จิตชั่วๆยังสร้างกายและบ้านเมืองได้ ทำไมจิตบริสุทธิ์จะสร้างกายและบ้านเมืองไม่ได้?

คุณ oneness และคุณนราธิป ครับ

จิตไม่สะอาดอย่างพวกเรา และกรรมของพวกเรา  ยังดึงธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ มาสร้างกายเนื้อมนุษย์ให้เราเข้าไปสิงร่างเลย  พอเราตาย จิตของพวกเรา  ก็ร่วมกันไปสร้างสวรรค์ นรก ถึง 31 ภูมิอยู่ได้อีก  

อย่าไปสงสัยเลยว่า  จิตมหาบริสุทธิ์ขั้นพระเจ้าหรือพุทธะ ที่มีฤทธานุภาพสูงสุด  ทำไมจะไม่สามารถสร้างกาย สร้างบ้านเมือง ให้ตนเองอยู่ได้

นามรูป หรือขันธ์ 5 = กายและจิตของมนุษย์และสัตว์
นามกาย หรือ อทิสมานกาย = กายทิพย์และจิตของเทวดา เปรต ยักษ์ พรหม ฯลฯ
ธรรมกาย = กายและจิตของผู้บรรลุธรรม

จะเห็นว่า นาม และธรรม  ก็คือจิต  นามคือจิตไม่บริสุทธิ์  ธรรมคือจิตบริสุทธิ์  ส่วนรูปหรือกายก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นอะไร

สรุป ถ้าไม่ต้องการสร้างสิ่งใด  ก็ดิ่งจิตเข้าสู่พระนิพพาน(จิต)ขั้นมหาสุญญตาไปก็สิ้นเรื่อง

คุณลุงขา...
จิตที่บริสุทธิ์แล้ว ไม่หวนคืน เจ้าค่ะ

ตอบ

ผมกำลังจะเรียกคุณonenessว่าป้าแล้ว  คุณดันมาเรียกผมว่าคุณลุงซะก่อน
จิตมันมี 2 จิตครับ  

1. จิตในปฏิจจสมุปบาท คือจิตสังขาร เป็นสังขตธาตุ เกิด แก่ เจ็บ ตายได้  
2. จิตในนิพพาน เป็นจิตมหาบริสุทธิ์ หรือจิตหลุดพ้น หรือจิตพ้นวิเศษ จิตตัวนี้เป็นอสังขตธาตุ ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

จุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ คือ นำจิตสังขารให้กลับบ้านเดิมให้ได้มากที่สุด  คือ กลับไปเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ หรือจิตหลุดพ้น เหมือนเดิมให้ได้

เพื่อจะกลับบ้านเดิม  พระอรหันต์ทุกองค์ ต้องละลายหรือดับจิตสังขาร(ละลายนามกาย-อทิสมานกาย และละลายนามรูป-กายมนุษย์) ที่เวียนว่ายตายเกิดก่อน  จึงจะได้ธรรมกาย  แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเหลือแต่ตัวธรรม(จิตมหาบริสุทธิ์) ละทิ้งธรรมกายเข้านิพพานที่เป็นมหาสุญญตาไปเลย  หรือว่าจะอยู่ในภาวะธรรม+กาย(ธรรมกาย)ต่อไป

หรือจะตัดสินใจนิรมิต พระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือกายทิพย์บริสุทธิ์(พระโพธิสัตว์อรหันต์)ขึ้นมาเพื่อช่วย 31 ภพภูมิต่อไป

สรุป

จิตที่บริสุทธิ์ที่ไม่หวนคืนแล้ว คือ กายเนื้อมนุษย์(นามรูป) และกายทิพย์(นามกาย) จ่ะ คุณยาย oneness  ส่วนจิตที่เป็นตัวธรรม มันไม่เคยเกิด ไม่เคยแก่ ไม่เคยเจ็บ ไม่เคยตาย  ก็เลยมาคิดเล่นเกมส์ค้นหาตัวเองแบบหฤโหดยังไงเลย

ลองฟังที่หลวงปู่มั่นพูดเรื่องนี้ดีกว่า

(แดนนิพพาน)เป็น แดนของวิสุทธิเทพคือผู้เป็นพระอรหันต์ ที่ละลายกายทิพย์หมดสิ้นแล้ว เหลืออยู่แต่จิตสุกใสเป็นดวงประกายพรึกพระ อรหันต์สถิตอยู่ในแดนพระนิพพานนั้น.......

