อวโลกิเตศวรเป็นกวนอิมที่เป็นพุทธเจ้าอยู่แล้ว แต่กวนอิมองค์อื่นอาจจะยังไม่เป็น

1. เคยมีผู้กล่าวถึงเจ้าแม่กวนอิมให้หลวงปู่ฟัง
หลวงปู่ดู่ท่านพูดยิ้ม ๆ ว่า “อ้อ เจ๊นะเหรอ” ท่าน ว่าเพียงเท่านี้

2. เมื่อกล่าวถึงเจ้าแม่กวนอิมหรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ตามประวัติแล้วก็ต้องนับว่าท่านตั้งความปรารถนาไว้สูงยิ่ง  คือปรารถนาจะรื้อขนสัตว์โลกไปจนกระทั่งไม่มีเหลือ แต่ถึงกระนั้น ด้วยเพศภาวะที่เป็นหญิงจึงทำให้สันนิษฐานว่าท่านยังมิได้รับพุทธพยากรณ์จาก พระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง (เพราะหากได้รับการพยากรณ์แล้ว ย่อมจะเที่ยงแท้ว่าอีกกี่อสงไขยจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า รวมทั้งย่อมจะเกิดเป็นชายเท่านั้น เป็นต้น)

ตอบ ข้อ 2...

โพธิสัตว์อวโลกิเตศวร บรรลุธรรมเป็นพระพุทธเจ้านานแล้ว  โพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ท่านมีบารมีสูงกว่าพระพุทธเจ้าของเราเสียอีก  เพราะท่านเป็นพระพุทธเจ้าภาคดำ  ชื่อของท่านคือ "พระสัทธรรมวิทยาตถาคต"  แต่พระสัทธรรมวิทยาตถาคตจะเข้าปรินิพพานเป็นจิตมหาบริสุทธิ์ไม่ยุ่งกับ 3 ภพอีกแล้ว  พระสัทธรรมวิทยาตถาคตจึงนิรมิตตัวของท่านอีกองค์หนึ่งออกมา กลายเป็นหญิง(หญิงกับชายไม่มีความแตกต่างกันในระดับพระเจ้าหรือพุทธะ-พระเจ้าไม่ใช่สัตว์นะครับ  จึงไม่เป็นต้องมีเครื่องเพศชายหญิง และไม่จำเป็นต้องมีอวัยวะภายใน เช่นตับ ไต ไส้ พุง)

พระอวโลกิเตศวรองค์นี้เป็นจิตบริสุทธิ์ของกวนอิม ที่เป็นมนุษย์และเทพทุกองค์ ซึ่งเป็นภาคขาว ที่ยึดหลักความเมตตากรุณาเหนือความยุติธรรม  ส่วนกวนอิมภาคดำยึดหลักความยุติธรรมเหนือความเมตตากรุณา

พูดง่ายๆ  เจ้าแม่กวนอิมที่เป็นมนุษย์ ทุกองค์ล้วนเป็นภาคขาวทั้งสิ้น  บางองค์ก็ยังต้องสร้างบารมีต่อเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า  เพราะเป็นพระพุทธเจ้ามีบารมีขนสัตว์โลกไปนิพพานได้มากกว่า  นั่นเป็นเรื่องของเจตจำนงค์ของกวนอิมองค์นั้น  แต่พระอวโลกิเตศวรเป็นพระพุทธเจ้าภาคดำ หรือกวนอิมภาคดำ  บารมีท่านล้นเหลืออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสร้างบารมีอะไรเพิ่มก็ได้  

เรื่องใหญ่ๆอย่างนี้  มีการตีความจากผู้ไม่เข้าถึงธรรมมากมาย  ทำให้ความจริงเพี้ยนไปหมด