A A

21 มีนาคม 2558

จากพระเจ้าที่เป็นความว่างเฉยๆ กลายเป็นพระเจ้ามีกาย(รูป)ที่ภพภูมิต่างๆมองไม่เห็น

1.  ฮวงโป กล่าวว่า:

"จิตหนึ่งซึ่งปราศจากการตั้งต้นนี้
เป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้น และไม่อาจจะถูกทำลายได้
ไม่มีทั้งปรากฏการณ์ อยู่เหนือการเปรียบเทียบทั้งหมด" 


จิตหนึ่ง ที่ฮวงโปกล่าวข้างต้น ก็คือ จิตว่างเฉยๆที่ปิดswitchเจตสิก(การคิดนึกทุกอย่าง)  จิตหนึ่งตัวนี้จึงไม่มีทางมีกิเลสตัณหา และไม่มีทางติดกิเลสตัณหาใดๆทั้งสิ้น  ศาสนาพุทธเถรวาทเรียกจิตหนึ่งในสภาพที่เป็นความว่างเพียงอย่างเดียวว่า "ปรินิพพาน หรือ ธรรม"  ศาสนาพุทธมหายานเรียกว่า "พุทธภาวะเริ่มแรก"  หลวงปู่ดู่เรียกว่า "นิพพานจริงๆ, นิพพานแท้" แต่ไม่ใช่สูญนะแก

 หลวงปู่ดู่
"แดนพระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก

2.  จากปรินิพพาน(นิพพานจริงๆ)แต่ไม่ใช่สูญนะแก  ที่จิตว่างเฉยๆต้องอยู่กับความว่างชั่วนิจนิรันดร  จิตหนึ่งจึงเปล่าเปลี่ยว  เพราะจักรวาลล้วนไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่าอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้ ณ จุดใดจุดหนึ่งก่อนกาลเวลา จิตว่างเฉยๆตัวนี้จึงตัดสินใจเปิดswitchเจตสิก(การคิดนึกต่างๆ) เพื่อจะเริ่มเล่มเกมส์แก้เซ็ง  ไม่ต้องการอยู่เป็นจิตว่างเฉยๆชั่วนิรันดรอีกต่อไป

การที่จิตว่างเฉยๆตัวนี้ มีฤทธานุภาพอันไม่จำกัด เริ่มต้น...จิตว่างก็แปลงจิตตัวเองเป็นจิตว่างจากกิเลสตัณหาแทนการเป็นจิตว่างเฉยๆ  โดยการเปิดswitchเจตสิกให้มีการคิดนึกปรุงแต่งได้นั่นเองแต่การคิดนึกปรุงแต่งได้นี้ปราศจากกิเลสตัณหาทั้งสิ้น

 -   หลังจากจิตว่าง(ปรินิพพาน)จะได้แปลงจิตตัวเองเป็นจิตปราศจากกิเลสตัณหาแล้ว  จิตหนึ่งก็ยังเนรมิตกายหนึ่งเดียวออกมาให้จิตตนเองอยู่ด้วย เรียกว่า  อาทิพุทธะ  อันเป็น "ธรรมกายต้นกำเนิด หรือ อายตนะนิพพานต้นกำเนิดหนึ่งเดียว"  ต่อมา ธรรมกายหนึ่งเดียวที่มีฤทธานุภาพไร้ขอบเขต  ก็แยกร่างธรรมกายออกไปอีกมากมายก่ายกอง  นอกจากนี้  เมื่อมีกายแล้ว กายก็ต้องการที่อยู่ จึงต้องเนรมิตสร้างพุทธภูมิขึ้นมาเป็นที่อาศัยของกายธรรมเหล่านี้

- การที่จิตและเจตสิกใดๆ ปราศจากหรือว่างจากกิเลสตัณหา เป็นเหตุให้ตัว ธรรมกายเป็นอมตะ คงอยู่ตลอดกาลชั่วนิรันดร

3.   ธรรมกาย(อายะตนนิพพาน)องค์แรก  หลังจากเนรมิตสร้างธรรมกายอื่นๆมากมายก่ายกองออกมาแล้ว  ธรรมกายเหล่านั้น ต่างก็ไปนั่งในสมาธิสูงสุดขั้นนิโรธเกือบตลอดเวลา เหล่าธรรมกายจึงไปทำงานการสร้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาลเพื่อเล่นเกมส์ค้นหาตัวเองแก้เซ็ง ไม่สะดวก  ด้วยเหตุนี้ เหล่าธรรมกาย จึงเนรมิตสร้างตัวเองออกมาอีกตัว เพื่อทำการสร้างทุกสรรพสิ่งใน 3 ภพภูมิ ทั้งในโลกและปรโลก แทนตนเอง คือ สร้างพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ หรือสัมโภคกายขึ้นมาดำเนินงานการสร้าง  ดำเนินการทำให้สิ่งที่สร้างขึ้นตั้งอยู่ และดำเนินการทำลายพวกมันไปเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