ไม่ใช่กายทิพย์ธรรมดาเหมือนโอปปาติกะทั้งหลาย กายทิพย์ หรือ ธรรมกาย(กายหรือรูป) ของพระอรหันต์ในแดนนิพพานเป็นกายทิพย์ที่นฤมิตขึ้นด้วยธรรม(จิตมหาบริสุทธิ์)  ไม่ได้เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติของโลกวิญาณ  ร่างธรรมกายของพระอรหันต์เป็นทิพย์ละเอียดใสสะอาดใสเป็นประกายคล้ายแก้วประกายพรึก  มีรัศมีสว่างไสวมากกว่าพระพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบเพราะความรู้สึกอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์

Phonsak : โคตมะพระพุทธเจ้าของเรา ก็สร้างดินแดนที่เรียกว่า "พุทธเกษตรศรีศากยะมุนี" ขึ้นมา เพื่อเป็นที่ให้เหล่าสาวกต่างๆได้อาศัยอยู่ชั่วคราว  เพื่อพบปะสังสรรค์กัน หรือจะอาศัยอยู่ถาวรก็ได้  เพราะสาวกที่ถึงอรหันต์แล้ว  ธรรมกายของเขาย่อมสร้างทุกสรรพสิ่งได้ด้วยใจของตนเอง

oneness : ช่างเป็นพุทธเกษตร ที่เปราะบางมากเลยนะเจ้าค่ะ
เพราะพุทธเกษตรนี้ รองรับพระพุทธเจ้า สองพระองค์ไม่ได้

พระนาคเสนตอบว่า
“ขอถวายพระพร หมื่นโลกธาตุนี้ ทรงไว้ได้เพียงพระคุณธรรมของพระพุทธเจ้า คราวละพระองค์เดียวเท่านั้น ถ้ามีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้นพร้อมกันถึง ๒ พระองค์ หมื่นโลกธาตุนี้จะทรงอยู่ไม่ไหว จักถล่มทะลาย.......

Phonsak ตอบ:  คุณกำลังเข้าใจผิด  และตีความผิด  หมื่นโลกธาตุนี้หมายถึงจักรวาลต่างๆในสังสารวัฏ  แต่พุทธเกษตร และ "พุทธเกษตรศรีศากยะมุนี" ไม่ได้อยู่ในจักรวาล  พุทธเกษตรอยู่นอกจักรวาล หรือนอกโลกธาตุในสังสารวัฏ  

โลกธาตุ = จักรวาล  คือ โลกธาตุ ในทางพระพุทธศาสนานั้น มีแสนโกฏิจักรวาลหรือ 1ล้านล้านจักรวาล  นั้นคือโลกธาตุในสังสารวัฏ  

หมื่นโลกธาตุ ที่มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นได้องค์เดียว เป็นโลกธาตุในสังสารวัฏของผู้ที่ยังไม่บรรลุธรรมขั้นอรหันต์   แต่พุทธเกษตร เป็นดินแดนที่มีพระพุทธเจ้าต่างๆทรงประทับอยู่  ยังไม่เข้าใจหรือครับว่า โลกธาตุพุทธเกษตร ไม่ใช่โลกธาตุทั่วๆไป ที่อยู่ภายใต้กฎแห่งอนิจจังของพวกจิตสังขาร  โลกธาตุพุทธเกษตรเป็นโลกธาตุที่เป็นนิจจัง โลกธาตุทั่วไปเป็นโลกธาตุที่เปราะบาง  แต่โลกธาตุพุทธเกษตรนั้นเป็นโลกธาตุที่ไม่เปราะบาง

