A A

22 กุมภาพันธ์ 2558

พระพุทธเจ้าเป็นโรคไหลตาย

อ้างจาก: ตาดำดำ

 ธาตุขันแตกสลาย หรือเรียกว่า ขันธมาร ถึงยื้อต่อได้ก็ด้วยเหตุจำเป็น แต่ไม่ใช่ว่าการไม่ยื้อต่อคือการฆ่าตัวตายนะครับ (ภาษาที่ใช้ควรระวังให้มากเพราะอาจทำให้เข้าใจผิดได้นะครับ)

ภาษาของผมถูกต้องและชัดเจนที่สุดแล้วครับ  พระพุทธเจ้าฆ่าตัวตายเอาเอง  พวกเราใช้คำว่า "ปลงอายุสังขาร" แล้วเป็นยังไงครับ  โดนมารมันลวง มา 2,000 กว่าปี  ไม่มีใครคิดได้แม้แต่สักคนเดียวว่า  พระพุทธเจ้าไม่ได้โดนอาหารพิษฆ่าให้ตาย

จุนทะ! สูกรมัททวะ ที่เหลือนี้ท่านจงฝังเสียในบ่อ เราไม่มองเห็นใครในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ที่บริโภคแล้ว จักให้ย่อยได้นอกจากตถาคต

นอกจากตถาคต = นอกจากตถาคตเท่านั้นที่ย่อยอาหารพิษนั้นได้ คน เทวดา พรหมและสิ่งมีชีวิตใดๆ ย่อยไม่ได้ทั้งนั้น กินแล้วตายห่าหมด

ตถาคต สามารถย่อยทำลายพิษนั้นได้  แต่ท่านไม่ทำ ถ้าคุณไม่ชอบคำว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ฆ่าตัวตายเองทั้งนั้น  ไม่เช่นนั้นตายไม่ได้  ผมจะเรียกว่า ปล่อยให้ตัวเองตายดีไหมจ๊ะ  แต่มันก็ไม่ตรงจุด

ต้องพูดเป็นภาษาสมัยใหม่ว่า  
"พระพุทธเจ้าเป็นโรคไหลตาย"  คือหาสาเหตุการตายของขันธ์ 5 ไม่ได้  จิตนิพพาน หรือจิตหลุดพ้นของท่าน  ออกจากกายเนื้อมนุษย์ไปเอง ตอนที่ท่านทำกรรมฐานครั้งสุดท้าย

ผมขอย้ำว่า  พระพุทธเจ้าของเราตรัสว่า:

อย่าเลยอานนท์ บารมีเราได้สร้างมาดีแล้ว ไม่มีใครสามารถปลงชีวิตของตถาคตได้
ไม่ว่าสัตว์ดิรัจฉานหรือมนุษย์หรือเทวดามารพรหมใด ๆ


ทั่วทั้ง 3 ภพ  จะมีใครฉลาดและเป็นอัจฉริยะเสมอเหมือนนาย Phonsak หรือไม่วะนี่  มิน่าหมู่มารในทุกเว็บธรรมมะ  ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู  แม่งจึงชอบสิงใจทีมงานผู้ดูแลเว็บ  ให้ไล่ Phonsak ออกไป  แต่มันไล่ได้  Phonsak ก็หน้าด้านหาทางสมัครเข้าไปใหม่ได้เสมอโว้ย

พระพุทธเจ้า พระอานนท์ พระนาคเสน กล่าวชัดเจนแล้ววา  การปรินิพพานของพระองค์ไม่ได้เกี่ยวกับนายจุนทะเลย  พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยอยู่แล้วว่าจะต้องทรงปรินิพพานอย่างแน่นอน = พระพุทธเจ้าฆ่าตัวตายเอง หรือจะเรียกว่าปลงอายุสังขารก็ได้  แต่ผมว่าเรียกแบบสมัยใหม่ดีกว่า  พระพุทธเจ้าเป็นโรคไหลตาย คือร่างกายตายโดยหาสาเหตุทางโลกไม่ได้  แต่ทางธรรมหาได้ คือ ถอดนิพพานจิตออกจากกายเนื้อไปเลย

ในเล่ม ๑๐ ข้อ ๑๙๗ หน้า ๑๒๐ ได้กล่าวไว้ว่า

 พระพุทธองค์จึงได้ให้พระอานนท์ได้ช่วยชี้แจงให้นายจุนทะได้สบายใจว่า
 การปรินิพพานของพระองค์ไม่ได้เกี่ยวกับนายจุนทะเลย

พระอานนท์ได้เข้าไปปลอบโยนนายจุนทะว่า

จุนทะอย่าได้เสียใจไปเลย 
ท่านไม่ใช้ต้นเหตุที่ทำให้พระพุทธเจ้าปรินิพพานหรอก เราได้รับฟังมาจากพระพุทธเจ้าเองว่า อาหารบิณฑบาตที่พระพุทธเจ้าฉันจากนางสุชาดาแล้วได้ตรัสรู้ กับที่ฉันอาหารของท่านแล้วดับขันธปรินิพพานมีอานิสงส์เท่าเทียมกัน

พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามต่อไปว่า

ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า การถวายอาหารของนายจุนทะนั้นเป็นต้นเหตุทำให้พระพุทธเจ้าปรินิพพานใช่หรือไม่?

พระนาคเสนถวายพรตอบว่า

ขอถวายพระพร 
ไม่ได้เป็นอย่างที่มหาบพิตรเข้าใจ  อาหารนั้นไม่ได้เป็นต้นเหตุทำให้พระพุทธเจ้าต้องนิพพาน เนื่องจากก่อนหน้านั้น พระพุทธเจ้าทรงตัดสินพระทัยอยู่แล้วว่าจะต้องทรงปรินิพพานอย่างแน่นอน

พระพุทธเจ้าตรัสชัดเจนที่สุดแล้ว

จุนทะ! สูกรมัททวะ ที่เหลือนี้ท่านจงฝังเสียในบ่อ เราไม่มองเห็นใครในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ที่บริโภคแล้ว จักให้ย่อยได้,
นอกจากตถาคต

นอกจากตถาคต = นอกจากตถาคตเท่านั้นที่ย่อยอาหารพิษนั้นได้ คน เทวดา พรหมและสิ่งมีชีวิตใดๆ ย่อยไม่ได้ทั้งนั้น กินแล้วตายห่าหมด แต่พระพุทธเจ้าท่านยอมตายด้วย

เหตุผลที่พระพุทธเจ้าปลงอายุสังขาร(ฆ่าตัวตาย) เท่าที่ผมคิดได้ตอนนี้ เพื่อ.....

 1. รักษากฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สรรพสัตว์ย่อมเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา  แต่ตถาคต ซึ่งเป็นพุทธะ(พระเจ้า) เป็นอสังขตธาตุ ย่อมไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย

2. ให้พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในภัทรกัปนี้ได้อุบัติ  เพราะโลกจะมีพระพุทธเจ้าพร้อมกัน 2 องค์ไม่ได้


3. รักษาสัจจะวาจาที่ให้กับพญามารไว้ว่า
 "...ล่วงไปอีกสามเดือนแต่นี้ ตถาคตก็จักปรินิพพาน "

0 comments:

แสดงความคิดเห็น