้นก็จะมีอาการปกติเหมือนเดิม และทำมาค้าขึ้น ถูกหวยรวยเบอร์

คนที่รู้จักกันเขากลับมาเล่าให้ฟังว่าขณะทำพิธีเข้ามีอาการเหมือนพญานาคนอนบิดตัวและเลื้อยไปมาคล้ายพญานาค พระท่านก็ขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรให้ หลังจากนั้นอาการเหมือนพญานาคก็หายไป และเขายังต้องไปตัดกรรมอีก 2 ครั้ง เพราะเจ้ากรรมนายเวรยังไม่หมด

        ขอเรียนถามว่า...

(1) พิธีการดังกล่าวนี้สามารถตัดกรรมได้จริงหรือ 
(2) ถ้าเคยเกิดมา 10 ชาติ  100 ชาติ ก็ต้องไปร่วมพิธีอย่างนี้ตลอดหรือ  
(3) เป็นเรื่องจริงแน่แท้ที่เราต้องมีเจ้ากรรมนายเวร และจะมีวิธีใดอีกบ้างหรือไม่ที่เราจะขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรของเราในทุกภพทุกชาติได้ด้วยตนเอง
(4) การทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์ เจริญภาวนา และอุทิศบุญให้อย่างบ่อยๆนั้น เจ้ากรรมนายเวรจะรับบุญได้เพียงใด
       
       จะรอคำตอบจากคุณนะ

ตอบ

กรรมเป็นเรื่องของหนี้  เรียกว่า “หนี้กรรม” ซึ่งต้องมีทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้  

เจ้าหนี้กรรม = เจ้ากรรมนายเวร  ลูกหนี้กรรมในที่นี้ก็คือ คุณ  

ความจริงทุกคนหรือทุกจิต(สังขาร)ก็ล้วนเป็นเจ้าหนี้และเป็นลูกหนี้ของกันและกันทั้งนั้น
ตัดกรรม ถ้าทำให้สมบูรณ์จริงๆ  คุณต้องทำ 2 อย่าง 

1.  ตัวเองต้องสำนึกบาป และตั้งใจจะไม่ทำบาปเช่นนั้นอีกเด็ดขาด  อันนี้มีผลในปรโลก ทำให้เราไม่ต้องไปชดใช้บาปกรรมนั้นอีกแล้วในปรโลก

2.  เจ้ากรรมนายเวรของเราให้อภัยอโหสิกรรมให้  เพราะได้รับการใช้หนี้กรรมแล้ว  ถ้าเจ้ากรรมนายเวรไม่อยู่ที่นั่น  ก็จะมีเทพที่ทำหน้าที่เอากรรมดีกรรมชั่วที่เราเคยทำมาให้เรารับผล  แต่พระพุทธเจ้าสัญญากับพระพุทธเจ้าภาคดำว่า จะไม่เปิดเผยเรื่องราวของเทพที่ทำหน้าที่เหล่านั้น  พระองค์จึงพูดได้แต่เพียงว่า มันเป็น “กฎแห่งกรรม” กรรมที่เรารับผลในโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นสิทธิของเจ้ากรรมนายเวรของเราว่าจะให้อภัย  หรือจะให้เราต้องใช้หนี้กรรมต่อไป

ผมจึงขอตอบคุณว่า...

(1)  พิธีการที่คุณกล่าวมาสามารถตัดกรรมได้จริง ตัดกรรมที่ต้องรับโนโลกมนุษย์และในปรโลก2 ตัวเลย
  
(2)  ถามว่า “ถ้าเคยเกิดมา 10 ชาติ  100 ชาติ ก็ต้องไปร่วมพิธีอย่างนี้ตลอดหรือ”  ตอบว่า  ใช่...ก็ถ้าคุณไม่ชิงเข้านิพพานไปก่อน เสือกมาเกิดอีกเอง  เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรของเรา มันมีเยอะมาก  เขาก็ต้องมาทวงหนี้กรรมที่คุณติดค้างเขาอยู่  เหมือนพระพุทธเจ้าของเรา  ตอนที่ท่านเป็นพระเวสสันดร  ท่านก็เป็นอรหันต์แล้ว  แต่ท่านไม่ยอมเข้านิพพาน  ขออยู่เป็นพระโพธิสัตว์ในโลกต่อเพื่อสอนธรรมให้กับมนุษย์  เจ้ากรรมนายเวรของท่าน เช่น พระเทวทัต, ควายที่ท่านเคยให้อดน้ำ, ปลาที่ท่านไปเชียร์ชาวประมงให้ฆ่า และสะใจที่เขาฆ่าปลา พวกนี้ก็มาให้ท่านใช้หนี้กรรม

(3) “เป็นเรื่องจริงแน่แท้ที่เราต้องมีเจ้ากรรมนายเวร และจะมีวิธีใดอีกบ้างหรือไม่ที่เราจะขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรของเราในทุกภพทุกชาติได้ด้วยตนเอง”      
     - สมาทานศีล 5 คือการรับศีลมาเป็นข้อปฏิบัติ และต้องปฏิบัติจริง
     - แผ่เมตตา หรือทำบุญกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรที่ตามมาทวงหนี้กรรมไปเรื่อยๆ
     - ทำบุญใหญ่ๆหนีกรรมไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้านิพพานในชาติใดชาติหนึ่งเพราะบุญใหญ่หรือบาปใหญ่ต้องรับผลก่อน
   