พูดให้มันชัดๆไปเลย  พุทธเกษตรต่างๆเป็นเมืองพระนิพพาน หรือ เป็นโลกธาตุแดนทิพย์อมตะ ที่พวกกายทิพย์ของพระอรหันต์โพธิสัตว์ หรือกายทิพย์ของผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระเจ้าองค์นั้นที่ยังไม่บรรลุอรหันต์  เขาอยู่กัน โลกธาตุพุทธเกษตรนี้พ้นจากกฎแห่งอนิจจัง

พุทธเกษตรต่างๆเกิดขึ้นมาได้  เพราะบรรดานิพพานจิตระดับพระพุทธเจ้านิรมิตขึ้นมา  หรือเป็นพุทธเกษตรที่บรรดาพระโพธิสัตว์อรหันต์ต่างๆ  ขอให้พระพุทธเจ้าหรือพระบิดาองค์ใดองค์หนึ่งนิรมิตสร้างขึ้นมาให้ตน  เช่น สรวงสวรรค์ของพระเยซูคริสต์  พระเยซูท่านก็ขอให้พระยะโฮวา(พระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง)นิรมิตสร้างขึ้นมาให้ท่าน  เพื่อให้บรรดาผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระเยซู ได้อาศัยอยู่  และปฏิบัติธรรมเลื่อนระดับไปเรื่อยๆจนเข้านิพพานกันหมด

คุณ oneness ครับ....ไหนๆก็พูดเรื่องนี้แล้ว  ผมเลยถือโอกาสพูดเรื่องต่อไปนี้ด้วยเลย  

สวรรค์ชั้นดุสิต อยู่ในสังสารวัฏ  แต่พุทธเกษตรดุสิต คือแดนหนึ่งในเมืองพระนิพพาน  สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในสังสารวัฏ  แต่ทั้ง 2 แห่งนั้นไม่ได้เป็นสถานที่ที่เปราะบางแต่อย่างไร  เป็นแดนอมตะทั้งนั้น  

ในทางทฤษฎี สวรรค์ชั้นดุสิตสามารถดับสลายไปได้  เช่นเดียวกับสวรรค์นรกใน 31 ภพภูมิที่สามารถดับสลายไปได้ เมื่อจิตสังขารทั้งจักรวาลเข้านิพพานกันหมดแล้ว  แต่พุทธเกษตรดุสิตจะคงอยู่ชั่วนิรันดร

ในทางทฤษฎี  สวรรค์นรกใน 31 ภพภูมิ เป็นอนิจจัง  แค่เกือบจะเป็นนิรันดรเท่านั้น  เรียกว่า "อยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์  หรือ ชั่วฟ้าดินสลาย"  เพราะชั่วกัปชั่วกัลป์ ชั่วฟ้าดินสลาย  มันยังมีอายุน้อยกว่าชั่วนิจนิรันดรไม่ใช่หรือครับ  พุทธเกษตรต่างๆอยู่ชั่วนิจนิรันดรครับ

อ้างจาก: New6719421

ยังไปไม่ถึง ตรงนั้น ก็แล้วแต่จิตใคร จะปรุงแต่ง ในโลกทิพย์ จิตกำหนดสร้างทุกอย่าง ตามแต่จิตเราจะจินตนาการ

ถูกต้องเลยครับ...  แต่คนที่ไปถึงตรงนั้น  แล้วเป็นพระพุทธเจ้า ที่ศาสนาเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า พระบิดา  จิตมหาบริสุทธิ์ของท่าน ที่ไม่มีกิเลส ตัณหา ไม่มีความโลภ ความโกรธ ความหลง  จิตมหาบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า  จะเข้านิพพานที่เป็นความว่าง มหาสุญญตาไป  ไม่กลับมาอีกก็ได้

หรือจิตมหาบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้า จะคิดปรุงแต่ง สร้างโลกทิพย์เมืองพระนิพพานก็ได้ ไม่ใช่หรือครับ เพราะจิตกำหนดสร้างทุกอย่าง ตามแต่จิตเราจะจินตนาการ