-   พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกาย 
ในศาสนาพุทธเรียกว่า พระโพธิสัตว์อรหันต์ หรือพระวิสุทธิเทพ
-   พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกาย 
ในศาสนาอื่นทั่วโลกเรียกว่า พระเจ้า หรือ องค์พระผู้เป็นเจ้า

 พระเจ้า หรือ องค์พระผู้เป็นเจ้าแยกชื่อตามศาสนาก็คือ

1.   พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกายในศาสนาพราหมณ์(ฮินดู) = พระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์  หรือ ตรีมูรติ 
2.   พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกายในศาสนาคริสต์เรียกว่า พระยะโฮวา(พระบิดา) ซึ่งแยกออกเป็นพระบุตร และพระจิต
3.   พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกายในศาสนาอิสลาม ไม่มีการแยกเป็นพระบุตรและพระจิต  มีแต่อัลเลาะห์  อัลลอฮฺ,ซึ่งเป็นพระบิดาเท่านั้น  [112.1] จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮ์ผู้ทรงเอกกะ

- พระบุตร  ศาสนาอิสลามเรียกว่า  รอซูล(ผู้แทนพระเจ้า)แทน  เพราะพวกเขาไม่เข้าใจว่า  อัลลอฮ์ผู้ทรงเอกกะ สามารถอวตารหรือแบ่งตัวของพระองค์เอง  จะออกเป็นกี่องค์ก็ได้  ไปนึกคิดว่าบุตรต้องมาจากการผสมพันธุ์แบบมนุษย์และสัตว์เท่านั้น  พวกอิสลามจึงไม่ยอมรับพระเยซูในฐานะพระบุตร แล้วแย้งด้วย simple reason ว่า พระเจ้าจะเป็นบุตรของพระเจ้าอีกยังไง....งงว่ะ

- ส่วนพระจิตในศาสนาคริสต์  คือ ตัวมโนธรรม  ผู้สอนธรรมในจิตให้มนุษย์ มโนธรรมก็เป็นการอวตารแบ่งตัวแบ่งภาคของอัลลอฮ์ผู้ทรงเอกกะเช่นเดียวกัน  อิสลามยอมรับว่าพระยะโฮวาก็คืออัลเลาะห์  แต่ไม่ยอมรับอำนาจของอัลเลาะห์ว่า  สามารถอวตารแบ่งตัวแบ่งภาคเป็นพระบุตรและพระจิตได้  การไปเรียกรอซูล(ผู้แทนพระเจ้า)  เป็นแค่การเบี่ยงประเด็นออกไปเท่านั้น จะเรียกว่า บุตร หรือ ผู้แทนพระเจ้า หรือจะเรียกว่า อวตาร  ทุกคำก็ล้วนหมายถึงพระเจ้าแยกพระองค์ออกมาทั้งนั้น

- แม้แต่นิยามอัลลอฮ์ ถ้าเทียบไปเทียบมาก็ตรงกับคำว่า พระพุทธเจ้าภาคดำ
(ผู้ทรงความเมตตาปราณี+ความยุติธรรมสูงสุด)  ในขณะที่พระยะโฮวา ถ้าเทียบไปเทียบมาก็ตรงกับคำว่า พระพุทธเจ้าภาคขาว(ผู้ทรงความเมตตาปราณีสูงสุดสำคัญกว่าความยุติธรรมสูงสุด)

สุดท้าย  ธรรมกายก็เนรมิตที่อยู่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์(กายทิพย์อมตะ)ขึ้นมา  เรียกว่าเมืองนิพพาน หรือพุทธเกษตร หรือสวรรค์นิรันดร  และให้พุทธภูมิ ที่อยู่ของธรรมกาย  เป็นแดน(เขต)หนึ่งในพุทธเกษตร

สรุป

จากจิตหนึ่ง ที่เป็นจิตว่างเฉยๆ ที่ปิดswitchเจตสิก(การคิดนึกทุกอย่าง)  ณ จุดใดจุดหนึ่งก่อนกาลเวลา พอจิตว่างเปิดswitch การคิดนึกทุกอย่าง  อย่างแรกก็นึกคิด คือ...ให้ตัวเองมีรูปหรือร่างที่ไม่มีใครในทุกภพภูมิมองเห็นได้ เรียกว่า "ธรรมกาย"  แต่ธรรมกายอยู่ในสมาธิฌานเกือบตลอดเวลา  ด้วยเหตุนี้ธรรมกายจึงเนรมิตสร้างตัวเองออกมาอีกตัว เพื่อทำการแทน คือ สร้างพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์อมตะ  หรือสัมโภคกาย...จำนวนมากมายขึ้นมา  เพื่อดำเนินงานการสร้างทุกสรรพสิ่งใน 3 ภพภูมิ ทั้งในโลกและปรโลก และควบคุมดูแลปกครองทุกสรรพสิ่งด้วย

0 comments:

แสดงความคิดเห็น