ผมแนะนำวิธีที่ดีที่สุดให้ ไม่ต้องไปรับผลกรรมในชาติอื่นแล้ว  คือ

1.  ทำแบบที่พระพุทธเจ้าแนะนำให้ พระมเหสี(พระนางเวเทหิ)ของพระเจ้าพิมพิสาร  แม่ของพระเจ้าอชาติศตรู ทำ:  คือ บริกรรมเอ่ยพระนามพระอมิตาภพุทธเจ้าอย่างตั้งใจ 10 ครั้ง ถ้าให้ชัวร์ก็ทำวันละ 10 ครั้งสัก 3 วัน ขอให้พระอมิตาภพุทธเจ้ารับวิญญาณของคุณ เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตรแดนสุขาวดี  อันเป็นแดนที่ไม่มีความทุกข์ ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บ ไม่มีตาย 

2.  ทำแบบที่พระเยซูแนะนำให้ทำ คือ รับศีลมหาสนิท  โดยการรับประทานขนมปัง (สัญลักษณ์แทนพระกายของพระองค์) และเหล้าองุ่น (สัญลักษณ์แทนพระโลหิต)  เพื่อจะได้มีสิทธิเข้าไปอยู่ในพุทธเกษตรของพระเยซูคริสต์  ที่พระยะโฮวา(หรือพระไวโรจนะพุทธเจ้า)นิรมิตขึ้นมา ซึ่งก็เป็นแดนที่ไม่มีความทุกข์ ไม่มีเกิด ไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บ ไม่มีตาย เช่นกัน

3.  ทำแบบที่นบีโมฮัมหมัดแนะนำให้ทำ(ไปอยู่ในพุทธเกษตรของอัลเลาะห์) คือ  “ผู้ใดที่ศรัทธาต่ออัลลอฮฺและเราะสูลของพระองค์  ดำรงการนมาซและถือศีลอดในเดือนรอมฎอนแล้ว อัลลอฮฺก็จะให้เขาได้เข้าสรวงสวรรค์อย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะอพยพไปในหนทางของอัลลอฮฺหรือว่าจะปักหลังอาศัยอยู่ในถิ่นฐานเดิมที่เขาเกิดมาก็ตาม” = เข้าไปอยู่ในพุทธเกษตรของอัลเลาะห์ ซึ่งมี 100 ชั้น

“ทุก ๆ คนในหมู่พวกท่านที่อาบน้ำละหมาดอย่างดี แล้วกล่าวว่า “อัชฮะดุ อัลลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮฺ วะอันนะ มุหัมมะดัน อับดุลลอฮิ วะเราะสูลุฮฺ” (แปลว่า ฉันขอปฏิญาณว่าอัลลอฮฺเท่านั้นคือพระเจ้าผู้สมควรแก่การกราบไหว้อย่างแท้จริง และมุหัมมัดนั้นเป็นบ่าวและศาสนทูตของพระองค์) เขาจะได้รับการเปิดประตูสวรรค์ทั้งแปดให้ ซึ่งเขาสามารถจะเข้าทางประตูใด ๆ แล้วแต่เขาประสงค์  (บันทึกโดยมุสลิม หมายเลข 234)
        -  อัลเลาะห์ คือ พระติกขคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า   
        -  พระยะโฮวา คือ พระไวโรจนะสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเยซูคือ จิตหนึ่งของพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์
        -  โคตมะพระพุทธเจ้าของเรา คือ อวตารของพระอมิตาภพุทธเจ้า

อนึ่ง การจะเข้าไปในพุทธเกษตรของพระอมิตา พุทธเกษตรของพระเยซู และพุทธเกษตรของอัลเลาะห์  ผู้จะเข้าไปได้ต้องมีการสำนึกบาปในเรื่องใหญ่ๆ และต้องตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปแบบนั้นอีก  ตายแล้วไปทำไม่ได้  แบบพระเทวทัตทำการสำนึกบาปแล้ว  แต่ไม่ทันตั้งใจว่าจะไม่ทำบาปแบบนั้นอีก  ดันโดนธรณีสูบไปก่อน จึงต้องตกนรกยาวเลย

(4) “การทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์ เจริญภาวนา และอุทิศบุญให้อย่างบ่อยๆนั้น เจ้ากรรมนายเวรจะรับบุญได้เพียงใด”

ตอบ  ได้รับครับแต่ได้ไม่ครบทุกดวง...แต่เพราะคุณอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหมด บุญของคุณเหมือนข้าวจานเดียว ทะลึ่งไปให้ทุกคน แย่งกันตายห่าเลย  

ผมแนะนำให้คุณระบุไปเลยว่าให้เจ้ากรรมนายเวรเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น  เรื่องสุขภาพ เรื่องการเงิน การงาน ฯลฯ  พลังบุญของคุณยังไม่แกร่งกล้าพอ ไปใช้บทแผ่เมตตาของพระไม่ได้  เดี๋ยวผีหลอก 7 วัน 7 คืน ผมไม่รู้นะ เพราะผีที่ได้บุญจากคนอาจจะมีคนเดียวหรือไม่กี่คน  ผีอื่นเป็นแสนเป็นล้านดวงเขามาเก้อ  เขาก็ต้องกวนคุณแน่  เพราะคุณไปเรียกเขามารับส่วนบุญ แล้วเขาไม่ได้รับ