จิตดีๆสร้างสวรรค์ สร้างพรหมโลกได้  จิตชั่วๆยังสร้างนรกได้  แล้วทำไมจิตมหาบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าต่างๆ จะสร้างเมืองพระนิพพาน ที่มหายานเรียกว่า พุทธเกษตรไม่ได้ล่ะ  จำไว้นะ  พุทธเกษตรของพระพุทธเจ้าของเรามีชื่อว่า "พุทธเกษตรศรีศากยมุนี"

chunhapong เขียน:   เรื่องกายของจิต หรือรูปในนามนี้ก็เช่นนี้ ทรงตรัสเป็นสมมุติธรรมว่า อาทิสมานกาย กายของจิตหรืออาทิสมานกายนี้มันก็ไม่เที่ยง ตราบใดที่ยังตัดกิเลสไม่หมดเป็นสมุจเฉทปหาน

พระอรหันต์เท่านั้นที่จิตท่านพ้นดี - พ้นชั่วอย่างถาวร จิตท่านก็มีสิทธิ์เข้าสู่แดนพระนิพพานได้อย่างถาวรเช่นกัน อาทิสมานกายของท่านจึงจะเที่ยง ไม่มีเปลี่ยนแปลงอีก เป็นพระวิสุทธิเทพ เทพที่มีอาทิสมานกายบริสุทธิ์คงทน - ถาวร - มั่นคง เที่ยงตลอดกาล

ตอบ

พระอรหันต์ต่างๆจำเป็นต้องละลาย หรือดับอาทิสมานกายที่ไม่เที่ยงของท่านก่อน  แล้วให้กายธรรมหรือธรรมกายของท่าน สร้างหรือนิรมิตกายทิพย์อมตะ ที่เรียกว่า พระโพธิสัตว์อรหันต์ขึ้นมา เพื่ออยู่ช่วย 3 ภพต่อไป

ปกติพระอรหันต์ที่ได้กายธรรม(ธรรมกาย)จะดับหรือละลายกายทิพย์อทิสมานกายของมนุษย์ทิ้งไป  เหมือนหลวงปู่มั่น ภูริภัตโตเล่าไว้ในเรื่อง "นิพพานไม่สูญ" ว่า

(แดนนิพพาน)เป็น แดนของวิสุทธิเทพคือผู้เป็นพระอรหันต์ ที่ละลายกายทิพย์หมดสิ้นแล้ว เหลืออยู่แต่จิตสุกใสเป็นดวงประกายพรึกพระ อรหันต์สถิตอยู่ในแดนพระนิพพานนั้น.......

ไม่ใช่กายทิพย์ธรรมดาเหมือนโอปปาติกะทั้งหลาย กายทิพย์ หรือ ธรรมกาย ของพระอรหันต์ในแดนนิพพานเป็นกายทิพย์ที่นฤมิตขึ้นด้วยธรรม  ไม่ได้เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติของโลกวิญาณ  ร่างธรรมกายของพระอรหันต์เป็นทิพย์ละเอียดใสสะอาดใสเป็นประกายคล้ายแก้วประกายพรึก  มีรัศมีสว่างไสวมากกว่าพระพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบเพราะความรู้สึกอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์

กายธรรม(ธรรมกาย)จะใช้เวลาสวนใหญ่อยู่ในนิโรธ  แต่ถ้าท่านจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับชาวโลก และผู้ที่อยู่ใน 31 ภพภูมิ  กายธรรม(ธรรมกาย)จะนิรมิตกายทิพย์อมตะอีกดวงออกมา  มหายานเรียกว่า "สัมโภคกาย หรือพระโพธิสัตว์" สมเด็จพระญาณสังวร. สมเด็จพระสังฆราชเรียกว่า "พุทธนิมิต"  ศาสนาคริสต์เรียกว่า "พระวิญญาณบริสุทธิ์"